สวัสดีค่าาาาาา วันนี้จะมารีวิวฉีดสลายไขมันที่ต้นขาค่ะ ได้ผลจริงมั๊ย เห็นผลมากน้อยแค่ไหน อ่านได้กระทู้นี้เลยค่ะ
ก่อนอื่น พูดอารัมภบทเกี่ยวกับตัวเองนิดนึง ตอนนี้เรามาเรียนภาษาเกาหลีอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ เรียนมาได้ปีกว่าๆแล้ว จากชีวิตทำงานวันละอย่าางต่ำ 6 ชม. มาเป็นนักเรียนที่มีเรียนแค่ช่วงเช้า ที่เหลือก็กินๆเล่นๆนอนๆ ประกอบกับปริมาณอาหารที่นี่ ที่จากตอนแรกแบ่งกินได้ 2 มื้อ ตอนนี้มาม่าเกาหลีที่ตอนแรกว่าห่อใหญ่ ทุกวันนี้กินเส้นหมดแล้วยังไม่อิ่ม ยังเติมข้าวอีกกกกกกก
ไม่ต้องแปลกใจที่น้ำหนักจะพุ่งพรวดจนแม่ทักว่า อ้วนขึ้นนะ จากตอนแรกที่ห่วงลูกสาวกินยากคนนี้มากว่าจะกินอะไรไม่ได้ ครั้งกลับไปไทย วันก่อนจะกลับมาเกาหลี คุณแม่ทิ้งข้อความไว้ว่า..."ระวังเรื่องกินหน่อยนะ แก้มออกแล้ว"
พี่ชายสุดที่รัก (รุ่นพี่ที่เจอตอนมาเรียนที่นี่) ก็ไม่น้อยหน้า อย่าให้เผลอ มุก "ขา" จะมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เค้าบอกว่า ชีวิตที่ดีมาจากรากฐานที่มั่นคง
(เค้าที่ว่าน่ะ ใคร??) ซึ่งเรามั่นใจว่า รากฐานเรามั่นคงมาก!!! ไม่เชื่อดูรูป
แต่เมื่อมาอยู่เกาหลี แดนสาวขาเรียวยาว เราก็อดหวั่นไหวไปกับเทรนด์ที่นี่ไม่ได้
หลังจากเพื่อนคนจีนที่รู้จักแนะนำว่าให้ลองมาฉีดสลายไขมันที่รพ.ที่เพื่อนทำงานอยู่ซิ ถูกนะ คนรู้จักของเพื่อนก็เคยไปทำ พร้อมกับนำรูปโฆษณามาล่อ บวกกับความอยากรู้อยากลอง ก็เลยตัดสินใจไปลองฉีดสลายไขมันที่รพ. Lienjang ซึ่งตั้งอยู่ย่านดัง แหล่งคนมีตัง กังนัมนั่นเองค่ะ
ตัวเองทำคนเดียวไม่พอ ลากน้องที่รู้จักไปด้วย (เจ้าของกระทู้รีวิวฟิลเลอร์ ณ รพ.เดียวกัน) น้องสนใจฟิลเลอร์ เราสนใจทำขา (จริงๆแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจฉีดสลายไขมันนะคะ คือทำอะไรก็ได้ให้ไขมันมันออกไปอ่าค่ะ แล้วเค้าแนะนำตัวนี้มา) ไปถึงรพ. แจ้งชื่ออะไรเรียบร้อย (เพื่อนจองคิวให้ค่ะ) น้องกับเราก็แยกกัน น้องไปชั้น 6 ส่วนของเราไปชั้น 9 ที่เป็นส่วนของ Diet Centre มาถึงเจ้าหน้าที่ก็เอาเอกสารมาให้กรอกค่ะ พวกข้อมูลส่วนตัว น้ำหนัก ส่วนสูง ประวัติการรักษา ยาที่แพ้ บลาๆๆ ตามปกติของรพ.ทั่วไป
แล้วพี่ผู้หญิงน่าจะเป็นพยาบาลก็มาสำรวจขาเรา ขอดูขาแล้วก็จับๆ พร้อมกล่าวชม (รึเปล่า) ว่าขาแข็งมาก เป็นนักกีฬารีเปล่า ออกกำลังกายบ่อยใช่มั๊ย ก็ตอบเค้าไปว่า เมื่อวานออกกำลังกายบ่อย ชอบเต้น เค้าก็จับๆต่อไป ราวกับชื่นชมกล้ามเนื้อต้นขาของเรา เราก็ได้แต่ยิ้มในใจ บอกแล้วรากฐานหนูดี!!!
