#บันทึกการเดินทาง
ญี่ปุ่นคนเดียว
3 วัน 2 คืนที่ FUKUI
ตอน FUKUI ขอบคุณที่ได้พบกัน
ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้แพลนไปเที่ยวญี่ปุ่น และครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่ 3 แล้ว เหตุผลที่กลับมาอีก ก็เพราะประทับใจและรักประเทศญี่ปุ่นมากๆ แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นก็คือ การมาเที่ยวคนเดียว
เมืองนี้เป็นเมืองที่ 2 ที่ผมหยุดแวะพัก เพราะอยากใช้เจ้าพาส Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ให้คุ้มก็เพียงเท่านั้นเอง โดยไม่รู้เลยว่าที่นี่มันมีอะไรดีๆมากมายที่รอผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มิตรภาพใหม่ๆ และสิ่งที่เลือกถูกที่สุดก็คงจะไม่พ้นที่พัก นั้นก็คือ Lounge Taki guesthouse
วันแรกที่ไปถึง ผมถึงค่อนข้างค่ำเพราะออกมาจาก KANAZAWA ช่วงเย็นแล้ว แต่ดีที่เส้นทางนี้เราไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเลย พอถึงสถานี FUKUI สิ่งแรกที่ผมทำก็ไม่พ้นที่จะไปสอบถาม ข้อมูลที่ TOURIST CENTER ก่อนไปผมแพลนไว้แค่ วันนึงจะไป Tojinbo และอีกวันนึงคงมีเวลาไปได้แค่ Eiheiji Temple เท่านั้น จริงๆก็อยากไปหลายๆที่ แต่ดูท่ามันต้องเดินทางนาน เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งรถบัส
หลังจากจากนั้นก็ไปที่เกสเฮ้าส์ LOUNGE TAKI ที่จองเอาไว้ จำชื่อไว้ดีๆนะ พอไปถึง สรุปว่า ไม่มีคนอยู่มีแค่เบอร์โทร ติดไว้ เราก็ไว้วานเพื่อนที่ไทยที่พูดญี่ปุ่นได้โทรไป เขาก็ตอบกลับมาว่ารอก่อนเดี๋ยวมารับ
สักพักคุณลุงเจ้าของที่พักก็มาถึง เขาพาผมเก็บกระเป๋าสัมภาระในเกสเฮ้าเส็จ แล้วให้ผมขึ้นรถโดยที่ผมยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง ในรถมีชาวต่างชาติอยู่สองคน เราก็เริ่มคุยกันสรุปก็คือพวกเขากำลังไปกินข้าว แต่ผมมาพอดีเลยต้องรีบขับรถมารับผมก่อน(รู้สึกผิดจัง) และสิ่งดีๆสิ่งแรกที่เกิดขึ้น ก็คือ สองคนนี้พูดภาษาญี่ปุ่นได้ และก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้ ต้องขอบคุณพวกเขาที่เป็นตัวกลางในการแปลเวลาคุณลุงเจ้าของเกสเฮ้าส์เวลาเขาสอบถาม และทำให้ผมได้กลับมาพูดภาษาฝรั่งเศสอีกครั้ง
คืนนั้นเราก็ไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลด้วย บนโต๊ะอาหารคุณลุง ก็เสนอเราว่าพรุ่งนี้จะขับรถพานำเที่ยวเก็บคนละ 1000 เยน จะเอามั้ย คุณลุงก็บอกแพลนว่าจะพาไปไหนบ้าง เราก็ตอบตกลงเลยโดยไม่ลังเลใจ เพราะราคา
โคตรถูก หรือ ถูกชิปหายนั้นเอง หลังจากกินข้าวเส็จ คุณลุงก็พาพวกเราไปแช่ออนเซนผ่อนคลายกันที่ PublicBath ซึ่งใหญ่มากมีหลายบ่อให้เลือกลงไปแช่พักผ่อนร่าง อยากรู้ว่าที่ไหนก็อินบ็อกซ์มาถามละกัน
เช้าของอีกวัน
