สวัสดีครับทุกท่าน
สืบเนื่องมาจากผมจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ช่วงเดือนกลางเดือนธันวาคม 2559 ก็เลยลองหาโปรโมชั่นสายการบินต่างๆครับ
เอาจริงผมนั่งอะไรก็ได้ ไม่ได้ติดแบรนด์สายการบินเท่าไหร่ เน้นว่าอันไหนถูกผมก็บินอันนั้นแหละ พอผมเริ่มหาก็เห็นว่ามีสายการบินใหม่ ชื่อไม่คุ้นเคยอยู่สายการบินหนึ่ง ซึ่งก็คือ Thai VietJetAir ซึ่งราคาถือว่าใช้ได้ซะด้วย ก็เลยลองหารีวิวดูในอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็มีอยู่แค่พอสมควร แต่ไม่มีแบบที่คนไปบินจริงๆแล้วมาบอกต่อ จะมีก็แต่บล็อกเกอร์ที่ได้รับเชิญไปในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เท่านั้น ผมเลยคิดว่างั้นผมจองอันนี้แหละ และตั้งใจว่าถ้าบินแล้วจะนำประสบการณ์มาบอกกัน เผื่อจะสามารถประกอบการตัดสินใจให้คนอื่นได้บ้างครับ
เรื่มจากการจองตั๋วเครื่องบินที่
http://www.vietjetair.com/ อันนี้ก็ดำเนินการตามปกติได้เลยนะครับ วิธีการไม่ได้ยากเกินไป ชอบแบบไหนเลือกได้ตามชอบ จะเพิ่มน้ำหนัก หรือจะสั่งอาหาร ก็สามารถจัดการได้ก่อนแบบสรุปจบความได้ในที่เดียวครับ
แต่ปัญหาความผิดพลาดของผมคือ ผมดันใส่ชื่อ กับนามสกุลสลับกัน (ซึ่งผมว่าผมเช็คดีแล้วนะ) เช่น หากผมชื่อ Mr. ABC DEF ผมดันใส่เป็น Mr. DEF ABC ซึ่งมาเห็นเอาตอนที่ได้ใบสรุปการจองทางอีเมลแล้ว หลังจากนั้นผมก็รีบโทรเข้า Call Center ทันที เพื่อถามว่าผมจะสามารถใช้บินได้ไหม โชคดีมากที่คำตอบคือได้ครับ (โล่งอกมากกกก เจ้าหน้าที่อธิบายว่า หากสะกดชื่อถูกต้อง แค่ตำแหน่งชื่อสกุลสลับกัน บินในประเทศไม่เป็นไร แต่ระหว่างประเทศไม่ได้นะครับ) แต่ผมก็ยังเก็บความกังวลไปหลายเดือนกว่าจะถึงวันเดินทางนะ เพราะไม่แน่ในว่าจนท.ที่บอกเราตอนนั้น กับที่ตัดสินใจหน้างาน ณ สนามบินจะเหมือนกันหรือเปล่า
แต่ความประทับใจข้อแรกที่ได้ก็คือ Call Center รับสายไว และให้ข้อมูลได้ดีในระดับนึงเลยนะครับ เหมือนผมเห็นบางคนบอกว่ามีคนโทรเข้าไปแล้วไม่มีคนรับสายบ้าง สายไม่ว่างบ้าง ซึ่งของผมโทรครั้งเดียวก็รับเลย จะว่าผมโชคดีก็ได้มั้งครับ
มาถึงวันเดินทางกันดีกว่า ^^
Flight Information
Date: 16 DEC 2016
Route: BKK-CNX
Airlines: Thai VietJetAir
Flight: VZ 602
From: Bangkok Suvarnabhumi International Airport (BKK)
To: Chiang Mai International Airport (CNX)
Gate: B9
Depart Time: 07.05 (actual 07.05)
Arrive Time: 08:25 (actual 08.25)
Duration: 1h 20m
Aircraft: Airbus A320-200
Class: Economy Class