เสร็จแล้วก็ให้เราไปเปลี่ยนชุดค่ะ โดยให้ถอดชิ้นล่างออก (กางเกง+กางเกงใน) แล้วให้ใส่กางเกงแบบใส่แล้วทิ้งของเค้าแทน ที่นี่มีล๊อคเกอร์ให้เก็บของค่ะ มีกุญแจให้ด้วย เผื่อของหาย เปลี่ยนชุดเสร็จก็ใส่เสื้อคลุมที่เค้าเตรียมไว้ให้ เค้าก็พาไปชั่งน้ำหนัก วัดขนาดต้นขา วัดได้ 58ซม. พี่พยาบาลอุทานอีก บอกว่าเห็นตัวแล้วไม่คิดว่าขาจะไซส์นี้
พร้อมกล่าวว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมอยากทำขา หึหึ มีของดีต้องเก็บไว้ค่ะ!!! เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปเก็บประวัติ แล้วก็พาไปพบคุณหมอค่ะ
อันนี้รูปขาเราที่เราวัดเองนะคะ
คุณหมอก็ขอดูขา จับๆ พูดเหมือนพี่พยาบาลว่า ขาแข็งแรงดี แต่มีไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาด้านในและด้านนอก คุณหมอพูดไปก็เอาเมจิกมาวงที่ขาเราไปด้วย ก็บริเวณต้นขาด้านในและด้านนอกแหล่ะค่ะ แล้วก็บอกต่อว่า ที่หมอวงไว้ที่บริเวณที่จะฉีดยานะ เสร็จแล้วก็สอบประวัตินิดหน่อยว่า แพ้ยามั๊ย เคยทานยาลดน้ำหนักมั๊ย ก็ตอบไปว่า ไม่เคยค่ะ คุณหมอก็อธิบายว่า ฉีดสลายไขมันเนี่ย จะให้เห็นผลต้องกินยาควบคู่ไปด้วยนะ แต่ว่าไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นยาอันตราย ยาที่ว่าสามารถซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มีกฎหมายรับรองถูกต้องแน่นอน ใจเราก็ไม่อยากกินยานะคะ แต่เค้าว่าควรกิน ก็อ่ะ กินก็ได้ค่ะ คุณหมอก็สั่งยามาให้สำหรับ 10 วัน ซึ่งรพ.จะให้ใบสั่งยาเรามา แล้วให้เราไปซื้อเองที่ร้ายขายยาค่ะ
คุณหมอก็ดูข้อมูลส่วนสูง น้ำหนักแล้วบอกว่า ฉีดสลายไขมัน แล้วก็ออกกำลังกายนะ ลดน้ำหนักลงซัก 3-4โลก็โอเคแล้ว เสร็จแล้วก็ยื่นเอกสารมาให้เรา 3 ใบค่ะ ใบแรกเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดสลายไขมัน อาการข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นหลังฉีด ข้อควรระวัง ใบที่สองเกี่ยวกับยาที่จะให้มากินค่ะ รายละเอียดเหมือนกัน ผลข้างเคียงของยา วิธีกิน ใบสุดท้ายคือการควบคุมอาหารค่ะ มีตัวอย่างเมนูว่ามื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็นควรกินอะไร ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหน อธิบายข้อมูลในเอกสารเสร็จ ก็ถึงเวลาทำการฉีดสลายไขมันค่ะ
พี่พยาบาลก็พาเรามาที่ห้องปฏิบัติการที่อยู่ติดกัน ก็มีเตียงและอุปกรณ์ต่างๆค่ะ ห้องดูสะอาดดี พี่พยาบาลก็ให้เรานอนคว่ำบนเตียง แล้วก็เอายาฆ่าเชื้อ (เราคิดว่านะคะ เพราะไม่ได้หันไปมอง) มาเช็ดบริเวณที่เราโดนวงไว้ ระหว่างนั้นเราก็เล่นโทรศัพท์รอ ซักพักคุณหมอก็เข้ามา แล้วก็เริ่มปฏิบัติการค่ะ
วิธีฉีดสลายไขมันก็คือ คุณหมอจะเอาเข็มมาจิ้มๆๆ บริเวณที่จะฉีดค่ะ แล้วก็จะสอดสายยางเข้าไปเพื่อเดินยา ยาที่ว่าจะทำให้ไขมันที่เกาะตัวกัน สลายออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการขับไขมันออกจากร่างกายค่ะ ตอนจิ้มเนี่ย ไม่เท่าไหร่ ตอนสอดสายยางนี่.... ถ้าใครเคยทำคาร์บ๊อกซี่ ให้นึกถึงตอนที่เค้าเดินก๊าซอ่าค่ะ คือมันเจ็บแบบตึงๆอ่าค่ะ แต่ไม่เจ็บขนาดนั้นทนไม่ได้นะคะ แต่ก็เจ็บแหล่ะค่ะ ตอนคุณหมอสอดสายยาง ได้ยินเสียงกึ้บๆๆๆไปด้วย มันช่วยสร้างบรรยากาศมาก... ตอนคุณหมอเดินยาก็รู้สึกแสบนิดๆ แต่ไม่มากนะ นิดเดียวจริงๆ ตอนสอดสายยางเจ็บกว่า
