เหมืองทองอันตรายจริงๆ หรือแค่ขัดผลประโยชน์

นี่คือเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งที่ต้องการจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรม คือเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งที่ต้องการจะออกมาระบายความอัดอั้นที่ไม่สามารถพูดและอธิบายด้วยช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่กระนั้นผมก็อยากจะขอโอกาสได้อธิบายบ้างในฐานะคนในที่อยู่กับบริษัททำเหมืองทองที่พิจิตรและเป็นสมาชิกคนหนึ่งของชุมชนรอบ ๆ เหมือง ที่ได้รับรู้และได้เห็นถึงแผนการอันชั่วร้ายของกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนมากกว่าการเห็นแก่ปากท้องของคนในชุมชนและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นตามมา อันเนื่องมาจากกรณีที่รัฐได้สั่งปิดเหมืองและให้ยุติทุกอย่างในการทำเหมืองทองที่พิจิตรภายในสิ้นปี 59 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนที่มุ่งหมายจะให้เกิดคำสั่งจากภาครัฐเช่นนี้ คือมีจุดประสงค์ที่จะทำลายเหมืองอยู่แล้ว ก็คงจะสะใจไปตาม ๆ กัน แต่ในความดีใจและสะใจของพวกคุณนั้น พวกคุณจะรู้หรือไม่ว่าพวกคุณได้ทำลายชีวิตผมและครอบครัว รวมถึงพี่น้องในชุมชนรอบเหมืองไปทั้งชีวิต

       ผมพอทราบข่าวว่าเหมืองทองเปิดและรับคนทำงานในปี 44 ผมดีใจมากและตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำอยู่ที่ กทม. มาสมัครทำงานในเหมืองทองที่พิจิตรนี้ทันที เหมืองทองทำให้ผมได้กลับมาทำงานที่บ้าน ได้พบหน้าพ่อแม่ ภรรยาและลูก ๆ ไม่ต้องห่างจากครอบครัวอีก ตำแหน่งที่ผมได้รับคือเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แร่ในห้องแล็บ และแน่นอนด้วยงานของผมจะต้องอยู่กับสารเคมีทั้งกรดไฮโดรครอลิก ไซยาไนด์ กรดไนตริก และบอแรกซ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมรู้ในข้อนั้นดี แต่ท่านทั้งหลายครับ ขณะที่ผมกำลังนั่งเขียนและพิมพ์สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคนอยู่นี้ สุขภาพของผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมทำงานอยู่ในเหมืองมา 10 กว่าปี คลุกคลีและใกล้ชิดกับสารเคมีมากกว่าคนที่อยู่รอบเหมือง จากการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ผมก็ยังแข็งแรงดี ไม่พบสารพิษในร่างกายเกินกว่าค่าที่กำหนด ผมยังบริจาคโลหิตได้ตามปกติ พ่อแม่ผมแม้ท่านจะป่วยกระเสาะกระแสะแต่ก็ไม่ได้มีสาเหตุมากจากสารพิษจากเหมือง พวกท่านก็ป่วยด้วยโรคคนแก่ตามปกติ ภรรยาผมและลูก ๆ ก็ยังแข็งแรงกันดี ทั้ง ๆ ที่ก็ใช้ชีวิตอยู่รอบเหมืองมาตลอด สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ก็คือสารพิษต่าง ๆ มีอยู่ในสภาวะแวดล้อมธรรมชาติอยู่แล้ว จะเรียกว่าอยู่ข้าง ๆ ตัวเราตลอดเลยก็ว่าได้ อย่างไซยาไนด์ ในเมล็ดแอปเปิ้ลก็มีไซยาไนด์ซึ่งแม้แต่นกก็ไม่กิน  ในสาหร่าย แบคทีเรีย บุหรี่ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายก็ล้วนมีไซยาไนด์อยู่ จึงไม่แปลกที่เราจะมีการตรวจพบสารพิษชนิดนี้อยู่ในร่างกาย การมาเหมารวมว่าเหมืองทำให้ชาวบ้านได้รับไซยาไนด์จึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ถ้าคิดว่าเป็นเช่นนั้นก็เอาหลักฐานที่พิสูจน์ได้มายืนยัน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้เลยว่าเหมืองทำให้ชาวบ้านได้รับสารพิษจนเป็นอันตราย