หลังจากตอนเช้าที่คุณลุง offer อาหารเช้าเราก็เริ่มทริปวันแรกกันโดยคุณลุงขับรถพาพวกเราไปดูกังหันแรงดันน้ำ เพื่อใช่ในการบดแป้ง ก็เป็นเครื่องทุ่นแรงของคนสมัยก่อนนั้นเอง มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอก แต่ก็ดีที่ได้เห็น
หลังจากนั้นก็มูฟกันไปที่ Ichijodani Asakura Clan Ruins
ที่นี่เป็นสากบ้านเรือนที่เหลือของย่านชุมชนเก่าที่อยู่ในช่วง Sengoku Period วันนั้นเรามาถูกจังหวะพอดีเพราะมีรถเครนที่สามารถยกพวกเราขึ้นไปเพื่อดูวิวทิวทัศน์ด้านบน ซึ่งวันปกติ ลุงบอกว่าไม่มี ที่เห็นข้างบนรอบๆเต็มไปด้วยธรรมชาติต้นไม้สูงใหญ่ ฝูงนกที่บินไปบินมา ช่วงนั่นถึงฝนจะตกนิดๆก็ถือว่าอากาศดี ไม่หนาวมาก แล้วลุงก็ให้ผมแต่งตัวเป็นซามูไร ฮามาก อย่าขำนะ ชุดสวยแต่หมวกหนักโคตร 55555555 ใจจริงไม่อยากแต่ง ที่ทำเพราะความดีของคุณลุงล้วนๆ
พอได้เวลามื้อเที่ยง คุณลุงก็ขับพาเราไปกินข้าวหมูทอดที่คุณลุงบอกว่าอร่อยที่สุดละในเมืองนี้ ความรู้สึกมันไม่เหมือนร้านอื่นๆที่เคยกินมันดูทอดคนละแบบ แต่อร่อยมากๆ พอนึกถึงน้ำลายก็ไหล
หลังจากนั้นคุณลุงก็ขับรถพาไปเที่ยวต่อที่ "Maruoka Castle"
และถ้าจำไม่ผิดคุณลุงบอกว่าเป็น1ใน14ปราสาทที่เก่าที่สุดของญี่ปุ่นที่ไม่ได้ถูกทำลายลง พอผมขึ้นไปถึงตัวปราสาทปุ๊บผมก็โผลเข้าไปกอดเสาไม้ข้างในทันที รู้สึกโคตรมีค่าเลย คิดดูดิสร้างมาตั้งแต่ปี คศ 1576 440 ปีพอดี และในวันนั้น ก็เป็นช่วงงานเทศกาล แปลมาจากเพื่อนที่บอกอีกทีก็คือ เทศกาลปราสาทเก่า เขาก็มีการจัดบูธอาหาร กิจกรรม และการท่องเที่ยว และ มีวงดนตรี ตอนกลางคืนจะมีขบวนแห่ไปรอบๆตัวปราสาท
อีกความพิเศษของที่นี่ ก็คือโดนรายล้อมไปด้วยต้น ซากุระ Yoshino Cherry trees ถึง 400 ต้น ลองจินดูดิว่า 400 ต้น บานพร้อมกัน พูดได้คำเดียวว่า สุโค้ยยยยยย
จุดหมายต่อไป เป็นที่ที่จิวตั้งใจไว้ว่าจะมาตั้งแต่แรก นั่นก็คื๊ออออออออออ Tojinbo
เป็นหน้าผ่าหิน ที่เรียงกันอยู่ฝั่งชายทะเลญี่ปุ่น เป็นระยะทางรวมประมาณ 1 กิโลเมตร ละก็สูงกว่า20เมตร เสียดายที่วันนี้ฟ้าดันปิดไม่งั้นมันคงต้องสวยกว่านี้อีกล้านเท่า แต่ยังไงก็ชอบนะ ชอบลมทะเลที่พัดมากระทบ ชอบความลำบากที่ต้องคอยๆเดินระวังๆกว่าจะไปถึงโขดหินที่ติดๆกับทะเลเมืองนี้ที่มาไม่เจอคนไทยเลย หรือไม่ก็มากันน้อยมาก
หลังจากนั้นลุงก็พาไปแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อน ตรง Awara onsen
เปิดให้แช่ฟรีๆ พวกเราไปแช่เท้าที่บ่อร้อนมากตั้ง41องศา แต่มันมีหลายบ่อ ร้อนน้อยกว่านี้ก็มี และความพิเศษของที่พักที่มีบ่อน้ำร้อนให้แช่ในเมืองนี้ก็คือ เขาต่อตรงมาจากแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติเลยที่เดียว
ช่วงสุดท้ายของวัน เป็นเวลาที่ต้องไปส่งเพื่อนอีก 2 คน ที่สถานีเพราะพวกเขาจะต้องเดินทางต่อไปที่เมือง KANAZAWA