จากต้นขาด้านในก็ไปต้นขาด้านนอก แล้วก็ย้ายไปขาอีกข้างนึง คุณหมอก็ชวนคุย พร้อมบอกว่า เก่งนะ ไม่ร้องเลย บางคนนี่ร้องลั่นห้องแล้ว ไม่เจ็บหรอ บอกอย่างมั่นใจว่า เจ็บค่ะ!!! แต่ทนได้ คุณหมอก็ชวนคุยไปต่อ เรื่องเรียน เรื่องนู่นนี่ ส่วนเรานี่ พยายามเอาใจไปไว้ที่อื่นค่ะ T^T ตั้งใจเล่นโทรศัพท์สุดๆ กระบวนการฉีดสลายไขมันนี่ใช้เวลาไม่นานค่ะ ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ พี่พยาบาลก็เช็ดทำความสะอาดแผลกับยาที่มันล้นออกมา แล้วก็มาพลาสเตอร์มาปิดให้ พร้อมบอกว่าเปลี่ยนชุดกลับบ้านได้จ้าาา คุณน้องเก่งมาก ไม่ร้องเลย แหะๆๆๆ หนูสายถึก ความอดทนสูงค่ะ
ความรู้สึกหลังฉีดมันจะรู้สึกหน่วงๆ ชาๆนิดนึง ตรงแผลที่สอดสายยางก็จะรู้สึกจี๊ดๆค่ะ หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ จ่ายเงินเสร็จ ก็ไปหาเพื่อนที่ชั้น 6 แล้วก็ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ค่ะ
รูปหลังจากฉีดเสร็จ
ถ่ายเสร็จก็ไปซื้อยาค่ะ พี่พนักงานพาไปซื้อที่ตึกใกล้ๆ บอกว่ายาร้านนี้ถูกกว่า ร้านไหนเราก็จำไม่ได้ด้วยซิ -.- รู้แต่ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ อย่างนึงที่ชอบเกี่ยวกับร้านขายยาที่นี่คือ เค้าจะแพ็คยาให้เราแบบเป็นมื้อๆเลยค่ะ เช้า กลางวัน เย็น แยกเป็นซองๆ ไม่ต้องมาคอยดูว่ายาตัวไหนกินมื้อไหนมั่ง เค้าจะจัดมาให้เลยค่ะ สะดวกมากกก เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปซองยาเก็บไว้ ซื้อยาเสร็จก็พาตัวเองและเพื่อนขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้าน เดินเหินได้ปกตินะคะ แต่จะรู้สึกหน่วงๆชาๆที่แผลนิดหน่อย หลังจากฉีดเสร็จให้งดโดนน้ำ 3-4 ชม.นะคะ แล้วก็อาบน้ำได้ตามปกติ ห้ามแช่น้ำ หรือว่าว่ายน้ำอย่างน้อย 1-2 วันค่ะ
อันนี้ภาพ 4 ชม. หลังจากฉีดเสร็จค่ะ ก็มีเลือดออกบ้าง ก็สายยางมันไม่ได้เล็กอ่านะคะ
เซ็นเซอร์ระดับป.4ด้วยโปรแกรม Paint ป้องกันการอนาจาร (ขออนุญาตใส่สปอยล์นะคะ ภาพมันอาจจะดูเรทนิดนึง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปนี้จะเห็นว่า ขาเรามีส่วนที่นูนๆออกมา ส่วนนั้นที่ส่วนที่ฉีดยาเข้าไปนะคะ
ข้างนี้ด้วย
อันนี้รูปหลังจากฉีดได้ 2 วันค่ะ ต้องขออภัยเรื่องมุมภาพที่แปลกๆมา ณ ที่นี้นะคะ พึ่งรู้เหมือนกันว่าการถ่ายรูปต้นขาตัวเองนี่มันก็ยากเหมือนกันนะเนี่ยย บิดตัว หามุมไปมา กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูป
จะเห็นว่าบางจุดมีรอยช้ำ อันนี้จากเอกสารที่ได้มาเป็นเรื่องปกตินะคะ และส่วนตัวเราเป็นคนช้ำง่ายค่ะ นิดๆหน่อยๆก็ช้ำ โดนสายยางปั่นเกลียวเข้าไปในขาขนาดนี้ ไม่ช้ำนับว่าแปลกค่ะ ส่วนที่นูนยังมีเหลืออยู่บ้าง แต่ลดลงจากวันแรกเยอะอยู่
ความรู้สึกคือ รู้สึกว่าขานิ่มค่ะ..
