สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Pantip ที่น่ารักทุกท่าน

           วันนี้มีโอกาสได้มาเดินงานตลาดนัดวิถีวิทย์ 2560 ณ คลองผดุงกรุงเกษม งานมีตั้งแต่วันที่ 9 - 29 ม.ค. 60 ใครว่างๆอย่าลืมมาเที่ยวงานกันนะคะ มาอุดหนุนสินค้าภูมิปัญญาของคนไทยด้วยกัน (แอบกระซิบว่ามีช่วงนาทีทอง ขอบอกว่าช่วงนี้คึกคักมาก ได้ของดีในราคาถูกใครจะไม่ชอบจริงไหมคะ) ภายในงานมีสินค้าจำหน่ายมากมาย ซึ่งสินค้าที่วางขายได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในเรื่องของคุณภาพไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอน สินค้าส่วนมากจะเป็นของกินของใช้ทั่วไป เช่น ผ้าไทย อาหารไทย สมุนไพร ข้าวไทย และอีกมากมาย เรียกว่ามาเดินงานเดียวได้ของครบกลับบ้านไปเลย

ทางเข้างานมีสองฝั่ง เราเข้ามาจากทางฝั่งอรทัย

บรรยากาศภายในงาน มีแอร์เดินสบายๆอากาศไม่ร้อน แอบหนาวด้วยซ้ำไป

สินค้าบางส่วนที่จำหน่ายในงาน น่าซื้อทุกอย่างเลย ^^

แวะซื้อลิปมัน 1 แท่งราคา 60 บาทไม่แพงอย่างที่คิด เป็นลิปมันข้าวก่ำ แปลกใหม่ดีค่ะ

ร้านนี้เราก็ชอบ ขนมอร่อยดีกินเพลิน ใครเดินผ่านแวะชิมก่อนได้นะคะเขามีให้ชิมด้วย

ในงานมีบูธขายข้าวด้วย แวะมาอุดหนุนข้าวจากชาวนาไทยกันเถอะค่ะ

เราสั่งขนมจีนกะทิกับน้ำยาหวานปนกัน อร่อยดีจานละ 30 บาท
เสียดายตอนนั้นลืมขอดูน้ำยาซาดิสว่าเป็นยังไง ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย


โซนนี้เป็นโซนตลาดน้ำ มีแค่ศุกร์-อาทิตย์เท่านั้นนะคะ
จัดอยู่ด้านนอกมีอาหารจำหน่ายหลายอย่าง บรรยากาศสบายๆยามเย็นอากาศไม่ร้อน


มาถึงร้านที่เราชอบมาก คือ เห็ดแครง เป็นบูธของอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ถ้าไม่มาเดินในงานนี้จะไม่รู้เลยว่ามีเห็ดที่ชื่อว่า “เห็ดแครง” เขามีให้ลองชิมด้วย กินแล้วมันจะกรุบๆ
ไม่ได้นิ่มแบบเห็ดชนิดอื่น รสชาติอร่อยดีค่ะ ไม่พลาดที่จะซื้อไปทานเองและซื้อไปฝากที่บ้าน
ผู้ใหญ่น่าจะชอบทานกัน น้ำพริกมะขามอ่อนก็อร่อยมากราคา 25 บาทเองไม่แพงด้วย


อีกบูธที่เราสะดุดตาจนต้องมาตั้งกระทู้ คือ บูธ Creaturelab Network Solution

อ่านชื่อบูธและดูสินค้าที่เอามาแสดงแล้วเกิดความสงสัยว่า คืออะไร? เพราะสินค้าในงานส่วนมากจะเป็นของกินของใช้ทั่วไปแทบทั้งสิ้น แต่บูธนี้ดูไอทีจ๋ามาก แต่ก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นกล้องวงจรปิด เพราะแอบเห็นรูปตัวเองจากทีวี แต่กล้องของเขาชัดจริงๆ เห็นภาพแล้วนึกว่าไม่ได้มาจากกล้องวงจรปิด  พนักงานมีการชวนให้เราดูโฆษณาของเขาด้วยนะ บอกว่าดูแล้วต้องซึ้งแน่ๆ อาจร้องไห้กันทีเดียว (ขนาดนั้นเลย? ได้แต่คิดแต่ไม่กล้าถาม)