ต้องขอบคุณคุณลุงมากๆครับ ที่ได้พาผมกับเพื่อนๆมาเที่ยวกันอย่างราคาถูก ตอนแรกก็นึกว่าจะต้องเสียค่าเข้าแต่ละที่และค่าเปลี่ยนชุดต่างๆ สรุปว่าไม่ต้องเสียเลยสักเยนเดียว ปกติถ้าเดินทางเองก็อาจจะต้องต่อหลายต่อ คงยุ่งยากกว่านี้นิดหน่อย
ผมประทับใจคุณลุง TAKI มากๆครับ จากใจจริง ที่ทำให้ผมได้ไปสัมผัสกับสถานที่ที่ที่ผมปักหมุดไว้ ใน Google map และคิดว่าคงไม่มีเวลาพอที่จะได้ไป
ในส่วนของการเดินทาง
เท่าที่ไปสอบถามพนักงาน ที่ Tourist information ส่วนใหญ่จะต้องเดินทางด้วยรถบัส หรือนั่งรถไฟเพื่อไปต่อรถบัสอีกที ถ้าเดินทางเองตลอด 2 วัน เขาแนะนำ ให้ใช้ Passภายใน ราคา 2000 เยน หรือประมาณ 670 บาทไทย
FUKUI ทีนี่ถ้าเปรียบเป็นอาหารก็ป้อนเราเต็มอิ่มจริงๆ ทั้งรสชาติ ทั้งบรรยากาศ ทั้งความประทับใจและความดีของคุณลุงเจ้าของ LOUNGE TAKI guesthouse
การที่ได้ไปเที่ยวคนเดียว มันก็มีเวลาเหงาๆนะ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เราได้เจอมิตรภาพใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ อย่าเสียเวลาไปกับความเหงาเลยครับ เพราะมาเที่ยวคนเดียว เราจะทำอะไรก็ได้ 5555
LINK ข้อมูล :
http://www.fuku-e.com/lang/english/
อย่าพลาดเมืองนี้นะ ผมชอบมันมากหวังว่าทุกคนก็คงจะชอบเหมือนกัน
ฝากด้วยครับ
https://www.facebook.com/Let-Su-GO-952926924808033/
IG : nattapolchiu
ขอบคุณครับ
จิว
To be continue....
เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว ตอน FUKUI nice to meet you : 3 วัน 2 คืน ในฟูกุอิ เมืองที่ไม่ใช่แค่ทางผ่าน
#บันทึกการเดินทาง
ญี่ปุ่นคนเดียว
3 วัน 2 คืนที่ FUKUI
ตอน FUKUI ขอบคุณที่ได้พบกัน
ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้แพลนไปเที่ยวญี่ปุ่น และครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่ 3 แล้ว เหตุผลที่กลับมาอีก ก็เพราะประทับใจและรักประเทศญี่ปุ่นมากๆ แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นก็คือ การมาเที่ยวคนเดียว
เมืองนี้เป็นเมืองที่ 2 ที่ผมหยุดแวะพัก เพราะอยากใช้เจ้าพาส Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ให้คุ้มก็เพียงเท่านั้นเอง โดยไม่รู้เลยว่าที่นี่มันมีอะไรดีๆมากมายที่รอผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มิตรภาพใหม่ๆ และสิ่งที่เลือกถูกที่สุดก็คงจะไม่พ้นที่พัก นั้นก็คือ Lounge Taki guesthouse
วันแรกที่ไปถึง ผมถึงค่อนข้างค่ำเพราะออกมาจาก KANAZAWA ช่วงเย็นแล้ว แต่ดีที่เส้นทางนี้เราไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเลย พอถึงสถานี FUKUI สิ่งแรกที่ผมทำก็ไม่พ้นที่จะไปสอบถาม ข้อมูลที่ TOURIST CENTER ก่อนไปผมแพลนไว้แค่ วันนึงจะไป Tojinbo และอีกวันนึงคงมีเวลาไปได้แค่ Eiheiji Temple เท่านั้น จริงๆก็อยากไปหลายๆที่ แต่ดูท่ามันต้องเดินทางนาน เพราะส่วนใหญ่ต้องนั่งรถบัส
