#บันทึกการเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว
ตอน : ขอบคุณครับคุณลุง TAKI
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผม จะได้เที่ยวที่ FUKUI ถึงแม้ได้มาอยู่แค่3วัน2คืน แต่ที่นี่ทำให้ผมจดจำไม่มีวันลืม และทุกครั้งที่นึกถึงเมื่อไหร่ ก็จะมีความรู้สึกดีๆ ที่จะถูกรีรันในใจเสมอ ความสุข ความสวยงาม มิตรภาพ และความน่ารักและการเอาใจใส่ ของคุณลุงเจ้าของ Lounge Taki Guesthouse มันเลยทำให้ผมต้องเขียนกระทู้ขึ้นมากเพื่อแสดงความขอบคุณ
เหมือนเช้าของวันแรกคุณลุงก็จะเตรียม Light breakfast ให้กับแขกที่มาพัก ก่อนที่จะออกเดินทาง วันนี้ผมบอกคุณลุงว่าอยากจะไปเที่ยวที่วัด Eiheiji ซึ่งก็คิดว่าคงได้ไปแค่ที่เดียวเพราะไม่อยากรีบร้อนที่จะต้องกลับมาสถานีเพื่อนั่งรถไฟต่อไปที่เกียวโต
เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง ถึงก็ประมาณ 10 โมงกว่าๆ วันนี้ผมต้องลุยเดี่ยวคุณลุงเขาจะนั่งรอที่ร้านชาตรงที่จอดรถ แต่ก็ยังอุตส่าห์อาสาที่จะเดินมาส่งผมถึงตัววัดและถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ที่คุณลุงบอกว่าเป็น Picture spot
ตอนแรกที่รีเสิชดูในภาพ ไม่คิดว่าวัดจะกว้างใหญ่และอยู่ถ่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนขนาดนี้ ตอนที่ไปถึงมองไปรอบๆก็จะเจอแต่สีเขียว และไอหมอกปกคลุมไปทั่ว ทางเข้าสองข้างทางก็เรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เสียงซู่ๆของลำธาร ในวัด มันทำให้วัดนี้เป็นวัดที่ดูสดชื่นและเป็นธรรมชาติมากๆ เหมาะที่สุดสำหรับการมารับอากาศบริสุทธิ์ ในช่วงเดือนตุลาที่อากาศยังไม่หนาวแบบนี้
“วัดเอเฮจิ” (Eiheiji Temple)
ประวัติคร่าวๆนะครับ วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1244 โดย Dogen Zenji, ผู้ก็ตั้ง SOTO SCHOOL ของศาสนาพุทธนิกายเซน ในตัววัดจะประกอบไปด้วยอาคารไม้ประมาณ 70 หลัง มีทั้งเล็กและใหญ่ และวิหารสำคัญทั้ง 7 ถูกเชื่อมต่อกันด้วยแกลลอรี่ไม้ซึ่งมีลักษณะเป็นบันไดเพราะว่าวัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา และในอาคารที่ชื่อว่า "Rurishouboukaku" ได้รวบร่วมสมบัติอันล่ำค่าไว้มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ "Fukanzazengi" ที่ถือว่าเป็นสมบัติของชาติ ถ้าแปลตรงๆก็เป็นเหมือนตำราหรือคัมภีร์ที่ท่าน Dogen Zenji เขียนไว้เกี่ยวกับกฏที่เป็นเครื่องถือปฏิบัติ ความสำคัญและเป้าหมายในการทำสมาธิแบบนิกายเซน อันนี้แปลมาอีกที ผิดถูกประการไดก็ขอโทษด้วยนะครับ
ค่าเข้าชม : 510 เยน/คน ต้องซื้อที่เครื่องแล้วค่อยไปยื่นให้คนเก็บตั๋ว
การเดินทาง : นำโดยลุง TAKI >< 555 แต่ปกติจะมีรถบัส “Express Eiheiji Liner” ตรง FUKUI STATION east exit ที่ไปถึงวัดเลย ยังไงก็เดินทางไม่ลำบาก ตอนที่ไปถามที่ TOURIST INFORMATION มันจะมีพาส 2 วัน ราคา 2000 เยน
