นิพพานซะอย่าง ดีไป 100 อย่าง ?

........ถ้า ภิกษุพิจารณาเห็นเบญจขันธ์ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ๑ เป็นทุกข์ ๑
เป็นโรค ๑ เป็นดังหัวฝี ๑ เป็นดังลูกศร ๑ เป็นความลำบาก ๑ เป็นอาพาธ ๑
เป็นอย่างอื่น ๑ เป็นของชำรุด ๑ เป็นเสนียด ๑ เป็นอุบาทว์ ๑ เป็นภัย ๑
เป็นอุปสรรค ๑ เป็นความหวั่นไหว ๑ เป็นของผุพัง ๑ เป็นของไม่ยั่งยืน ๑
เป็นของไม่มีอะไรต้านทาน ๑ เป็นของไม่มีอะไรป้องกัน ๑ เป็นของไม่เป็น
ที่พึ่ง ๑ เป็นของว่าง ๑ เป็นของเปล่า ๑ เป็นของสูญ ๑ เป็นอนัตตา ๑ เป็น
โทษ ๑ เป็นของมีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ๑ เป็นของหาสาระมิได้ ๑ เป็น
มูลแห่งความลำบาก ๑ เป็นดังเพชฌฆาต ๑ เป็นความเสื่อมไป ๑ เป็นของ
มีอาสวะ ๑ เป็นของอันปัจจัยปรุงแต่ง ๑ เป็นเหยื่อแห่งมาร ๑ เป็นของมีความ
เกิดเป็นธรรมดา ๑ เป็นของมีความแก่เป็นธรรมดา ๑ เป็นของมีความป่วยไข้
เป็นธรรมดา ๑ เป็นของมีความตายเป็นธรรมดา ๑ เป็นของมีความเศร้าโศกเป็น
ธรรมดา ๑ เป็นของมีความร่ำไรเป็นธรรมดา ๑ เป็นของมีความคับแค้นใจเป็น
ธรรมดา ๑ เป็นของมีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ๑

.......และเมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความอะไรต่างๆนาในทางที่ไม่ดีตามความเป็นจริง
อีก108 - 1009  ย่อมได้อนุโลมขันติ

........และเมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานเที่ยง๑ เป็นสุข๑ ไม่มรโรค๑ ฯลฯ.  
ไม่ว่าจะอีกเท่าไหร่ภิกษุย่อมได้อนุโลมขันติด้วยอาการเหล่า
นี้ ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม

เมือเป็นอย่างนี้แล้ว ยังจะบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตาอีกมั้ย


ย้ำ...
ขันธ์๕ทั้งที่เป็นอดีต อนาคตและปัจจุบัน ไม่เที่ยงเพราะอรรถว่าสิ้นไป
เป็นทุกข์เพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว
เป็นอนัตตาเพราะอรรถว่าไม่มีแก่นสาร แล้วแล่นไปในนิพพานเป็นที่ดับ

ถ้านิพพานเป็นอนัตตา คือไม่มีแก่นสาร แสดงว่าพระพุทธเจ้าพูดเท็จอย่างนั้นใช่มั้ยครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่