หลังจากจากนั้นก็ไปที่เกสเฮ้าส์ LOUNGE TAKI ที่จองเอาไว้ จำชื่อไว้ดีๆนะ พอไปถึง สรุปว่า ไม่มีคนอยู่มีแค่เบอร์โทร ติดไว้ เราก็ไว้วานเพื่อนที่ไทยที่พูดญี่ปุ่นได้โทรไป เขาก็ตอบกลับมาว่ารอก่อนเดี๋ยวมารับ
สักพักคุณลุงเจ้าของที่พักก็มาถึง เขาพาผมเก็บกระเป๋าสัมภาระในเกสเฮ้าเส็จ แล้วให้ผมขึ้นรถโดยที่ผมยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง ในรถมีชาวต่างชาติอยู่สองคน เราก็เริ่มคุยกันสรุปก็คือพวกเขากำลังไปกินข้าว แต่ผมมาพอดีเลยต้องรีบขับรถมารับผมก่อน(รู้สึกผิดจัง) และสิ่งดีๆสิ่งแรกที่เกิดขึ้น ก็คือ สองคนนี้พูดภาษาญี่ปุ่นได้ และก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้ ต้องขอบคุณพวกเขาที่เป็นตัวกลางในการแปลเวลาคุณลุงเจ้าของเกสเฮ้าส์เวลาเขาสอบถาม และทำให้ผมได้กลับมาพูดภาษาฝรั่งเศสอีกครั้ง
คืนนั้นเราก็ไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลด้วย บนโต๊ะอาหารคุณลุง ก็เสนอเราว่าพรุ่งนี้จะขับรถพานำเที่ยวเก็บคนละ 1000 เยน จะเอามั้ย คุณลุงก็บอกแพลนว่าจะพาไปไหนบ้าง เราก็ตอบตกลงเลยโดยไม่ลังเลใจ เพราะราคาโคตรถูก หรือ ถูกชิปหายนั้นเอง หลังจากกินข้าวเส็จ คุณลุงก็พาพวกเราไปแช่ออนเซนผ่อนคลายกันที่ PublicBath ซึ่งใหญ่มากมีหลายบ่อให้เลือกลงไปแช่พักผ่อนร่าง อยากรู้ว่าที่ไหนก็อินบ็อกซ์มาถามละกัน
เช้าของอีกวัน
หลังจากตอนเช้าที่คุณลุง offer อาหารเช้าเราก็เริ่มทริปวันแรกกันโดยคุณลุงขับรถพาพวกเราไปดูกังหันแรงดันน้ำ เพื่อใช่ในการบดแป้ง ก็เป็นเครื่องทุ่นแรงของคนสมัยก่อนนั้นเอง มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอก แต่ก็ดีที่ได้เห็น
หลังจากนั้นก็มูฟกันไปที่ Ichijodani Asakura Clan Ruins
ที่นี่เป็นสากบ้านเรือนที่เหลือของย่านชุมชนเก่าที่อยู่ในช่วง Sengoku Period วันนั้นเรามาถูกจังหวะพอดีเพราะมีรถเครนที่สามารถยกพวกเราขึ้นไปเพื่อดูวิวทิวทัศน์ด้านบน ซึ่งวันปกติ ลุงบอกว่าไม่มี ที่เห็นข้างบนรอบๆเต็มไปด้วยธรรมชาติต้นไม้สูงใหญ่ ฝูงนกที่บินไปบินมา ช่วงนั่นถึงฝนจะตกนิดๆก็ถือว่าอากาศดี ไม่หนาวมาก แล้วลุงก็ให้ผมแต่งตัวเป็นซามูไร ฮามาก อย่าขำนะ ชุดสวยแต่หมวกหนักโคตร 55555555 ใจจริงไม่อยากแต่ง ที่ทำเพราะความดีของคุณลุงล้วนๆ
พอได้เวลามื้อเที่ยง คุณลุงก็ขับพาเราไปกินข้าวหมูทอดที่คุณลุงบอกว่าอร่อยที่สุดละในเมืองนี้ ความรู้สึกมันไม่เหมือนร้านอื่นๆที่เคยกินมันดูทอดคนละแบบ แต่อร่อยมากๆ พอนึกถึงน้ำลายก็ไหล
หลังจากนั้นคุณลุงก็ขับรถพาไปเที่ยวต่อที่ "Maruoka Castle"
และถ้าจำไม่ผิดคุณลุงบอกว่าเป็น1ใน14ปราสาทที่เก่าที่สุดของญี่ปุ่นที่ไม่ได้ถูกทำลายลง พอผมขึ้นไปถึงตัวปราสาทปุ๊บผมก็โผลเข้าไปกอดเสาไม้ข้างในทันที รู้สึกโคตรมีค่าเลย คิดดูดิสร้างมาตั้งแต่ปี คศ 1576 440 ปีพอดี และในวันนั้น ก็เป็นช่วงงานเทศกาล แปลมาจากเพื่อนที่บอกอีกทีก็คือ เทศกาลปราสาทเก่า เขาก็มีการจัดบูธอาหาร กิจกรรม และการท่องเที่ยว และ มีวงดนตรี ตอนกลางคืนจะมีขบวนแห่ไปรอบๆตัวปราสาท