ผมตื่นเต้นมากจนคืนวันที่ 15 ธันวาผมนอนไม่หลับ จำได้ว่านอนไปได้ชม.เดียว ผมก็ต้องรีบตื่นมาถึงสนามบินสุวรรณถูมิตั้งแต่ตี 5 นิดๆ เพื่อรีบมาเช็กอินก่อน สำหรับสายการบินนี้เรามาเจอกันที่แถว K ของชั้นผู้โดยสารขาออกครับ เนื่องจากผมมาเช้ามั้งครับ เลยไม่มีใครมาต่อคิวก่อนหน้าผมเลยสักคนเดียว เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มดีมาก และให้บริการดีครับ ผมเข้าใจว่าสายการบินThai VietJetAir ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเป็นของตัวเอง สำหรับขานี้จะเป็นการให้บริการของ Bangkok Flight Service (BFS) ครับ
จำปัญหาที่ผมบอกได้ไหมครับว่าชื่อ กับนามสกุลผมสลับกัน จนท.สุดสวยหลังจากเอาบัตรประชาชนผมไป ก็มีเหมือนหยุดคิดนิดหน่อย แต่ก็ดำเนินการต่อให้จนจบ และก็ได้ Boarding Pass มาแบบนี้
เอาจริงๆ เรื่องชื่อ และนามสกุลที่สลับกัน ทุกคนที่เป็นจนท.ตรวจตั๋วในทุกขั้นตอนทั้งขาไป และขากลับก็มีจุดหยุดพิจารณาเกือบทั้งหมดนะครับ (อย่างน้อยเท่าที่สังเกตุนะ) ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเท่ากับเค้าตั้งใจตรวจสอบตัวตนของเราทุกขั้นตอนจริงๆนั่นเองครับ
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมินั้น บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้บริการสนามบินนี้สำหรับการเดินทางในประเทศ ก็เลยมีความตื่นเต้นนิดหน่อย (ผมค่อนข้างเซียนดอนเมืองมากกว่าสุวรรณภูมิพอสมควรครับ)
ส่วนทางเข้าเกทของสายการบินในประเทศนั้น จะอยู่ด้านซ้ายมือสุดของชั้นผู้โดยสารขาออก ซึ่งอยู่ระหว่างแถวเช็กอิน B และ C นะครับ
หลังจากเข้าไปก็ตรวจเช็กสัมภาระตามระเบียบทั่วไป จนผ่านเข้ามาในเพื้นที่รอด้านในครับ
สำหรับใครที่ยังมีเวลา เค้ามีโซนร้านอาหารอยู่ด้วยนะครับ เข้ามาเรื่อยๆถึงทางแยกเข้าเกท ถ้าเลี้ยวทางซ้ายไป Gate A แค่นิดเดียว จะมีโลโก้ร้านอาหารเพียบเลย มีอาหารทุกแบบ ทุกสัญชาติ ชา กาแฟพร้อม (แต่บางร้านก็ยังไม่ได้เปิดนะครับ อาจจะเช้าเกินไปหน่อย) และเนื่องจากตอนนั้นเช้ามาก และผมไม่ได้จองอาหารบนเครื่องเอาไว้ เลยขอจัดอาหารญี่ปุ่นสักเซตใหญ่ๆ ก่อนขึ้นเครื่องครับ
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้จะทานอาหารอะไร หรือไม่มีเวลามากพอ ทางขึ้นเครื่อง Gate B จะเลี้ยวไปทางขวาแทนครับ
สำหรับการขึ้นเครื่องนั้น จะใช้เป็นรถรับส่งระหว่างตัวอาคาร และเครื่องบินนะครับ ภาพก็เป็นดังนี้ครับ
พระเอกของเราวันนี้ครับ
มุมบังคับ (อ่านรีวิวมาบ้าง เค้าชอบถ่ายมุมนี้กันครับ)