ไม่ได้คิดไปเอง เอาให้เพื่อนจับ เพื่อนบอกว่า เออ นิ่มขึ้นจริง น่าจะเพราะไขมันที่เกาะตัวกันมันสลายตัวออกไป ขาก็เลยนิ่มขึ้นค่ะ
อันนี้รูปหลังฉีดประมาณ 4 วันค่ะ รอยช้ำเริ่มจางลงเยอะแล้วค่ะ และต้องขออภัยในความคมชัดของภาพอีกครั้งค่ะ บิดตัวถ่ายเองเช่นเดิม
มาพูดถึงเรื่องยาที่ได้มากินกันบ้าง มื้อนึงกินประมาณ 4-5เม็ดค่ะ คนที่ไม่ชอบกินยา อาจจะถึงขึ้นขยาดกันเลยทีเดียว ผลข้างเคียงของยาที่เราประสบคือ
1. คอแห้ง ต้องกินน้ำเยอะๆค่ะ
2. ไม่อยากอาหาร แบบมากๆ จนรู้สึกเหมือนป่วย ไปกินข้าวกับพี่ชายที่รัก พี่ชายบ่นใหญ่ว่า ทำไมน้องกินข้าวน้อยยยยยย แต่มันทำให้เราไม่กินจุกจิกค่ะ คือกินข้าวเป็นมื้อๆแล้วจบเลย
กินยาไป 10 วัน น้ำหนักลงไปประมาณโลนิดๆ
ถึงเวลามาดูกันว่า ฉีดสลายไขมันได้ผลยังไงบ้าง มาดูรูปกันเลยจ้าาา
อันนี้หลังจากฉีดประมาณ 2 อาทิตย์ครึ่งค่ะ กินยาที่ได้มาหมดแล้ว
อันนี้หลังจากฉีดได้ 1 เดือนค่ะ
ส่วนตอนนี้ ที่ผ่านมา 2 เดือน....
ขอความกรุณา ช่วยมองผ่านความรกของห้องเราไปนะคะ แหะๆ หลังจากที่เราสอบ เลยไม่ได้ออกกำลังกาย + เครียดเลยคิดขนมมากมาย ขาเราก็เลย....กลับมาสะสมไขมันใหม่ค่ะ ก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อยนึงค่ะ
สรุปฉีดสลายไขมัน
คะแนน : 7.5/10 (หัก 1 คะแนน เพราะเจ็บ หักอีก 1.5 คะแนน เพราะไม่ชอบยา + ยังต้องออกกำลังกายนะคะ)
ผลที่ได้รับ : พอใจให้ระดับนึงค่ะ เราคิดว่าการฉีดสลายไขมันคือตัวช่วยในการลดสัดส่วน มากกว่าทางลัดนะคะ เพราะการฉีดสลายไขมัน ก็ตามชื่อมันน่ะค่ะ ทำให้ไขมันแตกตัวเพื่อให้ง่ายต่อการขับออก ซึ่งการขับออกที่ว่านั่น คือการออกกำลังกายค่ะ ซึ่งถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ผลที่ได้ก็จะเห็นไม่ชัดเจนค่ะ
แนะนำ : เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาตัวช่วยในการลดไขมันเฉพาะส่วนค่ะ ส่วนเรื่องเจ็บ ความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับเรา เราทนได้ค่ะ แต่ถามว่าจะทำอีกมั๊ย ตั้งใจจะออกกำลังกายให้มากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาทำอีกค่ะ ถ้ายังมีไขมันส่วนเกินอยู่
ค่าใช้จ่าย : ค่าฉีดสลายไขมัน 330,000 วอน รวม tax 10% เป็น 363,000 วอน + ค่ายา 30,000วอนค่ะ
สถานที่ : โรงพยาบาล Lienjang Surgery & Dermatology สถานีชินนมฮยอน ทางออก 6 เดินตรงไปจนเจอร้าน Skinfood แล้วเข้าตึกด้านข้างร้าน Skinfood เลยค่ะ
