สวัสดีค่ะ
เคยได้ยินนิทานเด็กปรัมปราว่าด้วยพี่ชายกับน้องสาวถูกนำไปทิ้งกลางป่าและด้วยความหิวจึงไปแทะบ้านขนมของแม่มดไหมคะ
บ้านน้อยฟรุ้งฟริ้งกลางป่า ทำจากขนมทั้งหลัง กินได้ทุกชิ้นส่วน… แหม่ะ
บ้านพร้อมบริโภคนี้ (gingerbread house) เป็นความใฝ่ฝันของสามีมากค่ะ ก็เลยลองทำให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่นาน
และเนื่องจากสามีเป็นวิศวกรไฟฟ้าและพลังงาน ก็เลยจัดระบบให้แสงสว่างและความอบอุ่นภายในบ้านด้วย 555 (คือเจาะรูไว้ที่ฐานสำหรับให้เทียนมุดเข้ามา จริงๆ อยากจะเดินหลอดไฟเล็กๆ ออกด้านล่าง ต่อสวิตช์และเสียบปลั๊กเก๋ๆ นะคะ แต่มันจะเป่าแฮ้ปปี้เบิ้ดเดย์ไม่ได้)
สามีเห่อมากค่ะ แม่มดน้ำตาจิไหล…
เราอยากให้บ้านนี้กินได้จริงๆ กินได้ทั้งหมด และต้องเป็นของที่สามีชอบด้วย เนื่องจากว่าเธอไม่โปรดขนมเด็กหลากสีที่นิยมเอามาแต่งบ้านขนมปังกัน เราก็เลยคุมโทนให้บ้านน้อยหลังนี้เป็นสีน้ำตาลๆ แมนๆ หน่อย หน้าตาประมาณกระท่อมไม้แถบยุโรปเหนือค่อนไปทางตะวันตก(?) มีความฮอบบิทเล็กๆ มีความผนังเอียง หลังคาสูง หน้าต่างกลม
โจทย์ใหญ่ที่สุดของเราคือวัสดุที่ใช้ประสานบ้านทั้งหลังจะใช้อะไรดีที่มันแข็งแรงและกินได้…
ตัวประสานยอดนิยมคือ royal icing ซึ่งเป็นน้ำตาลไอซิ่งตีกับไข่ขาว เวลาประกบฝาบ้านอาจจะต้องใช้เวลารอให้แห้งสักหน่อย แต่การรอไม่ใช่ปัญหา ไข่ขาวดิบนี่สิ อาจมีสารปนเปื้อนจากแบคทีเรีย salmonella (กินสุกไม่เป็นไร แต่เอามาใช้ดิบๆ อาจจะเสี่ยง) แถมยังต้องตากอยู่กับบ้านขนมที่อุณหภูมิห้องในประเทศไทยเป็นวัน เราอยู่ต่างจังหวัด ไข่ขาวพาสเจอไรซ์หาซื้อลำบากและมีราคาแพง ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่ม พบว่านอกจาก royal icing แบบ vegan ซึ่งใช้ถั่วที่หายากแทน ก็มี…คาราเมล
เราเคยลองทำคาราเมลเล่น มันใช้งานยากประมาณหนึ่งเลย เพราะต้องใช้ขณะที่น้ำตาลไหม้เหนียวหนึบได้ที่ ใช้ตอนร้อนจัดๆ และใช้ให้เร็วเพราะมันแข็งตัวเร็วมาก ก่อนแข็งก็เหนียวพันกันอิรุงตุงนัง แถมไม่ทันไรส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ในหม้อก็พากันแข็งโป๊ก ต้องเอาไปอุ่น อุ่นซ้ำซากสีก็จะเข้มขึ้นเรื่อยๆ มันมีความน่าปวดหัว แต่เราไม่มีตัวเลือกอื่นละ ข้อดีมากๆ ของคาราเมลคือ
1) สามีกิน เห็นว่าตอนเด็กๆ เธอชอบลิงน้ำตาลปั้น
2) ไม่ทิ้งรอยสีขาวแบบ royal icing แต่จะเป็นสีเหลืองอัมพันแทนซึ่งเรารับได้ และ
3) แข็งแรงกว่า royal icing (แข็งเป็นแท่งเลยล่ะ) ไม่ต้องรอผึ่งให้แห้งด้วย (เหมือนกาวเคนจิเลย คือแปะปุ๊บติดปั๊บ) และน่าจะทนความชื้นสัมพัทธ์ได้ดีกว่า royal icing
ทว่ามีข้อควรระวังคือต้องมีจิตมุ่งมั่น วางชิ้นงานแล้วห้ามเปลี่ยนใจ และที่สำคัญคือมันร้อนมากๆๆๆ เวลามันเหนียวยืดหยดอย่าเผลอเอานิ้วไปปาดออกจะพองแน่นอน ถ้าเผลอโดนให้รีบเอาไข่ขาวพอกแผลกันอากาศเข้านิ้วพองนะคะ วิธีนี้คาราเมลมือใหม่ถ้าอยากลองต้องระวังมากๆ
ภาพจาก https://www.influenster.com/article/tips-for-a-perfect-gingerbread-house-every-time
เราลองทำดูแล้วก็เลยจะมาแบ่งปัน เผื่อใครอยากสร้างบ้านแต่อยากเลี่ยงไข่ดิบเหมือนเราค่ะ
