เพื่อนๆ ชาวพันทิพ รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ 2 จากครั้งแรกรีวิวไปวังเวียง
http://ppantip.com/topic/35452563
มาครั้งนี้เปลี่ยนโหมดกันเลย กับรีวิวบวชเนกขัมมภาวนา ครั้งแรกในชีวิตที่วัดมเหยงคณ์ อยุธยา ที่เลือกวัดนี้ ก็หาข้อมูลจากรีวิวของเพื่อนๆ พอสมควร ด้วยความสะดวกหลายอย่าง มีชุดให้ยืม และการปฏิบัติไม่เคร่งมาก การเดินทางสะดวกไม่ไกลเกินไป จึงเหมาะกับมือใหม่อย่างเรา ว่าแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า
*07.15 น. โดยประมาณ เดินทางมาถึงวัด สำหรับคนที่ยังไม่เคยมาบวช ก็ไปเขียนใบสมัครเพื่อลงทะเบียนบวชก่อนค่ะ ประมาณ 07.30 น. ห้องลงทะเบียนเปิดก็เข้าไปลงทะเบียนพร้อมบัตรประชาชน แม่ชีจะบอกว่าเราพักที่ตึกไหน ชั้นไหน มีใบเล็กๆ แนบมาให้
ลงทะเบียนเสร็จก็ไปยืมชุด สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมมา จะให้ยืมไม่เกิน 2 ชุด (จากที่อ่านรีวิวมา) แต่เราบวชแค่ 1 วัน 1 คืน แม่ชีจะให้ยืมแค่ชุดเดียว ก็เลยงงว่าแล้วตอนนอนใส่อะไรยังไง เพราะไม่ได้เตรียมมา พอดีในรีวิวไม่ได้บอก 555 ควรเตรียมชุดไว้เปลี่ยนตอนนอนมาด้วยก็ดีค่ะ จะเป็นกางเกงสีขาวขายาวแบบที่ใส่ปฏิบัติธรรมก็ได้ เสื้อสีขาว เห็นบางคนก็เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดก็มีนะ เพราะเรานอน แต่ส่วนมากก็จะใส่ชุดบวชนอนกัน เราเลยซื้อเสื้อขาว กะกางเกงขาว แบบของผู้ชายไว้ 1 ชุด เพื่อใส่นอน และไว้ใส่ในโอกาสหน้าด้วย แต่ชุดของทางวัดจะเป็นผ้าถุง เสื้อขาวแขนกระบอก และมีผ้าสไบพาดบ่า ทุกคนต้องใส่เหมือนกันหมด ไม่ให้ใส่กางเกง สำหรับใครที่อยากจะใส่เป็นกระโปรงสำเร็จเอวยางยืดทางวัดมีร้านสวัสดิการ มีขายทุกอย่าง ราคาไม่แพง ถูกกว่าข้างนอก มีให้เลือกหลายยี่ห้อ รวมทั้งเสื้อกันหนาวไหมพรมสีขาว กางเกงซับใน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มีขายทั้งหมด มาซื่อที่นี่ได้เลย
ได้ชุดแล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พัก ที่พักจะเป็นตึก และนอนรวมกัน ก็เลือกเอาตามที่ว่างที่ไม่มีกระเป๋าวางได้เลย มีห้องน้ำและที่อาบน้ำแบบฝักบัว สะอาดดี เปลี่ยนชุดเพื่อรอเข้าพิธีบวช ควรเตรียมเข็มขัดมาด้วยเพื่อใช้รัดผ้าถุง ทางวัดมีเป็นเศษผ้าเล็กๆ ให้แต่ถ้าใช้เข็มขัดดูจะแน่นหนากว่าค่ะ จากนั้นให้ลงมาพร้อมกันที่ศาลาประมาณ 08.45 น.