       ที่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันมายืนยันเพราะแท้ที่จริงแล้วเหมืองไม่สร้างอันตรายเหล่านั้นให้กับคนงานและชาวบ้านเลย ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ผมกับครอบครัวเท่านั้นที่ไม่ได้รับอันตรายจากเหมือง เพื่อน ๆ และพี่น้องชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบเหมืองก็ไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหมืองเช่นกัน ตรงนี้ผมไม่ได้กล่าวอ้างเอง ผลการตรวจสุขภาพของชาวบ้านรอบเหมืองที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวส่งเจ้าหน้าที่ นักวิชาการมาตรวจและทำวิจัยสามารถยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านที่ต้องการหลักฐานก็สามารถค้นหาได้เลยจากอินเตอร์เน็ตได้เลย แต่ผมเชื่อว่าคนที่ต่อต้านเหมืองคงจะไม่สนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะคนจำนวนหนึ่งที่ต่อต้านถูกล้างสมองให้เกลียดเหมืองไปเรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายที่ต่อต้านไม่มีหลักฐานสักชิ้นที่จะมายืนยันว่าเหมืองผิดจริง เหมืองอันตราย หรือเหมืองไม่ดี ทั้งหมดที่มีมาก็เป็นเพียงแค่คำบอกเล่าต่อ ๆ กัน เป็นตัวอักษรที่นั่งเทียนเขียนขึ้นทั้งนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่เป็นไปตามต้องการเท่านั้นเอง

       ผมเป็นคนในเหมืองที่เฝ้ามองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด เริ่มต้นจากการณีพิพาทของอดีตพนักงานคนหนึ่งที่ทำผิดกฏบริษัทฯ  และพยายามเสนอขายที่ให้บริษัทฯ ในราคาสูงกว่าปกติ บริษัทฯ ก็ไม่ยอมซื้อ พนักงานคนนี้ก็เที่ยวเอาบริษัทฯ ไปต่อว่าเสียๆ หายๆ จนบริษัทฯ ต้องเชิญให้ออก ทำให้เกิดการขัดแย้ง แค้นฝังหุ่นกันจนทุกวันนี้ ถึงขั้นใช้วิชามารในการใส่ร้ายป้ายสีเหมืองให้ดูเลวร้าย ตั้งกลุ่มต่อต้าน ร่วมมือกับนายทุนที่ดิน โดยตกลงผลประโยชน์ร่วมกันและสร้างข่าวลือปั่นกระแสให้เหมืองดูน่ากลัวและชั่วร้าย ว่าเหมืองทำให้ชุมชนแตกสลาย เหมืองเข้ามาครอบครองพื้นที่สาธารณะ เป็นแหล่งมลพิษ นำสารพิษมาสู่ธรรมชาติและชาวบ้านรอบ ๆ เหมือง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีเรื่องไหนจริงสักเรื่องหนึ่ง ทั้งหมดนี้เรื่องจริงตรงกันข้ามทั้งหมดเลย ถามจริงๆ เถิดครับที่ดินของท่านถ้าท่านไม่เต็มใจขาย ในราคาที่ท่านพอใจ ใครจะไปบังคับท่านได้ครับ ไม่มีหรอก คนที่เค้าขายที่ให้เหมืองล้วนยินดีขาย ก็แหมจะไม่ยินดีได้อย่างไร ราคาประเมินที่ไร่ละ 300,000เหมืองซื้อไร่ละ 500,000 ขายที่ 30 ไร่ได้เงินมา 15 ล้าน ไปซื้อที่อีก 30 ไร่ไกลจากเหมืองไปหน่อยในราคาไร่ละ 30,000 ซื้อไว้ 30 ไร้จ่ายไป 900,000 ทำนาเป็นงานอดิเรก ทำงานเหมืองเป็นงานหลักได้อีก แบบนี้ทำไมไม่มีใครพูดถึงครับ เรื่องพวกนี้ลงในพื้นที่ไปถามสิครับ คนเค้ารู้กันดี นี่อะไรมีแต่ดารานักร้องคนเดิมออกมาบีบน้ำตาพูดว่าได้รับผลกระทบ เหมืองไม่ยอมซื้อที่ อยากย้ายออก โธ่ว์ ใครจะซื้อท่านไหวครับ ที่ไม่ถึง 2 ไร่ขายกัน 16-17 ล้าน พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ถามหน่อยครับหัวใจคุณทำด้วยอะไร คุณดิ้น คุณร้องให้ได้ในสิ่งที่พวกคุณต้องการ แล้วเพื่อนบ้านคุณอย่างพวกผมที่ต้องตกงาน คุณจะรับผิดชอบยังไงครับ ลูกผมไม่มีข้าวกิน คุณหาให้กินมั้ยครับ คุณส่งให้เรียนหนังสือมั้ยครับ ผมต้องเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฝากลูกไว้ให้คุณช่วยเลี้ยงดูได้มั้ยครับ (ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังไมค์มาครับ เดี๋ยวผมบอกให้)

