บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT อยู่ระหว่างทำดีลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารจาก 3 สถาบันการเงิน มูลค่ารวมกันหลายพันล้านบาทคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ หลังปัจจุบันหนี้เสียในระบบอยู่ในระดับสูง กลุ่มสถาบันการเงินเร่งนำหนี้เสียออกมาตัดขายจำนวนมาก ทำให้แนวโน้มธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพปี 2560 คึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปี 2559 ซื้อหนี้เพียง 20,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปี บริษัทมีพอร์ตบริหารหนี้เสียเพิ่มขึ้นแตะ 1.3 แสนล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ระดับ 1 แสนล้านบาท
โดยปัจจุบันสถาบันการเงินเริ่มนำหนี้เสียอายุประมาณ 1 ปี ออกขายกันเพิ่มมากขึ้น ต่างจากเดิมที่หนี้เสียส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 2-3 ปีขึ้นไป สาเหตุหลักมาจากการที่แต่ละแบงก์เริ่มประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า ซึ่งการขายหนี้ที่สดใหม่ ช่วยให้สถาบันการเงินจะได้ราคาประมูลหนี้ที่สูงขึ้น
ด้าน บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM คาดการรับซื้อหนี้ของ SAM ปี 2560 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,000 ถึ 4,000 ล้านบาท จากปี 2559 มูลหนี้ราว 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งมีทั้งหนี้มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล ซึ่งแบงก์ต่าง ๆ ขายพ่วงเข้ามาในพอร์ตด้วย ขณะที่สถานการณ์การขายหนี้เสียของสถาบันการเงินไทยในปี 2560 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสัญญาณเอ็นพีแอลใหม่ในกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เบื้องต้นไม่น่าต่ำกว่า 4 ถึง 5 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2559
JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี....ธุรกิจบริการหนี้เสียคึกคัก คาดหนี้เสียปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้าน(คลิป)
บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT อยู่ระหว่างทำดีลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารจาก 3 สถาบันการเงิน มูลค่ารวมกันหลายพันล้านบาทคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ หลังปัจจุบันหนี้เสียในระบบอยู่ในระดับสูง กลุ่มสถาบันการเงินเร่งนำหนี้เสียออกมาตัดขายจำนวนมาก ทำให้แนวโน้มธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพปี 2560 คึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปี 2559 ซื้อหนี้เพียง 20,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปี บริษัทมีพอร์ตบริหารหนี้เสียเพิ่มขึ้นแตะ 1.3 แสนล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ระดับ 1 แสนล้านบาท
โดยปัจจุบันสถาบันการเงินเริ่มนำหนี้เสียอายุประมาณ 1 ปี ออกขายกันเพิ่มมากขึ้น ต่างจากเดิมที่หนี้เสียส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 2-3 ปีขึ้นไป สาเหตุหลักมาจากการที่แต่ละแบงก์เริ่มประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า ซึ่งการขายหนี้ที่สดใหม่ ช่วยให้สถาบันการเงินจะได้ราคาประมูลหนี้ที่สูงขึ้น
ด้าน บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM คาดการรับซื้อหนี้ของ SAM ปี 2560 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,000 ถึ 4,000 ล้านบาท จากปี 2559 มูลหนี้ราว 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งมีทั้งหนี้มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล ซึ่งแบงก์ต่าง ๆ ขายพ่วงเข้ามาในพอร์ตด้วย ขณะที่สถานการณ์การขายหนี้เสียของสถาบันการเงินไทยในปี 2560 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสัญญาณเอ็นพีแอลใหม่ในกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เบื้องต้นไม่น่าต่ำกว่า 4 ถึง 5 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2559