มาต่อกันสืบเนื่องจากกระทู้เดิมนะครับ https://ppantip.com/topic/36008043 เราได้เที่ยวโดยใช้ Bath เป็นศูนย์กลาง ครั้งนี้เรากลับมาLondon หลังจากเที่ยวข้างนอกแล้ว
มีคนถามมาว่า คนละ 60000 นี่คืออะไร  60000 คือรวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าเข้าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมที่ต่างๆและ ค่าอาหารทั้งหมดแล้วครับ
ไม่รวมของ่ฝากและของช๊อปปิ้งส่วนตัวครับ  สำหรับการใช้ชีวิตในลอนดอนของเรา  เลือกเที่ยวโดยใช้ London pass ครับ
Day5  Bath- London
วันนี้ตื่นมาพร้อมหมอกมหาศาล จัดแจงขนของ โทรจองแท็กซี่ให้มารับเนื่องจากแต่ละคนกระเป๋าใหญ่กว่าตัวทั้งนั้น มาถึงสถานี ขึ้นรถ พร้อมกอดลาเพื่อนของเรา  เราขึ้นรถมาเรื่อยๆ จนมาถึง London ยามเที่ยง
ผมนัดแนะกับ Jennifer เจ้าของห้องพัก ผ่าน AirBnb  ห้องพักใกล้สถานี Paddington เราเข้าที่พัก พร้อมการ orientation ของ Jennifer ที่พักเราอยู่ Basement มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ พร้อมด้วยครัว และเครื่องซักผ้า ที่สำคัญ heater อันแสนอบอุ่น ในราคา 5100 บาท ต่อคืน
ถามว่าผมนอนไหน ก็โซฟาสีน้ำตาลนี่แหละครับ จริงๆ Jennifer ยังมีเตียงเสริมให้ด้วย แต่ผมขี้เกียจกางครับ นอนโซฟานี่แหละง่ายดี

เนื่องจากหมอกวันนี้หนักเหลือเกินแผนที่วางว่าจะไป Greenwich เลยเลื่อนออกไป ผมเลือกที่จะเที่ยวพระราชวัง Kensington  เราเดินผ่านแถบ Bayswater  Queensway แล้วก้มาถึง สวน HydePark ผมว่าสวนที่สวยและมีเสน่มากนอกจากนี้ยังมีกระรอกวิ่งเล่นไปมา แบบไม่กลัวคนเลย  
เดินมาสักพัก ก็ถึงพระราชวัง Kensington

พระราชวังKensington เป็นพระราชวังตั้งอยู่ที่โบโรเค็นซิงตันและเชลเซีย ลอนดอน เป็นวังที่เดิมสร้างสำหรับดยุคแห่งนอตติงแฮม เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 พระราชวังเค็นซิงตันใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ในปัจจุบันเป็นที่ประทับของเจ้าฟ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ และเบอร์จีต ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์; เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเค้นทและแคทเธอริน ดัชเชสแห่งเค้นท ์และเจ้าชายและเจ้าหญิงไมเคิลแห่งเค้นท์ และเจ้าหญิงไดอานาประทับจนกระทั่งปี ค.ศ. 1997 มีจัดแสดงห้องต่างๆ รวมถึงห้องบรรทม
นอกจากนี้ยังมีจัดแสดงฉลองพระองค์ต่างๆ ของเจ้าหญิงไดอาน่า และ พระราชินี อลิซาเบธที่2
นอกจากนี้ยังมีโต๊ะทำงานของเจ้าชายอัลเบิร์ตพระสวามี  ร๊อกเก็ตที่เก็บผมเจ้าชายอัลเบิร์ตไว้

หลังจากนั้นเราเดินออกมากะว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากปิดดึก ผมกลับมาถูกใจอาคารทรงกลมข้างๆท้าง อ้าว นั่น royal albert Hall นิ ผมเองเคยดูคอนเสิร์ตต่างๆผ่านทาง DVD หลายๆที่ก็จัดที่นี่ เลยโน้มน้าวเพื่อนๆว่า ขอเข้าไปดูหน่อย เนื่องจาก ที่นี่ อยู่ใน  London pass ที่ซื้อมา พวกเราจัดแจงซื้อทัวร์รอบสุดท้าย พร้อมกับไกด์ผุ้ใจดี
โชคดีเช่นกันที่วันนี้จะมีงานแสดงเพลงคริสต์มัส เราได้มีโอกาส ฟังเค้าซักซ้อมช่วงแรกๆได้ฟังว่าระบบเสียงใน Hall ที่เชื่อกันว่าแก้กันหลายรอบกว่าจะออกมาดีได้ แต่ช่วงทำการซ้อม ห้ามถ่ายรูปนะครับ หลังจากซักซ้อมเสร็จเราก็ได้ชมห้องพักรับรอง บันได ได้ชมห้องแสดงต่างๆ บาร์แชมเปญ เรียกได้ว่าน่าสนใจเกิดคาดเลยล่ะครับ
The Royal Albert Hall เป็นสถานที่จัดงานคอนเสิร์ต งานสำคัญต่างๆ อยู่ทางด้านใต้ ของ South Kensington, เช่นงาน Proms concerts ในทุกๆปี โดยอาคารสามารถจุกคนได้ ถึง 5,272 ที่นั่ง
ตั้งแต่ปี 1871 ได้รับการเปิดโดยร Queen Victoria in 1871ก็ได้ทำการแสดงมากมายที่สำคัญ เช่นงานเปิดตัวหนัง James Bond
ชื่อ Royal Albert Hall of Arts and Sciences ได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่สามีที่เสียชีวิตไป ของพระราชินี Victoria
ราวบรรไดยังได้มีอักษร ตัว A เพื่อแสดงที่ระลึก และตัวอาคารยังได้อยู่ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์อนุสรณ์ของ เจ้าชาย Albertผู้เป็นสามี
แรกเริ่มอาคารถูกสร้างอย่างใหญ่โต แต่กลับพบว่าเวลาแสดงคอนเสิร์ตกลับไม่ได้เสียงที่ดี จึงได้มีการปรับเปลี่ยนบริเวณ หลังคา และเพดานเพื่อให้การสะท้อนเสียงที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมี Pipe เสียงขนาดใหญ่ที่เคยใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ณ เวลานั้น

หลังจากนั้นพวกเราเดินทางมาต่อยัง ห้างที่เพื่อนผมรีเควส นั่นคือ Harrods ห้างใหญ่ที่ผมเองเดินไปมาก็หลงเหมือนกัน เราลงไปด้านล่าง เพื่อถ่ายรูป อนุสรณ์ความรัก ของ  เจ้าหญิงไดอาน่า หลังช๊อปปิ้งกันเพลินๆ  
ท้องก็เริ่มร้อง ผมเลือกพาไปร้าน Burger and Lobster ร้านดังที่อยู่ในห้างใกล้ๆ กับ Harrods  เพื่ออิ่มอร่อยกับ Lobster หวานฉ่ำ โดยเลือกเมนู  Lobster เผา และ lobster Roll กินกันเอร็ดอร่อยก็พร้อมเดินทางกลับที่พัก


หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยว winter wonderland ที่จัดที่ Hydepark พอดี พูดง่าย ก็สวยสนุกเรานี่แหละ แถมมีอุโมงค์ไฟ หลายสิบล้าน (รึเปล่า?) ให้เดินเล่นกินบรรยากาศด้วยครับ


หลักจากเหน็ดเหนื่อยกันพอควร ก็กลับที่พักอันอบอุ่นของเราด้วยรถบัส โดยใช้บัตร Oyster