เวลาเปิด/ปิด : 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยววัดนี้ จิวแนะนำให้ใช้เวลากับมันสัก 2-3 ชม ยิ่งถ้าไปช่วงเช้าๆอากาศก็กำลังดีเลยครับ ได้ดูไอหมอกที่ปกคลุมต้นไม้ ได้นั่งนิ่งๆเพื่อซึมซับบรรยากาศ เดินดูความสวยงามของสถาปัตยกรรม เดินเล่นๆข้างลำธาร ที่นี่มันเป็นเหมือนสวรรค์จริงๆ
งั้นเรามาต่อกันเลยกับ FUKUI DINOSAUR MUSEUM
จริงๆไม่ได้อยากมาเลยเพราะจิวไม่ได้อินกับไดโนเสาร์เท่าไหร่ แต่ไหนๆคุณลุงบอกว่าเวลายังเหลือเราก็อะเก็บสักหน่อย เก็บมันให้ครบๆ 555 ผมใช้เวลาที่นี่ไม่มากนัก เพราะว่าต้องรีบกลับไปสถานีเพื่อนั่งรถไฟต่อไป KYOTO แถมวันนั้นน่าจะเป็นวันอาทิตย์ รถด้านหน้าทางเข้าเลยติดขัดนิดหน่อย จนต้องลงเดินไปก่อน
ระหว่างการเดินทางไปเราก็จะเห็นอะไรกลมๆสะท้อนแสงๆอยู่ถ่ามกลางต้นไม้เยอะๆ นั้นและคือเจ้าตึกของพิพิธภัณฑ์หรือจุดหมายของเรานั้นเอง
พอไปถึงที่หมายผมปุ๊บก็รีบซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมปั๊บ ได้เข้าไปก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆครับ ถึงที่นี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นอะเนอะ เข้าก็เก่งเรื่องการจัดExihibitionและการจัดสรรพื้นที่อยู่แล้ว พูดตรงๆไม่เข้าใจอะไรเลยเพราะข้อมูลทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราก็สนุกกับการชมนิทรรศกาล มันมีทั้งตัว T-Rex ที่ขยับได้ตัวนี้เป็นตัวเด่นประจำที่นี่เลย และการเพ้นผนังเพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนเรากำลังเดินอยู่ถ่ามกลางไดโนเสาร์
ค่าเข้าชม : 770 เยน ไม่แพงเลยเอาจริงๆ แต่มันก็มีโชนอื่นที่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ก็ซื้อทีเดียวที่ตู้ด้านหน้าได้เลยครับ
การเดินทาง ค่อนข้างใช้เวลาประมาณ 1 ชม เดินทางจากจากสถานี FUKUI แล้วให้ขึ้น Echizen Railway Eiheiji Katsuyama Line, ลงที่สถานี Katsuyama แล้วให้ต่อ Taxi แถวนั้นสถานี ก็ประมาณ 10 นาทีก็จะถึง
ขอจบทริปนี้ด้วยความน่ารักของคุณลุง TAKI นะครับ
ตั้งแต่วันแรก บนโต๊ะอาหาร คุณลุงก็เลี้ยง oyster ชุปแป้งทอด หลังจากนั้นก็ขับรถพาไปแช่ออนเซน พอกลับถึงที่พัก คุณลุงก็ให้ผมย้ายไปนอนห้องใหญ่ เพราะวันนั้นไม่มีคนมาพัก วันรุ่งขึ้น คุณลุงก็พาเที่ยวรอบๆโดนเก็บตังแค่คนละ 1000 เยน และวันสุดท้ายคุณลุงก็น่ารักเหมือนเคย ไม่เก็บเงินผมเลยสักเยนเดียว ขอขอบคุณคุณลุงมากๆครับ คุณลุงคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมรักจังหวัดนี้
ถ้าชอบกดไลค์ หรือแชร์ให้ด้วยนะครับ
จิว
ขอฝากเพจด้วยครับ
https://www.facebook.com/Let-Su-GO-952926924808033/
และก็ IG : nattapolchiu
Next station is Kyoto.....