บรรยากาศของเครื่องบิน และที่นั่ง อยากให้ลองไปดูในภาพของรีวิวแบบทางการอื่นๆ หรือในเว็ปไซต์หลักนะครับ คนเยอะมากจนไม่สามารถถ่ายมาได้ กลัวจะเป็นการละเมิดผู้โดยสารโดยรวมครับ ตัดภาพมาที่นั่งของผมดีกว่า ที่นั่งของผมคือ 22C ซึ่งเป็นริมทางเดินครับ (ผมขอเองแหละ แต่คิดผิดไปนิดนึง เพราะไฟลท์เช้าแบบนี้ ถ้าอยู่ริมหน้าต่างจะได้ถ่ายรูปปีกเครื่องบินสวยๆมาได้มากหน่อย แต่ก็ยังอุตสาห์แอบถ่ายระยะไกลมาได้รูปนึงนะ)
เอาจริงๆดูจากข้างนอกผมว่าเครื่องบินลำเล็กนะครับ แต่พอเข้ามาจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดมากเท่าที่คิดเอาไว้ สำหรับบรรยากาศก็ดูคุ้นเคย ไม่ได้แตกต่างจากสายการบินร่วมรุ่นเท่าไหร่ สำหรับการแบ่งที่นั่งก็จะเป็น 3-3 ครับ
ที่นั่งก็ไม่ได้คับแคบนะครับ สำหรับตัวผมเอง (ไซส์ปกติ สูงปกติ ไม่ได้อ้วนเกินไปนัก 555) ก็ถือว่านั่งได้สบาย ไม่ได้ติดขัดอะไรครับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ที่นั่งของผมมันเอนเบาะไม่ได้ครับ ซึ่งผมคิด ณ ตอนนั้นว่า หรือว่าทางสายการบินล็อกเอาไว้ให้มันเอนไม่ได้? เพราะเท่าที่ผมสังเกตผู้โดยสารท่านอื่น ผมไม่เห็นว่ามีใครเอนเบาะนะ (ซึ่งหากมันเอนได้จริง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเอนเลยใช่ไหมครับ?) โอเค ไม่ได้ก็ตามนี้ ผมก็นอนๆ นั่งๆไปแบบเบาะตรงๆนี่แหละครับ
หลังจากนั้นก็เครื่องขึ้นบินครับ ตรงเวลาซะด้วย (แอบเมาท์ว่าเพื่อนผมบินเจ้าป้าตามมา ซึ่งดีเลย์สนั่นลั่นทุ่งมาก หลังจากสบประมาทผมเอาไว้ว่าเลือกสายการบินอะไรวะนู่นนี่ พอเจอกันอีกทีที่เชียงใหม่ก็เงียบกันหมดครับ อิอิ)
มาสำรวจของรอบตัวผมกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง แน่นอนว่าจะต้องมีเอกสารสาธิตการใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติตนหากเกิดเหตุการฉุกเฉิน (ซึ่งแนะนำว่าทุกคนควรอ่าน อย่างน้อยให้ผ่านตาทุกครั้งเวลาขึ้นเครื่องนะครับ เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง) นอกจากนั้นผมเจอถุงสำหรับอาเจียน เมนูอาหาร แคตตาล็อกขายของที่ระลึก และนิตยสารของสายการบินครับ
สำหรับนิตยสารนี้ ด้านในเป็นภาษาเวียดนามทั้งหมดนะครับ อ่านไม่ออก T_T
สักพักลูกเรือก็ประกาศว่ามีบริการอาหารสำหรับผู้ที่จองมาแล้ว และมีเพิ่มสำหรับผู้สนใจ สามารถดูเมนูได้จากหน้าที่นั่ง ซึ่งตอนขาไปผมไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้ รอตอนขากลับนะครับว่าจะมีอะไรน่าทานบ้างครับ
แต่ผมเหรอครับ เพิ่มอิ่มมาจากอาหารเซตญี่ปุ่นของสนามบินมา ไม่ไหวจริงๆครับ ขอนอนดีกว่า แต่รู้สึกว่าแป๊บเดียวจริงๆ ผมมีสัญญานรัดเข็มขัดบอกให้รู้ว่าจะถึงที่หมายซะแล้วครับ
ซึ่งวิธีการเข้ามาในตัวอาคารผู้โดยสาร อันนี้มีงวงไปเทียบให้เดินเข้ามาได้เลยนะครับ (เอ้ะ เค้าเรียกว่างวงหรือเปล่านะ?)