[CR] ~*Review*~ รีวิวฉีดสลายไขมันต้นขา...เห็นผลมากน้อยแค่ไหน มาดูกันจ้าาา
ก่อนอื่น พูดอารัมภบทเกี่ยวกับตัวเองนิดนึง ตอนนี้เรามาเรียนภาษาเกาหลีอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ เรียนมาได้ปีกว่าๆแล้ว จากชีวิตทำงานวันละอย่าางต่ำ 6 ชม. มาเป็นนักเรียนที่มีเรียนแค่ช่วงเช้า ที่เหลือก็กินๆเล่นๆนอนๆ ประกอบกับปริมาณอาหารที่นี่ ที่จากตอนแรกแบ่งกินได้ 2 มื้อ ตอนนี้มาม่าเกาหลีที่ตอนแรกว่าห่อใหญ่ ทุกวันนี้กินเส้นหมดแล้วยังไม่อิ่ม ยังเติมข้าวอีกกกกกกก
ไม่ต้องแปลกใจที่น้ำหนักจะพุ่งพรวดจนแม่ทักว่า อ้วนขึ้นนะ จากตอนแรกที่ห่วงลูกสาวกินยากคนนี้มากว่าจะกินอะไรไม่ได้ ครั้งกลับไปไทย วันก่อนจะกลับมาเกาหลี คุณแม่ทิ้งข้อความไว้ว่า..."ระวังเรื่องกินหน่อยนะ แก้มออกแล้ว"
พี่ชายสุดที่รัก (รุ่นพี่ที่เจอตอนมาเรียนที่นี่) ก็ไม่น้อยหน้า อย่าให้เผลอ มุก "ขา" จะมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เค้าบอกว่า ชีวิตที่ดีมาจากรากฐานที่มั่นคง
(เค้าที่ว่าน่ะ ใคร??) ซึ่งเรามั่นใจว่า รากฐานเรามั่นคงมาก!!! ไม่เชื่อดูรูป
แต่เมื่อมาอยู่เกาหลี แดนสาวขาเรียวยาว เราก็อดหวั่นไหวไปกับเทรนด์ที่นี่ไม่ได้
หลังจากเพื่อนคนจีนที่รู้จักแนะนำว่าให้ลองมาฉีดสลายไขมันที่รพ.ที่เพื่อนทำงานอยู่ซิ ถูกนะ คนรู้จักของเพื่อนก็เคยไปทำ พร้อมกับนำรูปโฆษณามาล่อ บวกกับความอยากรู้อยากลอง ก็เลยตัดสินใจไปลองฉีดสลายไขมันที่รพ. Lienjang ซึ่งตั้งอยู่ย่านดัง แหล่งคนมีตัง กังนัมนั่นเองค่ะ
ตัวเองทำคนเดียวไม่พอ ลากน้องที่รู้จักไปด้วย (เจ้าของกระทู้รีวิวฟิลเลอร์ ณ รพ.เดียวกัน) น้องสนใจฟิลเลอร์ เราสนใจทำขา (จริงๆแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจฉีดสลายไขมันนะคะ คือทำอะไรก็ได้ให้ไขมันมันออกไปอ่าค่ะ แล้วเค้าแนะนำตัวนี้มา) ไปถึงรพ. แจ้งชื่ออะไรเรียบร้อย (เพื่อนจองคิวให้ค่ะ) น้องกับเราก็แยกกัน น้องไปชั้น 6 ส่วนของเราไปชั้น 9 ที่เป็นส่วนของ Diet Centre มาถึงเจ้าหน้าที่ก็เอาเอกสารมาให้กรอกค่ะ พวกข้อมูลส่วนตัว น้ำหนัก ส่วนสูง ประวัติการรักษา ยาที่แพ้ บลาๆๆ ตามปกติของรพ.ทั่วไป
แล้วพี่ผู้หญิงน่าจะเป็นพยาบาลก็มาสำรวจขาเรา ขอดูขาแล้วก็จับๆ พร้อมกล่าวชม (รึเปล่า) ว่าขาแข็งมาก เป็นนักกีฬารีเปล่า ออกกำลังกายบ่อยใช่มั๊ย ก็ตอบเค้าไปว่า เมื่อวานออกกำลังกายบ่อย ชอบเต้น เค้าก็จับๆต่อไป ราวกับชื่นชมกล้ามเนื้อต้นขาของเรา เราก็ได้แต่ยิ้มในใจ บอกแล้วรากฐานหนูดี!!!
