เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน
#อานาปานสติ#
ถ้าเราอยู่กับการภาวนาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้ากิเลส รัก โลภ โกรธ หลง จะกินใจเราไม่ได้ แต่ว่าเราไปปล่อยให้รั่ว ตาเห็นรูปก็ไหลไปตามรูป เมื่อหูได้ยินเสียงก็ไหลไปตามเสียง จมูกได้กลิ่นก็ไหลไปตามกลิ่น ลิ้นได้รสก็ไหลไปตามรส กายสัมผัส ก็ไหลไปกับการสัมผัส ใจครุ่นคิดยิ่งไปกันใหญ่ ทำให้พลังงานที่เราจะสะสมไว้เพื่อก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์มีไม่เพียงพอ
"เนื่องจากมีการรั่วอยู่ประจำทุกวัน"
เมื่อตาหู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราูรั่วเราก็ต้อง รักษารอยรั่วด้วยการอยู่กับอานาปานสติ คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้าของเรา หายใจเข้าก็รู้ตามเข้าไปว่าลมผ่านจมูก ...ผ่านกึ่งกลางอก...ไปสุดที่ท้องหายใจออกจากท้อง...ผ่านอก..มาสิ้นสุดที่จมูก. ให้ประคับประคองความรู้สึกของเราเอาไว้เช่นนี้
พยายามกำหนดสติตามลมหายใจเข้าไปทุกระยะ รู้ตามลมหายใจออกมาทุกระยะ เป็นการปิดทวารคือ ตา ห ูจมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้กำลังที่เราสั่งสมเอาไว้รั่วไหลไปในเรื่องอื่น ถ้ารั่ว....รู้ตัวเมื่อไรให้รีบดึงกลับมาจัดการอุดจัดการยารูรั่วด้วยสติก็คืออานาปานสติ
การรู้ลมหายใจเข้าออกของเราให้ถือว่าตอนนี้เรากำลังฝึกฝนตัวเอง. ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับร่างกายสร้างความเข้มแข็งให้แก่จิตใจเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรบกับกิเลส
ดังนั้นเราต้องสั่งสมพลังงานให้มากที่สุดโดยการฝึกสติรู้ระมัดระวังรู้ตามลมหายใจเข้าออกไว้
"ปิดทวารทั้ง 6"
คือ ตา ห ูจมูก ลิ้น กาย ใจ เอาสติระลึกรู้ตามลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวพยายามทำอย่างนี้เพื่อสั่งสมกำลังของเราให้มีมากขึ้น
ถ้ากำลังของเราไม่รั่วไหลมีมากขึ้น เมื่อเราใช้ในการพิจารณาธรรม ก็สามารถที่จะเข้าใจแจ่มแจ้ง ได้ง่ายขณะเดียวกันก็จะมีกำลังใจการตัดละก้าวล่วงกิเลสทั้งหลายไปได้ง่ายเช่นกัน
จากหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์
ฉบับพิเศษ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
จากเพจ trong sriisan
อานาปานสติ กำลังแห่งจิต
#อานาปานสติ#
ถ้าเราอยู่กับการภาวนาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้ากิเลส รัก โลภ โกรธ หลง จะกินใจเราไม่ได้ แต่ว่าเราไปปล่อยให้รั่ว ตาเห็นรูปก็ไหลไปตามรูป เมื่อหูได้ยินเสียงก็ไหลไปตามเสียง จมูกได้กลิ่นก็ไหลไปตามกลิ่น ลิ้นได้รสก็ไหลไปตามรส กายสัมผัส ก็ไหลไปกับการสัมผัส ใจครุ่นคิดยิ่งไปกันใหญ่ ทำให้พลังงานที่เราจะสะสมไว้เพื่อก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์มีไม่เพียงพอ
"เนื่องจากมีการรั่วอยู่ประจำทุกวัน"
เมื่อตาหู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราูรั่วเราก็ต้อง รักษารอยรั่วด้วยการอยู่กับอานาปานสติ คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้าของเรา หายใจเข้าก็รู้ตามเข้าไปว่าลมผ่านจมูก ...ผ่านกึ่งกลางอก...ไปสุดที่ท้องหายใจออกจากท้อง...ผ่านอก..มาสิ้นสุดที่จมูก. ให้ประคับประคองความรู้สึกของเราเอาไว้เช่นนี้
พยายามกำหนดสติตามลมหายใจเข้าไปทุกระยะ รู้ตามลมหายใจออกมาทุกระยะ เป็นการปิดทวารคือ ตา ห ูจมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้กำลังที่เราสั่งสมเอาไว้รั่วไหลไปในเรื่องอื่น ถ้ารั่ว....รู้ตัวเมื่อไรให้รีบดึงกลับมาจัดการอุดจัดการยารูรั่วด้วยสติก็คืออานาปานสติ
การรู้ลมหายใจเข้าออกของเราให้ถือว่าตอนนี้เรากำลังฝึกฝนตัวเอง. ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับร่างกายสร้างความเข้มแข็งให้แก่จิตใจเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรบกับกิเลส
ดังนั้นเราต้องสั่งสมพลังงานให้มากที่สุดโดยการฝึกสติรู้ระมัดระวังรู้ตามลมหายใจเข้าออกไว้
"ปิดทวารทั้ง 6"
คือ ตา ห ูจมูก ลิ้น กาย ใจ เอาสติระลึกรู้ตามลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวพยายามทำอย่างนี้เพื่อสั่งสมกำลังของเราให้มีมากขึ้น
ถ้ากำลังของเราไม่รั่วไหลมีมากขึ้น เมื่อเราใช้ในการพิจารณาธรรม ก็สามารถที่จะเข้าใจแจ่มแจ้ง ได้ง่ายขณะเดียวกันก็จะมีกำลังใจการตัดละก้าวล่วงกิเลสทั้งหลายไปได้ง่ายเช่นกัน
จากหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์
ฉบับพิเศษ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
จากเพจ trong sriisan