เข้ามาแล้วก็หันกลับไปดูพระเอกของเราอีกสักที ดูข้างนอกก็หล่อดีเหมือนกันนะเรา
ปีกแดงเด่น เหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง? 555
หลังจากนั้นก็เดินเข้าสู่ตัวอาคาร และเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้ตามปกติเลยครับผม
จบแล้วสำหรับขาไปนะครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการพิมพ์รีวิวใช้เวลาเหมือนกันนะเนี่ย
สำหรับขากลับผมขอติดไว้ก่อนนะครับ จะพยายามกลับมาให้ไวที่สุดครับ
ระหว่างรอผมมีภาพจากแม่กำปองมาฝาก ตอนไปหนาวมากเลยครับ บรรยากาศดีเชียว
เดี๋ยวเจอกันครับ
*แก้ไขคำผิดครับ*
[CR] Review : รีวิวสายการบิน Thai VietJetAir กรุงเทพ - เชียงใหม่
สืบเนื่องมาจากผมจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ช่วงเดือนกลางเดือนธันวาคม 2559 ก็เลยลองหาโปรโมชั่นสายการบินต่างๆครับ
เอาจริงผมนั่งอะไรก็ได้ ไม่ได้ติดแบรนด์สายการบินเท่าไหร่ เน้นว่าอันไหนถูกผมก็บินอันนั้นแหละ พอผมเริ่มหาก็เห็นว่ามีสายการบินใหม่ ชื่อไม่คุ้นเคยอยู่สายการบินหนึ่ง ซึ่งก็คือ Thai VietJetAir ซึ่งราคาถือว่าใช้ได้ซะด้วย ก็เลยลองหารีวิวดูในอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็มีอยู่แค่พอสมควร แต่ไม่มีแบบที่คนไปบินจริงๆแล้วมาบอกต่อ จะมีก็แต่บล็อกเกอร์ที่ได้รับเชิญไปในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เท่านั้น ผมเลยคิดว่างั้นผมจองอันนี้แหละ และตั้งใจว่าถ้าบินแล้วจะนำประสบการณ์มาบอกกัน เผื่อจะสามารถประกอบการตัดสินใจให้คนอื่นได้บ้างครับ
เรื่มจากการจองตั๋วเครื่องบินที่ http://www.vietjetair.com/ อันนี้ก็ดำเนินการตามปกติได้เลยนะครับ วิธีการไม่ได้ยากเกินไป ชอบแบบไหนเลือกได้ตามชอบ จะเพิ่มน้ำหนัก หรือจะสั่งอาหาร ก็สามารถจัดการได้ก่อนแบบสรุปจบความได้ในที่เดียวครับ
แต่ปัญหาความผิดพลาดของผมคือ ผมดันใส่ชื่อ กับนามสกุลสลับกัน (ซึ่งผมว่าผมเช็คดีแล้วนะ) เช่น หากผมชื่อ Mr. ABC DEF ผมดันใส่เป็น Mr. DEF ABC ซึ่งมาเห็นเอาตอนที่ได้ใบสรุปการจองทางอีเมลแล้ว หลังจากนั้นผมก็รีบโทรเข้า Call Center ทันที เพื่อถามว่าผมจะสามารถใช้บินได้ไหม โชคดีมากที่คำตอบคือได้ครับ (โล่งอกมากกกก เจ้าหน้าที่อธิบายว่า หากสะกดชื่อถูกต้อง แค่ตำแหน่งชื่อสกุลสลับกัน บินในประเทศไม่เป็นไร แต่ระหว่างประเทศไม่ได้นะครับ) แต่ผมก็ยังเก็บความกังวลไปหลายเดือนกว่าจะถึงวันเดินทางนะ เพราะไม่แน่ในว่าจนท.ที่บอกเราตอนนั้น กับที่ตัดสินใจหน้างาน ณ สนามบินจะเหมือนกันหรือเปล่า
แต่ความประทับใจข้อแรกที่ได้ก็คือ Call Center รับสายไว และให้ข้อมูลได้ดีในระดับนึงเลยนะครับ เหมือนผมเห็นบางคนบอกว่ามีคนโทรเข้าไปแล้วไม่มีคนรับสายบ้าง สายไม่ว่างบ้าง ซึ่งของผมโทรครั้งเดียวก็รับเลย จะว่าผมโชคดีก็ได้มั้งครับ
มาถึงวันเดินทางกันดีกว่า ^^
Flight Information
Date: 16 DEC 2016
Route: BKK-CNX
Airlines: Thai VietJetAir
Flight: VZ 602
From: Bangkok Suvarnabhumi International Airport (BKK)
To: Chiang Mai International Airport (CNX)
Gate: B9