เสร็จแล้วก็ให้เราไปเปลี่ยนชุดค่ะ โดยให้ถอดชิ้นล่างออก (กางเกง+กางเกงใน) แล้วให้ใส่กางเกงแบบใส่แล้วทิ้งของเค้าแทน ที่นี่มีล๊อคเกอร์ให้เก็บของค่ะ มีกุญแจให้ด้วย เผื่อของหาย เปลี่ยนชุดเสร็จก็ใส่เสื้อคลุมที่เค้าเตรียมไว้ให้ เค้าก็พาไปชั่งน้ำหนัก วัดขนาดต้นขา วัดได้ 58ซม. พี่พยาบาลอุทานอีก บอกว่าเห็นตัวแล้วไม่คิดว่าขาจะไซส์นี้ พร้อมกล่าวว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมอยากทำขา หึหึ มีของดีต้องเก็บไว้ค่ะ!!! เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปเก็บประวัติ แล้วก็พาไปพบคุณหมอค่ะ
อันนี้รูปขาเราที่เราวัดเองนะคะ
คุณหมอก็ขอดูขา จับๆ พูดเหมือนพี่พยาบาลว่า ขาแข็งแรงดี แต่มีไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาด้านในและด้านนอก คุณหมอพูดไปก็เอาเมจิกมาวงที่ขาเราไปด้วย ก็บริเวณต้นขาด้านในและด้านนอกแหล่ะค่ะ แล้วก็บอกต่อว่า ที่หมอวงไว้ที่บริเวณที่จะฉีดยานะ เสร็จแล้วก็สอบประวัตินิดหน่อยว่า แพ้ยามั๊ย เคยทานยาลดน้ำหนักมั๊ย ก็ตอบไปว่า ไม่เคยค่ะ คุณหมอก็อธิบายว่า ฉีดสลายไขมันเนี่ย จะให้เห็นผลต้องกินยาควบคู่ไปด้วยนะ แต่ว่าไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นยาอันตราย ยาที่ว่าสามารถซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มีกฎหมายรับรองถูกต้องแน่นอน ใจเราก็ไม่อยากกินยานะคะ แต่เค้าว่าควรกิน ก็อ่ะ กินก็ได้ค่ะ คุณหมอก็สั่งยามาให้สำหรับ 10 วัน ซึ่งรพ.จะให้ใบสั่งยาเรามา แล้วให้เราไปซื้อเองที่ร้ายขายยาค่ะ
คุณหมอก็ดูข้อมูลส่วนสูง น้ำหนักแล้วบอกว่า ฉีดสลายไขมัน แล้วก็ออกกำลังกายนะ ลดน้ำหนักลงซัก 3-4โลก็โอเคแล้ว เสร็จแล้วก็ยื่นเอกสารมาให้เรา 3 ใบค่ะ ใบแรกเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดสลายไขมัน อาการข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นหลังฉีด ข้อควรระวัง ใบที่สองเกี่ยวกับยาที่จะให้มากินค่ะ รายละเอียดเหมือนกัน ผลข้างเคียงของยา วิธีกิน ใบสุดท้ายคือการควบคุมอาหารค่ะ มีตัวอย่างเมนูว่ามื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็นควรกินอะไร ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหน อธิบายข้อมูลในเอกสารเสร็จ ก็ถึงเวลาทำการฉีดสลายไขมันค่ะ
พี่พยาบาลก็พาเรามาที่ห้องปฏิบัติการที่อยู่ติดกัน ก็มีเตียงและอุปกรณ์ต่างๆค่ะ ห้องดูสะอาดดี พี่พยาบาลก็ให้เรานอนคว่ำบนเตียง แล้วก็เอายาฆ่าเชื้อ (เราคิดว่านะคะ เพราะไม่ได้หันไปมอง) มาเช็ดบริเวณที่เราโดนวงไว้ ระหว่างนั้นเราก็เล่นโทรศัพท์รอ ซักพักคุณหมอก็เข้ามา แล้วก็เริ่มปฏิบัติการค่ะ