อีกความพิเศษของที่นี่ ก็คือโดนรายล้อมไปด้วยต้น ซากุระ Yoshino Cherry trees ถึง 400 ต้น ลองจินดูดิว่า 400 ต้น บานพร้อมกัน พูดได้คำเดียวว่า สุโค้ยยยยยย
จุดหมายต่อไป เป็นที่ที่จิวตั้งใจไว้ว่าจะมาตั้งแต่แรก นั่นก็คื๊ออออออออออ Tojinbo
เป็นหน้าผ่าหิน ที่เรียงกันอยู่ฝั่งชายทะเลญี่ปุ่น เป็นระยะทางรวมประมาณ 1 กิโลเมตร ละก็สูงกว่า20เมตร เสียดายที่วันนี้ฟ้าดันปิดไม่งั้นมันคงต้องสวยกว่านี้อีกล้านเท่า แต่ยังไงก็ชอบนะ ชอบลมทะเลที่พัดมากระทบ ชอบความลำบากที่ต้องคอยๆเดินระวังๆกว่าจะไปถึงโขดหินที่ติดๆกับทะเลเมืองนี้ที่มาไม่เจอคนไทยเลย หรือไม่ก็มากันน้อยมาก
หลังจากนั้นลุงก็พาไปแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อน ตรง Awara onsen
เปิดให้แช่ฟรีๆ พวกเราไปแช่เท้าที่บ่อร้อนมากตั้ง41องศา แต่มันมีหลายบ่อ ร้อนน้อยกว่านี้ก็มี และความพิเศษของที่พักที่มีบ่อน้ำร้อนให้แช่ในเมืองนี้ก็คือ เขาต่อตรงมาจากแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติเลยที่เดียว
ช่วงสุดท้ายของวัน เป็นเวลาที่ต้องไปส่งเพื่อนอีก 2 คน ที่สถานีเพราะพวกเขาจะต้องเดินทางต่อไปที่เมือง KANAZAWA
ต้องขอบคุณคุณลุงมากๆครับ ที่ได้พาผมกับเพื่อนๆมาเที่ยวกันอย่างราคาถูก ตอนแรกก็นึกว่าจะต้องเสียค่าเข้าแต่ละที่และค่าเปลี่ยนชุดต่างๆ สรุปว่าไม่ต้องเสียเลยสักเยนเดียว ปกติถ้าเดินทางเองก็อาจจะต้องต่อหลายต่อ คงยุ่งยากกว่านี้นิดหน่อย
ผมประทับใจคุณลุง TAKI มากๆครับ จากใจจริง ที่ทำให้ผมได้ไปสัมผัสกับสถานที่ที่ที่ผมปักหมุดไว้ ใน Google map และคิดว่าคงไม่มีเวลาพอที่จะได้ไป
ในส่วนของการเดินทาง
เท่าที่ไปสอบถามพนักงาน ที่ Tourist information ส่วนใหญ่จะต้องเดินทางด้วยรถบัส หรือนั่งรถไฟเพื่อไปต่อรถบัสอีกที ถ้าเดินทางเองตลอด 2 วัน เขาแนะนำ ให้ใช้ Passภายใน ราคา 2000 เยน หรือประมาณ 670 บาทไทย
FUKUI ทีนี่ถ้าเปรียบเป็นอาหารก็ป้อนเราเต็มอิ่มจริงๆ ทั้งรสชาติ ทั้งบรรยากาศ ทั้งความประทับใจและความดีของคุณลุงเจ้าของ LOUNGE TAKI guesthouse
การที่ได้ไปเที่ยวคนเดียว มันก็มีเวลาเหงาๆนะ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เราได้เจอมิตรภาพใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ อย่าเสียเวลาไปกับความเหงาเลยครับ เพราะมาเที่ยวคนเดียว เราจะทำอะไรก็ได้ 5555
LINK ข้อมูล : http://www.fuku-e.com/lang/english/
อย่าพลาดเมืองนี้นะ ผมชอบมันมากหวังว่าทุกคนก็คงจะชอบเหมือนกัน
ฝากด้วยครับ
https://www.facebook.com/Let-Su-GO-952926924808033/
IG : nattapolchiu
ขอบคุณครับ
จิว
To be continue....