บ้านขนมปังกรุ๊บกรอบกินได้ทั้งหลัง (แบบไม่ใช้ royal icing)
เคยได้ยินนิทานเด็กปรัมปราว่าด้วยพี่ชายกับน้องสาวถูกนำไปทิ้งกลางป่าและด้วยความหิวจึงไปแทะบ้านขนมของแม่มดไหมคะ
บ้านน้อยฟรุ้งฟริ้งกลางป่า ทำจากขนมทั้งหลัง กินได้ทุกชิ้นส่วน… แหม่ะ
บ้านพร้อมบริโภคนี้ (gingerbread house) เป็นความใฝ่ฝันของสามีมากค่ะ ก็เลยลองทำให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่นาน
และเนื่องจากสามีเป็นวิศวกรไฟฟ้าและพลังงาน ก็เลยจัดระบบให้แสงสว่างและความอบอุ่นภายในบ้านด้วย 555 (คือเจาะรูไว้ที่ฐานสำหรับให้เทียนมุดเข้ามา จริงๆ อยากจะเดินหลอดไฟเล็กๆ ออกด้านล่าง ต่อสวิตช์และเสียบปลั๊กเก๋ๆ นะคะ แต่มันจะเป่าแฮ้ปปี้เบิ้ดเดย์ไม่ได้)
สามีเห่อมากค่ะ แม่มดน้ำตาจิไหล…
เราอยากให้บ้านนี้กินได้จริงๆ กินได้ทั้งหมด และต้องเป็นของที่สามีชอบด้วย เนื่องจากว่าเธอไม่โปรดขนมเด็กหลากสีที่นิยมเอามาแต่งบ้านขนมปังกัน เราก็เลยคุมโทนให้บ้านน้อยหลังนี้เป็นสีน้ำตาลๆ แมนๆ หน่อย หน้าตาประมาณกระท่อมไม้แถบยุโรปเหนือค่อนไปทางตะวันตก(?) มีความฮอบบิทเล็กๆ มีความผนังเอียง หลังคาสูง หน้าต่างกลม
โจทย์ใหญ่ที่สุดของเราคือวัสดุที่ใช้ประสานบ้านทั้งหลังจะใช้อะไรดีที่มันแข็งแรงและกินได้…
ตัวประสานยอดนิยมคือ royal icing ซึ่งเป็นน้ำตาลไอซิ่งตีกับไข่ขาว เวลาประกบฝาบ้านอาจจะต้องใช้เวลารอให้แห้งสักหน่อย แต่การรอไม่ใช่ปัญหา ไข่ขาวดิบนี่สิ อาจมีสารปนเปื้อนจากแบคทีเรีย salmonella (กินสุกไม่เป็นไร แต่เอามาใช้ดิบๆ อาจจะเสี่ยง) แถมยังต้องตากอยู่กับบ้านขนมที่อุณหภูมิห้องในประเทศไทยเป็นวัน เราอยู่ต่างจังหวัด ไข่ขาวพาสเจอไรซ์หาซื้อลำบากและมีราคาแพง ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่ม พบว่านอกจาก royal icing แบบ vegan ซึ่งใช้ถั่วที่หายากแทน ก็มี…คาราเมล
เราเคยลองทำคาราเมลเล่น มันใช้งานยากประมาณหนึ่งเลย เพราะต้องใช้ขณะที่น้ำตาลไหม้เหนียวหนึบได้ที่ ใช้ตอนร้อนจัดๆ และใช้ให้เร็วเพราะมันแข็งตัวเร็วมาก ก่อนแข็งก็เหนียวพันกันอิรุงตุงนัง แถมไม่ทันไรส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ในหม้อก็พากันแข็งโป๊ก ต้องเอาไปอุ่น อุ่นซ้ำซากสีก็จะเข้มขึ้นเรื่อยๆ มันมีความน่าปวดหัว แต่เราไม่มีตัวเลือกอื่นละ ข้อดีมากๆ ของคาราเมลคือ
1) สามีกิน เห็นว่าตอนเด็กๆ เธอชอบลิงน้ำตาลปั้น
2) ไม่ทิ้งรอยสีขาวแบบ royal icing แต่จะเป็นสีเหลืองอัมพันแทนซึ่งเรารับได้ และ
3) แข็งแรงกว่า royal icing (แข็งเป็นแท่งเลยล่ะ) ไม่ต้องรอผึ่งให้แห้งด้วย (เหมือนกาวเคนจิเลย คือแปะปุ๊บติดปั๊บ) และน่าจะทนความชื้นสัมพัทธ์ได้ดีกว่า royal icing
ทว่ามีข้อควรระวังคือต้องมีจิตมุ่งมั่น วางชิ้นงานแล้วห้ามเปลี่ยนใจ และที่สำคัญคือมันร้อนมากๆๆๆ เวลามันเหนียวยืดหยดอย่าเผลอเอานิ้วไปปาดออกจะพองแน่นอน ถ้าเผลอโดนให้รีบเอาไข่ขาวพอกแผลกันอากาศเข้านิ้วพองนะคะ วิธีนี้คาราเมลมือใหม่ถ้าอยากลองต้องระวังมากๆ
ภาพจาก https://www.influenster.com/article/tips-for-a-perfect-gingerbread-house-every-time
เราลองทำดูแล้วก็เลยจะมาแบ่งปัน เผื่อใครอยากสร้างบ้านแต่อยากเลี่ยงไข่ดิบเหมือนเราค่ะ