       ผมพูดจริงๆ นะ ผมเห็นคนจากข้างนอกเข้ามาเหมืองแทบทุกวัน ผมว่าเหมืองกล้าเผชิญความจริงเสมอ ใครมองว่าเราไม่ดีเราก็ยินดีให้พิสูจน์ ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่จะมีคำสั่งลงมาว่าให้เหมืองยุติกิจการ เราก็แสดงความบริสุทธ์และความจริงใจของเราแล้ว เราพร้อมเสมอที่จะยืนยันในสิ่งที่เราทำว่าเป็นอย่างไร ต้องการตรวจสอบเราก็จัดให้ กลุ่ม NGO รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งคณะกรรมการ 5 ฝ่าย หรืออีกหลายกลุ่มสารพัด ซึ่งจะมีใครรู้บ้างว่า ในคณะบุคคลที่จะมาตรวจสอบเรานั้นมีคนของฝ่ายตรงข้ามกับเหมืองอยู่ด้วย นั่นคือ นักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยรังสิต แค่เอ่ยชื่อหน่วยงานผมก็รู้ทันทีเลยว่า นี่เป็นคนของใคร ทั้งที่จริง ๆ แล้ว คณะกรรมการที่จะมาตรวจสอบเราต้องเป็นคนจากองค์กรที่เป็นกลาง แต่นี่ดันส่ง 2 นักวิชาการที่เป็นแกนนำคัดค้านเหมืองมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบแค่เริ่มต้นก็ผิดแล้วครับ อคติและแฝงวิชามารมาตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการแล้ว เมื่อเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ชั่วช้า แผนชั่วเพื่อให้ได้ชัยชนะจึงไม่ได้หยุดแค่นี้ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรังสิต 2 ท่าน คงคิดว่าตนเองมีความรู้เรื่องเคมีสูงมากกระมัง จึงรู้วิธีเล่นแร่แปรธาตุ ออกป่าวประกาศว่าพืชผักต่าง ๆ ที่ชาวบ้านปลูกรอบ ๆ เหมืองปนเปื้อนสารพิษ (ซึ่งผมไม่รู้ว่าพวกเขาไปตรวจตอนไหนอย่างไร ทำไมถึงรู้ว่าพืชผักมีสารพิษ เพราะไม่เห็นเอาหลักฐานทางวิชาการที่พวกเขาเชี่ยวชาญออกมายืนยันแถลงให้ประชาชนได้ทราบความจริง) และให้ชาวบ้านมาลงชื่อเพื่อรับผักปลอดสารพิษที่นักวิชาการ 2 ท่านนั้นนำกลุ่ม NGO ต่างถิ่นมาแจก ซึ่งกลุ่ม NGO บางกลุ่มก็หลับหูหลับตาทำไม่ศึกษาอะไรให้ดีก่อน จะได้ทำ proposal ข้อเงินศึกษานู่นนี่นั่น ฟังดูดีนะครับ แต่ แต่ ทำไมไม่มีข้อสรุป ผลสรุปอะไรให้ซ้ากอย่าง สรุปได้แต่ว่าต้องทำการศึกษาต่อไป ของบศึกษาเพิ่ม จากใครล่ะครับ ก็จากกองทุน EIA ที่ควรจะเอาไว้พัฒนาชุมชน เฮ้อ ผลาญกันเข้าไปครับ สรุปว่าแค่นักวิชาการจอมปลอมนั่งเทียนเขียนข้อมูลปลอม ๆ ออกมายื่นให้ดู ก็ถึงกับคลั่งอยากจะลุกขึ้นมาสู้กับเหมืองทันที โดยทีไม่ยอมสืบหาความจริงอะไรเลย ผลสุดท้ายทุกท่านทราบไหมครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น.....