Depart Time: 07.05 (actual 07.05)
Arrive Time: 08:25 (actual 08.25)
Duration: 1h 20m
Aircraft: Airbus A320-200
Class: Economy Class
ผมตื่นเต้นมากจนคืนวันที่ 15 ธันวาผมนอนไม่หลับ จำได้ว่านอนไปได้ชม.เดียว ผมก็ต้องรีบตื่นมาถึงสนามบินสุวรรณถูมิตั้งแต่ตี 5 นิดๆ เพื่อรีบมาเช็กอินก่อน สำหรับสายการบินนี้เรามาเจอกันที่แถว K ของชั้นผู้โดยสารขาออกครับ เนื่องจากผมมาเช้ามั้งครับ เลยไม่มีใครมาต่อคิวก่อนหน้าผมเลยสักคนเดียว เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มดีมาก และให้บริการดีครับ ผมเข้าใจว่าสายการบินThai VietJetAir ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเป็นของตัวเอง สำหรับขานี้จะเป็นการให้บริการของ Bangkok Flight Service (BFS) ครับ
จำปัญหาที่ผมบอกได้ไหมครับว่าชื่อ กับนามสกุลผมสลับกัน จนท.สุดสวยหลังจากเอาบัตรประชาชนผมไป ก็มีเหมือนหยุดคิดนิดหน่อย แต่ก็ดำเนินการต่อให้จนจบ และก็ได้ Boarding Pass มาแบบนี้
เอาจริงๆ เรื่องชื่อ และนามสกุลที่สลับกัน ทุกคนที่เป็นจนท.ตรวจตั๋วในทุกขั้นตอนทั้งขาไป และขากลับก็มีจุดหยุดพิจารณาเกือบทั้งหมดนะครับ (อย่างน้อยเท่าที่สังเกตุนะ) ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเท่ากับเค้าตั้งใจตรวจสอบตัวตนของเราทุกขั้นตอนจริงๆนั่นเองครับ
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมินั้น บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้บริการสนามบินนี้สำหรับการเดินทางในประเทศ ก็เลยมีความตื่นเต้นนิดหน่อย (ผมค่อนข้างเซียนดอนเมืองมากกว่าสุวรรณภูมิพอสมควรครับ)
ส่วนทางเข้าเกทของสายการบินในประเทศนั้น จะอยู่ด้านซ้ายมือสุดของชั้นผู้โดยสารขาออก ซึ่งอยู่ระหว่างแถวเช็กอิน B และ C นะครับ
หลังจากเข้าไปก็ตรวจเช็กสัมภาระตามระเบียบทั่วไป จนผ่านเข้ามาในเพื้นที่รอด้านในครับ
สำหรับใครที่ยังมีเวลา เค้ามีโซนร้านอาหารอยู่ด้วยนะครับ เข้ามาเรื่อยๆถึงทางแยกเข้าเกท ถ้าเลี้ยวทางซ้ายไป Gate A แค่นิดเดียว จะมีโลโก้ร้านอาหารเพียบเลย มีอาหารทุกแบบ ทุกสัญชาติ ชา กาแฟพร้อม (แต่บางร้านก็ยังไม่ได้เปิดนะครับ อาจจะเช้าเกินไปหน่อย) และเนื่องจากตอนนั้นเช้ามาก และผมไม่ได้จองอาหารบนเครื่องเอาไว้ เลยขอจัดอาหารญี่ปุ่นสักเซตใหญ่ๆ ก่อนขึ้นเครื่องครับ
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้จะทานอาหารอะไร หรือไม่มีเวลามากพอ ทางขึ้นเครื่อง Gate B จะเลี้ยวไปทางขวาแทนครับ
สำหรับการขึ้นเครื่องนั้น จะใช้เป็นรถรับส่งระหว่างตัวอาคาร และเครื่องบินนะครับ ภาพก็เป็นดังนี้ครับ
พระเอกของเราวันนี้ครับ
มุมบังคับ (อ่านรีวิวมาบ้าง เค้าชอบถ่ายมุมนี้กันครับ)
บรรยากาศของเครื่องบิน และที่นั่ง อยากให้ลองไปดูในภาพของรีวิวแบบทางการอื่นๆ หรือในเว็ปไซต์หลักนะครับ คนเยอะมากจนไม่สามารถถ่ายมาได้ กลัวจะเป็นการละเมิดผู้โดยสารโดยรวมครับ ตัดภาพมาที่นั่งของผมดีกว่า ที่นั่งของผมคือ 22C ซึ่งเป็นริมทางเดินครับ (ผมขอเองแหละ แต่คิดผิดไปนิดนึง เพราะไฟลท์เช้าแบบนี้ ถ้าอยู่ริมหน้าต่างจะได้ถ่ายรูปปีกเครื่องบินสวยๆมาได้มากหน่อย แต่ก็ยังอุตสาห์แอบถ่ายระยะไกลมาได้รูปนึงนะ)