สินค้าไฮไลท์ที่เขาแนะนำ คือ SmileFax งงซิ! อะไรคือ SmileFax แฟกซ์ยิ้มได้เหรอ? ไม่น่าใช่นะ!
แต่น่าสนใจเลยให้พี่พนักงานสาธิตวิธีการใช้งานให้ดู เพราะที่ร้านของเรากำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อเครื่องแฟกซ์ดีไหม ตอนแรกไม่เคยคิดจะซื้อ แต่ช่วงหลังเวลาติดต่องานยืนยันการสั่งซื้อต่างๆ ชอบเจอคนที่ต้องการให้ส่งแฟกซ์เท่านั้น พอบอกว่าขอส่งทางไลน์หรืออีเมล์ก็ไม่ยอม แล้วพอเขาส่งแฟกซ์กลับเราก็ต้องมานั่งเฝ้าอีก ถ้าได้แบบรับส่งแฟกซ์ได้ทุกที่คงสะดวกดี

พี่พนักงานที่บูธบอกว่าสินค้าของเขาได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (ว่าแล้วทำไมถึงมาออกบูธงานนี้ได้) เป็นแอปพลิเคชันรับส่ง FAX ผ่านมือถือ แค่มีมือถือและอินเตอร์เน็ต ก็สามารถรับส่งแฟกซ์ได้ทั่วไทย  (แอบมโนไปเองที่ตั้งชื่อว่า SmileFax อาจมาจากการที่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็รับส่งแฟกซ์ได้ง่ายๆ ยิ้มแย้มกันไปเลย)

หน้าแอปพลิเคชัน SmileFAX
ถ่ายภาพหรือเอกสารต่างๆที่เราต้องการได้เลย ภาพที่ได้ออกมาชัดดีค่ะ สามารถปรับเอกสาร ตัดภาพ หมุนภาพได้ด้วย

กดเบอร์แฟกซ์ปลายทาง ซึ่งสามารถสร้างเป็น contact ไว้ได้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์เบอร์โทรศัพท์
หรือป้องกันการลืมเบอร์โทรศัพท์  มีสถานะการส่งแจ้งเตือน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะส่งไม่ถึง
หน้าสำหรับรับแฟกซ์  สามารถเก็บบันทึกแฟกซ์ไว้ในเครื่องได้ หรือจะแชร์เพื่อปริ้นออกมาก็ได้

ฟังพี่เขาอธิบายจบแล้วรู้สึกว่าขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากแฮะ ถ่ายรูปปุ๊บส่งไปที่เครื่องแฟกซ์ปลายทางได้เลย

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือ ตู้ Refun หรือตู้รับซื้อขวดนั้นเอง ตอนแรกนึกว่าเป็นตู้ของบูธแฟกซ์ เพราะเห็นอยู่ติดกันเลยไปขอความรู้จากพี่เขาอีกครั้ง แต่พี่บอกว่าไม่ใช่ตู้ของบูธพี่ แต่สุดท้ายก็ยังใจดีมาแนะนำการใช้งานให้ดู และเป็นพรีเซนเตอร์ให้อีก ขอบคุณนะคะ (ข้อเสียของการมาเที่ยวคนเดียวได้แต่ถ่ายรูปงานวนไป ไม่ได้ถ่ายตัวเองเลย T_T)

การทำงานของตู้ คือ ให้เราใส่ขวดน้ำเข้าไปในช่องวงกลม แล้วหันด้านที่เป็นบาร์โค๊ดของขวดให้ตรงกับรูปบาร์โค๊ดที่โชว์บนจอ
เครื่องก็จะทำการสแกนจากบาร์โค๊ดและขึ้นรูปแสดงว่าเป็นขวดยี่ห้ออะไร  หลังจากนั้นจะแจ้งจำนวนเงินที่ได้ ขวดเล็กจะได้ 0.10 บาท และขวดใหญ่ได้ 0.20 บาท
แล้วตู้ก็จะให้เราเลือก ว่าจะรับเป็นคูปองเงินสด สะสมแต้มสมาชิก ฝากเงินธนาคารขยะ หรือบริจาค เราเลือกบริจาคไปค่ะ เสร็จแล้วก็จะมีใบเสร็จออกมาให้ 1 ใบ


การได้มาเดินเปิดหูเปิดตาในงานดีๆก็ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเลย แถมอีกอย่างที่เราชอบมากในงานคือการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมและต่อยอดการสร้างอาชีพ วันที่เราไปบนเวทีสอนทำหมอนรองคอจากผ้าไทย แต่เสียดายเราไปลงทะเบียนไม่ทัน เลยได้แต่ยืนดูเขาสอน เราถ่ายรูปตารางกิจกรรมแต่ละวันมาให้นะคะเผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจมาเรียน (ถ้ามองเห็นไม่ชัด เจ้าหน้าที่ในงานบอกว่าไปดูในเฟสของตลาดนัดวิถีวิทย์ได้ค่ะ เขามีแจ้งกำหนดการไว้)

จบไปแล้วกับการรีวิวครั้งแรกของเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสได้ไปเดินงานดีๆ หรือพบเจออะไรที่น่าสนใจจะมารีวิวอีกครั้ง ฝากติดตามล่วงหน้านะคะ