บันทึกการเดินทาง FUKUI : เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว : ตอน ขอบคุณครับคุณลุง TAKI
เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว
ตอน : ขอบคุณครับคุณลุง TAKI
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผม จะได้เที่ยวที่ FUKUI ถึงแม้ได้มาอยู่แค่3วัน2คืน แต่ที่นี่ทำให้ผมจดจำไม่มีวันลืม และทุกครั้งที่นึกถึงเมื่อไหร่ ก็จะมีความรู้สึกดีๆ ที่จะถูกรีรันในใจเสมอ ความสุข ความสวยงาม มิตรภาพ และความน่ารักและการเอาใจใส่ ของคุณลุงเจ้าของ Lounge Taki Guesthouse มันเลยทำให้ผมต้องเขียนกระทู้ขึ้นมากเพื่อแสดงความขอบคุณ
เหมือนเช้าของวันแรกคุณลุงก็จะเตรียม Light breakfast ให้กับแขกที่มาพัก ก่อนที่จะออกเดินทาง วันนี้ผมบอกคุณลุงว่าอยากจะไปเที่ยวที่วัด Eiheiji ซึ่งก็คิดว่าคงได้ไปแค่ที่เดียวเพราะไม่อยากรีบร้อนที่จะต้องกลับมาสถานีเพื่อนั่งรถไฟต่อไปที่เกียวโต
เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง ถึงก็ประมาณ 10 โมงกว่าๆ วันนี้ผมต้องลุยเดี่ยวคุณลุงเขาจะนั่งรอที่ร้านชาตรงที่จอดรถ แต่ก็ยังอุตส่าห์อาสาที่จะเดินมาส่งผมถึงตัววัดและถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ที่คุณลุงบอกว่าเป็น Picture spot
ตอนแรกที่รีเสิชดูในภาพ ไม่คิดว่าวัดจะกว้างใหญ่และอยู่ถ่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนขนาดนี้ ตอนที่ไปถึงมองไปรอบๆก็จะเจอแต่สีเขียว และไอหมอกปกคลุมไปทั่ว ทางเข้าสองข้างทางก็เรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เสียงซู่ๆของลำธาร ในวัด มันทำให้วัดนี้เป็นวัดที่ดูสดชื่นและเป็นธรรมชาติมากๆ เหมาะที่สุดสำหรับการมารับอากาศบริสุทธิ์ ในช่วงเดือนตุลาที่อากาศยังไม่หนาวแบบนี้
“วัดเอเฮจิ” (Eiheiji Temple)
ประวัติคร่าวๆนะครับ วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1244 โดย Dogen Zenji, ผู้ก็ตั้ง SOTO SCHOOL ของศาสนาพุทธนิกายเซน ในตัววัดจะประกอบไปด้วยอาคารไม้ประมาณ 70 หลัง มีทั้งเล็กและใหญ่ และวิหารสำคัญทั้ง 7 ถูกเชื่อมต่อกันด้วยแกลลอรี่ไม้ซึ่งมีลักษณะเป็นบันไดเพราะว่าวัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา และในอาคารที่ชื่อว่า "Rurishouboukaku" ได้รวบร่วมสมบัติอันล่ำค่าไว้มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ "Fukanzazengi" ที่ถือว่าเป็นสมบัติของชาติ ถ้าแปลตรงๆก็เป็นเหมือนตำราหรือคัมภีร์ที่ท่าน Dogen Zenji เขียนไว้เกี่ยวกับกฏที่เป็นเครื่องถือปฏิบัติ ความสำคัญและเป้าหมายในการทำสมาธิแบบนิกายเซน อันนี้แปลมาอีกที ผิดถูกประการไดก็ขอโทษด้วยนะครับ
ค่าเข้าชม : 510 เยน/คน ต้องซื้อที่เครื่องแล้วค่อยไปยื่นให้คนเก็บตั๋ว