เอาจริงๆดูจากข้างนอกผมว่าเครื่องบินลำเล็กนะครับ แต่พอเข้ามาจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดมากเท่าที่คิดเอาไว้ สำหรับบรรยากาศก็ดูคุ้นเคย ไม่ได้แตกต่างจากสายการบินร่วมรุ่นเท่าไหร่ สำหรับการแบ่งที่นั่งก็จะเป็น 3-3 ครับ
ที่นั่งก็ไม่ได้คับแคบนะครับ สำหรับตัวผมเอง (ไซส์ปกติ สูงปกติ ไม่ได้อ้วนเกินไปนัก 555) ก็ถือว่านั่งได้สบาย ไม่ได้ติดขัดอะไรครับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ที่นั่งของผมมันเอนเบาะไม่ได้ครับ ซึ่งผมคิด ณ ตอนนั้นว่า หรือว่าทางสายการบินล็อกเอาไว้ให้มันเอนไม่ได้? เพราะเท่าที่ผมสังเกตผู้โดยสารท่านอื่น ผมไม่เห็นว่ามีใครเอนเบาะนะ (ซึ่งหากมันเอนได้จริง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเอนเลยใช่ไหมครับ?) โอเค ไม่ได้ก็ตามนี้ ผมก็นอนๆ นั่งๆไปแบบเบาะตรงๆนี่แหละครับ
หลังจากนั้นก็เครื่องขึ้นบินครับ ตรงเวลาซะด้วย (แอบเมาท์ว่าเพื่อนผมบินเจ้าป้าตามมา ซึ่งดีเลย์สนั่นลั่นทุ่งมาก หลังจากสบประมาทผมเอาไว้ว่าเลือกสายการบินอะไรวะนู่นนี่ พอเจอกันอีกทีที่เชียงใหม่ก็เงียบกันหมดครับ อิอิ)
มาสำรวจของรอบตัวผมกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง แน่นอนว่าจะต้องมีเอกสารสาธิตการใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติตนหากเกิดเหตุการฉุกเฉิน (ซึ่งแนะนำว่าทุกคนควรอ่าน อย่างน้อยให้ผ่านตาทุกครั้งเวลาขึ้นเครื่องนะครับ เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง) นอกจากนั้นผมเจอถุงสำหรับอาเจียน เมนูอาหาร แคตตาล็อกขายของที่ระลึก และนิตยสารของสายการบินครับ
สำหรับนิตยสารนี้ ด้านในเป็นภาษาเวียดนามทั้งหมดนะครับ อ่านไม่ออก T_T
สักพักลูกเรือก็ประกาศว่ามีบริการอาหารสำหรับผู้ที่จองมาแล้ว และมีเพิ่มสำหรับผู้สนใจ สามารถดูเมนูได้จากหน้าที่นั่ง ซึ่งตอนขาไปผมไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้ รอตอนขากลับนะครับว่าจะมีอะไรน่าทานบ้างครับ
แต่ผมเหรอครับ เพิ่มอิ่มมาจากอาหารเซตญี่ปุ่นของสนามบินมา ไม่ไหวจริงๆครับ ขอนอนดีกว่า แต่รู้สึกว่าแป๊บเดียวจริงๆ ผมมีสัญญานรัดเข็มขัดบอกให้รู้ว่าจะถึงที่หมายซะแล้วครับ
ซึ่งวิธีการเข้ามาในตัวอาคารผู้โดยสาร อันนี้มีงวงไปเทียบให้เดินเข้ามาได้เลยนะครับ (เอ้ะ เค้าเรียกว่างวงหรือเปล่านะ?)
เข้ามาแล้วก็หันกลับไปดูพระเอกของเราอีกสักที ดูข้างนอกก็หล่อดีเหมือนกันนะเรา
ปีกแดงเด่น เหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง? 555
หลังจากนั้นก็เดินเข้าสู่ตัวอาคาร และเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้ตามปกติเลยครับผม
จบแล้วสำหรับขาไปนะครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการพิมพ์รีวิวใช้เวลาเหมือนกันนะเนี่ย
สำหรับขากลับผมขอติดไว้ก่อนนะครับ จะพยายามกลับมาให้ไวที่สุดครับ
ระหว่างรอผมมีภาพจากแม่กำปองมาฝาก ตอนไปหนาวมากเลยครับ บรรยากาศดีเชียว
เดี๋ยวเจอกันครับ
*แก้ไขคำผิดครับ*