วิธีฉีดสลายไขมันก็คือ คุณหมอจะเอาเข็มมาจิ้มๆๆ บริเวณที่จะฉีดค่ะ แล้วก็จะสอดสายยางเข้าไปเพื่อเดินยา ยาที่ว่าจะทำให้ไขมันที่เกาะตัวกัน สลายออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการขับไขมันออกจากร่างกายค่ะ ตอนจิ้มเนี่ย ไม่เท่าไหร่ ตอนสอดสายยางนี่.... ถ้าใครเคยทำคาร์บ๊อกซี่ ให้นึกถึงตอนที่เค้าเดินก๊าซอ่าค่ะ คือมันเจ็บแบบตึงๆอ่าค่ะ แต่ไม่เจ็บขนาดนั้นทนไม่ได้นะคะ แต่ก็เจ็บแหล่ะค่ะ ตอนคุณหมอสอดสายยาง ได้ยินเสียงกึ้บๆๆๆไปด้วย มันช่วยสร้างบรรยากาศมาก... ตอนคุณหมอเดินยาก็รู้สึกแสบนิดๆ แต่ไม่มากนะ นิดเดียวจริงๆ ตอนสอดสายยางเจ็บกว่า จากต้นขาด้านในก็ไปต้นขาด้านนอก แล้วก็ย้ายไปขาอีกข้างนึง คุณหมอก็ชวนคุย พร้อมบอกว่า เก่งนะ ไม่ร้องเลย บางคนนี่ร้องลั่นห้องแล้ว ไม่เจ็บหรอ บอกอย่างมั่นใจว่า เจ็บค่ะ!!! แต่ทนได้ คุณหมอก็ชวนคุยไปต่อ เรื่องเรียน เรื่องนู่นนี่ ส่วนเรานี่ พยายามเอาใจไปไว้ที่อื่นค่ะ T^T ตั้งใจเล่นโทรศัพท์สุดๆ กระบวนการฉีดสลายไขมันนี่ใช้เวลาไม่นานค่ะ ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ พี่พยาบาลก็เช็ดทำความสะอาดแผลกับยาที่มันล้นออกมา แล้วก็มาพลาสเตอร์มาปิดให้ พร้อมบอกว่าเปลี่ยนชุดกลับบ้านได้จ้าาา คุณน้องเก่งมาก ไม่ร้องเลย แหะๆๆๆ หนูสายถึก ความอดทนสูงค่ะ
ความรู้สึกหลังฉีดมันจะรู้สึกหน่วงๆ ชาๆนิดนึง ตรงแผลที่สอดสายยางก็จะรู้สึกจี๊ดๆค่ะ หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ จ่ายเงินเสร็จ ก็ไปหาเพื่อนที่ชั้น 6 แล้วก็ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ค่ะ
รูปหลังจากฉีดเสร็จ
ถ่ายเสร็จก็ไปซื้อยาค่ะ พี่พนักงานพาไปซื้อที่ตึกใกล้ๆ บอกว่ายาร้านนี้ถูกกว่า ร้านไหนเราก็จำไม่ได้ด้วยซิ -.- รู้แต่ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ อย่างนึงที่ชอบเกี่ยวกับร้านขายยาที่นี่คือ เค้าจะแพ็คยาให้เราแบบเป็นมื้อๆเลยค่ะ เช้า กลางวัน เย็น แยกเป็นซองๆ ไม่ต้องมาคอยดูว่ายาตัวไหนกินมื้อไหนมั่ง เค้าจะจัดมาให้เลยค่ะ สะดวกมากกก เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปซองยาเก็บไว้ ซื้อยาเสร็จก็พาตัวเองและเพื่อนขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้าน เดินเหินได้ปกตินะคะ แต่จะรู้สึกหน่วงๆชาๆที่แผลนิดหน่อย หลังจากฉีดเสร็จให้งดโดนน้ำ 3-4 ชม.นะคะ แล้วก็อาบน้ำได้ตามปกติ ห้ามแช่น้ำ หรือว่าว่ายน้ำอย่างน้อย 1-2 วันค่ะ
อันนี้ภาพ 4 ชม. หลังจากฉีดเสร็จค่ะ ก็มีเลือดออกบ้าง ก็สายยางมันไม่ได้เล็กอ่านะคะ
เซ็นเซอร์ระดับป.4ด้วยโปรแกรม Paint ป้องกันการอนาจาร (ขออนุญาตใส่สปอยล์นะคะ ภาพมันอาจจะดูเรทนิดนึง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปนี้จะเห็นว่า ขาเรามีส่วนที่นูนๆออกมา ส่วนนั้นที่ส่วนที่ฉีดยาเข้าไปนะคะ
ข้างนี้ด้วย
อันนี้รูปหลังจากฉีดได้ 2 วันค่ะ ต้องขออภัยเรื่องมุมภาพที่แปลกๆมา ณ ที่นี้นะคะ พึ่งรู้เหมือนกันว่าการถ่ายรูปต้นขาตัวเองนี่มันก็ยากเหมือนกันนะเนี่ยย บิดตัว หามุมไปมา กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูป
จะเห็นว่าบางจุดมีรอยช้ำ อันนี้จากเอกสารที่ได้มาเป็นเรื่องปกตินะคะ และส่วนตัวเราเป็นคนช้ำง่ายค่ะ นิดๆหน่อยๆก็ช้ำ โดนสายยางปั่นเกลียวเข้าไปในขาขนาดนี้ ไม่ช้ำนับว่าแปลกค่ะ ส่วนที่นูนยังมีเหลืออยู่บ้าง แต่ลดลงจากวันแรกเยอะอยู่
ความรู้สึกคือ รู้สึกว่าขานิ่มค่ะ.. ไม่ได้คิดไปเอง เอาให้เพื่อนจับ เพื่อนบอกว่า เออ นิ่มขึ้นจริง น่าจะเพราะไขมันที่เกาะตัวกันมันสลายตัวออกไป ขาก็เลยนิ่มขึ้นค่ะ
อันนี้รูปหลังฉีดประมาณ 4 วันค่ะ รอยช้ำเริ่มจางลงเยอะแล้วค่ะ และต้องขออภัยในความคมชัดของภาพอีกครั้งค่ะ บิดตัวถ่ายเองเช่นเดิม
มาพูดถึงเรื่องยาที่ได้มากินกันบ้าง มื้อนึงกินประมาณ 4-5เม็ดค่ะ คนที่ไม่ชอบกินยา อาจจะถึงขึ้นขยาดกันเลยทีเดียว ผลข้างเคียงของยาที่เราประสบคือ
1. คอแห้ง ต้องกินน้ำเยอะๆค่ะ
2. ไม่อยากอาหาร แบบมากๆ จนรู้สึกเหมือนป่วย ไปกินข้าวกับพี่ชายที่รัก พี่ชายบ่นใหญ่ว่า ทำไมน้องกินข้าวน้อยยยยยย แต่มันทำให้เราไม่กินจุกจิกค่ะ คือกินข้าวเป็นมื้อๆแล้วจบเลย
กินยาไป 10 วัน น้ำหนักลงไปประมาณโลนิดๆ
ถึงเวลามาดูกันว่า ฉีดสลายไขมันได้ผลยังไงบ้าง มาดูรูปกันเลยจ้าาา
อันนี้หลังจากฉีดประมาณ 2 อาทิตย์ครึ่งค่ะ กินยาที่ได้มาหมดแล้ว
อันนี้หลังจากฉีดได้ 1 เดือนค่ะ
ส่วนตอนนี้ ที่ผ่านมา 2 เดือน....
ขอความกรุณา ช่วยมองผ่านความรกของห้องเราไปนะคะ แหะๆ หลังจากที่เราสอบ เลยไม่ได้ออกกำลังกาย + เครียดเลยคิดขนมมากมาย ขาเราก็เลย....กลับมาสะสมไขมันใหม่ค่ะ ก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อยนึงค่ะ
สรุปฉีดสลายไขมัน
คะแนน : 7.5/10 (หัก 1 คะแนน เพราะเจ็บ หักอีก 1.5 คะแนน เพราะไม่ชอบยา + ยังต้องออกกำลังกายนะคะ)
ผลที่ได้รับ : พอใจให้ระดับนึงค่ะ เราคิดว่าการฉีดสลายไขมันคือตัวช่วยในการลดสัดส่วน มากกว่าทางลัดนะคะ เพราะการฉีดสลายไขมัน ก็ตามชื่อมันน่ะค่ะ ทำให้ไขมันแตกตัวเพื่อให้ง่ายต่อการขับออก ซึ่งการขับออกที่ว่านั่น คือการออกกำลังกายค่ะ ซึ่งถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ผลที่ได้ก็จะเห็นไม่ชัดเจนค่ะ
แนะนำ : เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาตัวช่วยในการลดไขมันเฉพาะส่วนค่ะ ส่วนเรื่องเจ็บ ความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับเรา เราทนได้ค่ะ แต่ถามว่าจะทำอีกมั๊ย ตั้งใจจะออกกำลังกายให้มากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาทำอีกค่ะ ถ้ายังมีไขมันส่วนเกินอยู่
ค่าใช้จ่าย : ค่าฉีดสลายไขมัน 330,000 วอน รวม tax 10% เป็น 363,000 วอน + ค่ายา 30,000วอนค่ะ
สถานที่ : โรงพยาบาล Lienjang Surgery & Dermatology สถานีชินนมฮยอน ทางออก 6 เดินตรงไปจนเจอร้าน Skinfood แล้วเข้าตึกด้านข้างร้าน Skinfood เลยค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น