การเดินทาง : นำโดยลุง TAKI >< 555 แต่ปกติจะมีรถบัส “Express Eiheiji Liner” ตรง FUKUI STATION east exit ที่ไปถึงวัดเลย ยังไงก็เดินทางไม่ลำบาก ตอนที่ไปถามที่ TOURIST INFORMATION มันจะมีพาส 2 วัน ราคา 2000 เยน
เวลาเปิด/ปิด : 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยววัดนี้ จิวแนะนำให้ใช้เวลากับมันสัก 2-3 ชม ยิ่งถ้าไปช่วงเช้าๆอากาศก็กำลังดีเลยครับ ได้ดูไอหมอกที่ปกคลุมต้นไม้ ได้นั่งนิ่งๆเพื่อซึมซับบรรยากาศ เดินดูความสวยงามของสถาปัตยกรรม เดินเล่นๆข้างลำธาร ที่นี่มันเป็นเหมือนสวรรค์จริงๆ
งั้นเรามาต่อกันเลยกับ FUKUI DINOSAUR MUSEUM
จริงๆไม่ได้อยากมาเลยเพราะจิวไม่ได้อินกับไดโนเสาร์เท่าไหร่ แต่ไหนๆคุณลุงบอกว่าเวลายังเหลือเราก็อะเก็บสักหน่อย เก็บมันให้ครบๆ 555 ผมใช้เวลาที่นี่ไม่มากนัก เพราะว่าต้องรีบกลับไปสถานีเพื่อนั่งรถไฟต่อไป KYOTO แถมวันนั้นน่าจะเป็นวันอาทิตย์ รถด้านหน้าทางเข้าเลยติดขัดนิดหน่อย จนต้องลงเดินไปก่อน
ระหว่างการเดินทางไปเราก็จะเห็นอะไรกลมๆสะท้อนแสงๆอยู่ถ่ามกลางต้นไม้เยอะๆ นั้นและคือเจ้าตึกของพิพิธภัณฑ์หรือจุดหมายของเรานั้นเอง
พอไปถึงที่หมายผมปุ๊บก็รีบซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมปั๊บ ได้เข้าไปก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆครับ ถึงที่นี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นอะเนอะ เข้าก็เก่งเรื่องการจัดExihibitionและการจัดสรรพื้นที่อยู่แล้ว พูดตรงๆไม่เข้าใจอะไรเลยเพราะข้อมูลทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราก็สนุกกับการชมนิทรรศกาล มันมีทั้งตัว T-Rex ที่ขยับได้ตัวนี้เป็นตัวเด่นประจำที่นี่เลย และการเพ้นผนังเพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนเรากำลังเดินอยู่ถ่ามกลางไดโนเสาร์
ค่าเข้าชม : 770 เยน ไม่แพงเลยเอาจริงๆ แต่มันก็มีโชนอื่นที่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ก็ซื้อทีเดียวที่ตู้ด้านหน้าได้เลยครับ
การเดินทาง ค่อนข้างใช้เวลาประมาณ 1 ชม เดินทางจากจากสถานี FUKUI แล้วให้ขึ้น Echizen Railway Eiheiji Katsuyama Line, ลงที่สถานี Katsuyama แล้วให้ต่อ Taxi แถวนั้นสถานี ก็ประมาณ 10 นาทีก็จะถึง
ขอจบทริปนี้ด้วยความน่ารักของคุณลุง TAKI นะครับ
ตั้งแต่วันแรก บนโต๊ะอาหาร คุณลุงก็เลี้ยง oyster ชุปแป้งทอด หลังจากนั้นก็ขับรถพาไปแช่ออนเซน พอกลับถึงที่พัก คุณลุงก็ให้ผมย้ายไปนอนห้องใหญ่ เพราะวันนั้นไม่มีคนมาพัก วันรุ่งขึ้น คุณลุงก็พาเที่ยวรอบๆโดนเก็บตังแค่คนละ 1000 เยน และวันสุดท้ายคุณลุงก็น่ารักเหมือนเคย ไม่เก็บเงินผมเลยสักเยนเดียว ขอขอบคุณคุณลุงมากๆครับ คุณลุงคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมรักจังหวัดนี้
ถ้าชอบกดไลค์ หรือแชร์ให้ด้วยนะครับ
จิว
ขอฝากเพจด้วยครับ
https://www.facebook.com/Let-Su-GO-952926924808033/
และก็ IG : nattapolchiu
Next station is Kyoto.....