       ชาวบ้านตัวจริงไปแจ้งความว่าที่พวกเขาไปลงชื่อรับผักปลอดสารพิษนั้น เพราะอยากได้ผักกินฟรี ไม่ได้หมายความว่าผักที่พวกเขาปลูกมีสารพิษ ยอมรับกันอย่างซื่อๆ ว่ามีคนมาบอกมารับผักฟรีแค่ลงชื่อไว้ ไม่ได้มีผลอะไร อ้าวแบบนี้ใครจะไม่อยากได้ครับท่าน ความมาแตกตอนที่ชื่อพวกเขาไปโผล่ในรายชื่อคนต้านเหมือง โธ่ แบบนี้เลยต้องมาแจ้งความตำรวจให้ตรวจสอบกันหน่อยจนเป็นข่าวเลยครับ https://www.thaich8.com/news_detail/3428 แล้วก็ในหนังสือพิมพ์ก็ลง http://www.posttoday.com/local/north/423115 ความจริงคือชาวบ้านยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำเหมืองและสามารถปลูกผักรับประทานเองได้ในพื้นที่แต่เมื่อมีคนมาประกาศบอกว่าจะมีของฟรีมาให้ก็อยากได้ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของทุกคนมีของฟรีใครก็อยากได้ ชาวบ้านยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีความประสงค์ต่อต้านเหมืองแต่อย่างใด จากเหตุการณ์นี้ชาวบ้านก็ต่างรวมตัวกันไปแจ้งความต่อตำรวจเพื่อขับไล่ 2 นักวิชาการนี้ออกไปจากการเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเหมือง เป็นถึงนักวิชาการและครูบาอาจารย์แต่กลับไม่เคยนำความรู้มาใช้ในทางสร้างสรรค์ เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวและพวกพ้องเท่านั้น และแผนร้ายแผนนี้ยังไม่หยุดแค่นั้นตอนนี้มีการใช้โซเชียลมีเดียดำเนินการแผนชั่วคล้าย ๆ แบบนี้อีก คือตั้งประเด็นโจมตีเหมืองใส่ร้ายเหมืองด้วยประเด็นอันเป็นเท็จแล้วก็พยายามจะเชิญชวนให้คนไปลงชื่อขับไล่ไม่เอาเหมือง http://www.thairath.co.th/content/613302 ข่าวในไทยรัฐจะไม่เอ่ยชื่อนักวิชาการครับ แต่ถ้าอ่านในเว็บผู้จัดการจะเห็นชัดเจน  http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043481 นี่เป็นเพียงเกมหนึ่งของแผนการร้ายของการขับไล่เหมือง คือ พยายามทำให้เหมืองจนตรอก เท่านั้นยังไม่พอ ยังอ้างชื่อคนงานเหมืองที่เสียชีวิตไปแล้ว เอาชื่อคนที่ตายไปแถลงกับสื่อว่า คนงานเหล่านั้นตายเพราะสารพิษจากเหมือง แต่แท้ที่จริงแล้ว ญาติ ๆ ของผู้ตายก็ออกมายืนยันกับสื่อและมีการแจ้งความไว้กับทางตำรวจแล้วว่า ทั้งหมดเป็นความเลวทรามของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เอาเหมืองเท่านั้น ผู้ที่เสียชีวิตไปนั้นเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของสารพิษจากเหมืองแต่อย่างใด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีตามสื่อมากมายแล้ว แม้แต่เคสอันโด่งดังของลุงสมคิด ป้าจำเนียรเมียแกก็ออกมาบอกเองว่าผลชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาก็ไม่ได้บอกว่าเป็นจากเหมืองนะครับ ลองอ่านนี้ดูครับ http://www.thairath.co.th/content/615118 ทุกท่านลองพิจารณาดูก็แล้วกันนะครับว่า แผนพวกเขาชั่วร้ายขนาดไหน แม้แต่คนที่ตายไปแล้วพวกเขายังไม่เว้น จะเอาชื่อคนตายมาใช้ประโยชน์เพื่อให้ตนเองชนะให้ได้ สิ่งที่พวกเขากล่าวหาไม่มีหลักฐาน แต่ฝ่ายของเหมืองกลับต้องใช้เวลาไปมากมายในการต่อสู้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองพยายามหาหลักฐานมากมายมายืนยัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสนใจรับฟัง

นี่คือหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ยืนยันความจริงที่เกิดขึ้นได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่