*09.00 น. ทำพิธีบวช ก็มีจะฉายสไลด์ให้ดูการปฏิบัติเมื่อเข้ามาบวช เราต้องถือ ศีล 8 สำรวม และถ้าเป็นไปได้ควรงดการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ ฯลฯ หลังเสร็จพิธีแล้วก็แยกย้ายให้ไปทำกิจธุระส่วนตัว หรือนั่งสมาธิ เดินจงกรม แล้วแต่สะดวก (เพิ่มเติมว่าควรฝึกนั่งท่าเทพธิดามาด้วยจะดีมาก เพราะที่นี่เวลากราบพระ ไหว้พระสวดมนต์จะให้นั่งท่าเทพธิดา ซึ่งเราเองยังทนแทบไม่ไหว ปวดเท้ามาก ถ้าใครฝึกนั่งจนชินแล้วน่าจะดีค่ะ)
*11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ทางวัดจะมีอาหารเตรียมไว้ให้ ทั้งอาหารปกติ และมังสวิรัต รวมทั้งของหวาน ผลไม้บ้าง มีถาดหลุมให้ตักเอง ก็คิดว่าตักให้พอทานอิ่มไปจนถึงเย็น เพราะเราจะทานข้าวแค่ 2 เวลาคือเช้าและกลางวัน แต่ไม่ควรให้เหลือเยอะ เสร็จแล้วก็ไปล้างถาดเช็ดให้สะอาด นำมาเก็บ ต่างคนต่างล้างเอง
จากนั้นก็สามารถไปนอนพักหรือนั่งพักผ่อนตามอัธยาศัยได้ เราสามารถขึ้นไปนอนพักที่ห้องพักได้ ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ถึง 13.00 น. ประมาณนี้ จะมีป้ายติดไว้หน้าห้องพักว่าเวลาไหนที่เราไม่สามารถเข้าไปที่ห้องพักเพื่อพักผ่อนได้ นั่นคือช่วงเวลาปฏิบัติ
*13.30 น. เริ่มปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ เดินจงกรม แล้วแต่เราจะปฏิบัติ บางคนก็นั่งเงียบๆ อ่านหนังสือ อย่างเราเพิ่งเริ่มก็พยายามนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ จะมีเสียงพระท่านคอยแนะนำ เปิดลำโพงเป็นเสียงตามสายให้เราปฏิบัติตาม ถ้าทำไม่ได้ ก็นั่งเฉยๆ มองพิจารณาอะไรรอบตัวก็ได้ค่ะ จะเงียบมาก แต่ตอนนี้มีการสร้างศาลาในวัดเลยมีเสียงพอสมควรไม่เงียบเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้ ก็งดการเล่นโซเชียลหรืองดการใช้โทรศัพท์จะดีมาก เพราะจริงๆ ก็เป็นข้อห้ามอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดเคร่งครัดมาก ก็อยู่ที่เราจะเลือกปฏิบัติ
*15.30 น. เลิกการปฏิบัติ จะเป็นเวลาพัก ให้เราได้ทานน้ำปานะ (น้ำรากบัว) ไม่รู้วันอื่นๆ จะเหมือนกันรึป่าวนะ และช่วยกันทำความสะอาดวัด ตามแต่สะดวก กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ แล้วก็พักผ่อนได้ แต่ถ้าใครหิวก็ไปซื้อพวกสาหร่ายทอด ลูกสมอ มะขามคลุกหรือน้ำผลไม้บางอย่างที่ร้านสวัสดิการทานได้ เค้าจะมีเขียนบอกว่าอะไรทานหลังเที่ยงได้ (ไมโล โอวัลติน นม ทานหลังเที่ยงไม่ได้) รวมถึงผลไม้สดก็ทานหลังเที่ยงไม่ได้นะ
*17.00 น. ให้ปฏิบัติทุกคนก็จะไปรวมกันบริเวณริมสระน้ำเพื่อนั่งสมาธิ เดินจงกรม ก็จะเปิดเสียงตามสายให้ฟังแนะนำการปฏิบัติเหมือนเดิมค่ะ
*18.00 น. ไปพร้อมกันที่ศาลา เพื่อทำวัตรเย็น สวดมนต์และนั่งสมาธิ ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็จะได้นั่งฟังธรรมด้วย จนถึงประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ
หลังจากเสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อน ห้องพักชาย หญิงจะแยกกัน ไกลพอสมควร เป็นสัดส่วน
ทำวัตรเย็นและนั่งรอฟังธรรม
*04.00 น. มาพร้อมกันที่ศาลาเพื่อทำวัตรเช้า
*06.00 โดยประมาณ หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ ใครที่จะลาสิกขา ก็ให้ไปทำพิธีลาสิกขาที่ถ้ำพระนอน เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับได้
หลังจากลาสิกขาที่ถ้ำพระนอน
*07.00 น. จะมีพระบิณฑบาต ตรงบริเวณทางเข้าวัด ถ้าใครไม่รีบกลับ ไปรอใส่บาตรก่อนได้ค่ะ ยังไม่ต้องเปลี่ยนชุดขาวออกก็ได้ จะมีร้านขายของใส่บาตรทั้งของทางวัดและที่ชาวบ้านเอามาขาย สะดวก แล้วแต่เราจะใส่มากน้อย จะมีพระเดินบิณฑบาตประมาณ 20 รูปได้ ถ้าใครจะเตรียมมาเองบ้างก็ได้ พวกไวตามิล นมกล่องอะไรพวกนี้
จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มบุญ ถ้าใครยังมีเวลาจะไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ในอยุธยาก็ได้นะคะมีหลายวัดมาก มีเส้นทางแนะนำไหว้พระ 9 วัด ให้เลือกมากมาย หรือจะไปแวะซื้อของฝาก โรตีสายไหมอยุธยา ก็ไปได้ที่วัดมงคลบพิตร ซึ่งเราก็ไม่พลาดทุกครั้งที่ไปอยุธยา ทำสดใหม่ กลิ่นหอม น่ากินมาก
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ (ทางวัดมีขาย) ไม้แขวนเสื้อไว้ตากผ้า กรณีซักผ้าถ้าอยู่หลายวัน
2. ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม(ทางวัดมีให้ยืม แต่ถ้าเอาไปเองก็ดี) หมอนไม่ต้องเอาไป ทางวัดมีให้ยืมพร้อมปลอกหมอน
3. ชุดขาวไว้ใส่นอน ใส่ปฏิบัติกรณีไปหลายวัน ทางวัดให้ยืมถ้าไม่พอ ก็ซักตากได้
4. เสื่อผืนเล็กไว้สำหรับปูนั่งสมาธิ (ทางวัดมีขาย แบบเสื่อเล็ก ผืนละ 60 บาท ผ้ายางผืนละ 25 บาท)
5. รองเท้า ควรใส่แบบฟองน้ำสีขาว หรือแบบเรียบๆ ไม่ควรเป็นรองเท้าแฟชั่น
6. ยางมัดผม ถ้าผมยาวเก็บรวมให้เรียบร้อย ควรเป็นยางดำธรรมดา ไม่ควรให้มีอะไรประดับเช่นเพชร พลอย
7. กระเป๋าผ้า หรือย่าม ไว้ใส่ของมีค่าหรือน้ำ สะพายติดตัว (ทางวัดมีขาย)
8. กระบอกน้ำหรือขวดน้ำไว้ใส่น้ำพกติดตัว ทางวัดมีตู้น้ำให้กรอกน้ำได้ตลอด
9. ทิชชู่ต้องเตรียมไปเอง ห้องน้ำที่วัดไม่มีให้
10. ครีม เครื่องสำอางค์ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ หรือใช้ให้น้อยที่สุด ไม่แต่งหน้า ทาปากเพื่อความงาม
*การเดินทาง เราไปรถส่วนตัว มีที่จอดรถกว้างสะดวก ตอนเช้าเห็นมีรถตู้อนุสาวรีย์-กรุงเทพ จอดรับอยู่หน้าวัด แต่ถ้าเวลาอื่นไม่แน่ใจว่ารับ-ส่ง ถึงที่วัดรึป่าวนะคะ ลองสอบถามดูค่ะ มีวินมอเตอร์ไซด์และรถตุ๊กๆ
*การทำบุญ ที่วัดไม่ได้มีการบังคับให้ทำ ทุกอย่างทำตามจิตศรัทธา แล้วแต่กำลังของเรา
*ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบ เพราะถ่ายไว้แค่นี้ อย่างที่บอกแทบจะไม่ใช้โทรศัพท์เลย อยากเข้าถึงการปฏิบัติให้มากที่สุด
*การปฏิบัติทางวัดไม่ได้เคร่งครัดมาก เพราะฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราจะเลือก ถ้าเราตัดได้มาก ก็จะเข้าถึงการปฏิบัติและความสงบได้มาก หากเราละไม่ได้คิดว่าการปฏิบัติก็คงไม่มีประโยชน์อะไร และไม่ได้อะไรกลับมา เราเองมีบางเวลาที่คิดว่าจะไม่ไหวเหมือนกันเพราะความหิว แต่พอเราตั้งใจเราก็จะผ่านไปได้ สำหรับท่านที่อยากเริ่มลองหาข้อมูลดูก่อนค่ะ แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืน
ปล. หากมีอะไรผิดพลาดทั้งการใช้ถ้อยคำ หรือข้อมูลใดๆ ต้องขออภัยไว้ด้วย เพราะเพิ่งไปปฏิบัติครั้งแรกในชีวิต หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจอยากจะเริ่มปฏิบัติค่ะ
ข้อคิดดีๆ ที่ได้มา
อย่าไปทุกข์ใจ เสียใจ คาดหวัง เพ้อฝัน กับสิ่งที่ยังไม่ได้ ไม่มี ไม่เป็น เพราะถ้ามีวาสนา มันจะเกิดขึ้นกับเราเอง
อย่ารอให้ใครมาช่วย อย่าขอให้บุญหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย เพราะเมื่อท่านช่วยเราจนบุญเราหมด แล้วเราไม่หมั่นทำบุญ เติมบุญ
บุญที่เราสะสมไว้มันจะหมดไป ถึงเวลานั้นใครก็ช่วยเราไม่ได้
อย่าไปทุกข์ใจ กับสิ่งที่ยังไม่เกิด หรือยังมาไม่ถึง
อย่าไปทุกข์ใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและแก้ไขไม่ได้
[CR] บวชเนกขัมมภาวนา ครั้งแรกในชีวิตที่วัดมเหยงคณ์ อยุธยา
เพื่อนๆ ชาวพันทิพ รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ 2 จากครั้งแรกรีวิวไปวังเวียง
http://ppantip.com/topic/35452563
มาครั้งนี้เปลี่ยนโหมดกันเลย กับรีวิวบวชเนกขัมมภาวนา ครั้งแรกในชีวิตที่วัดมเหยงคณ์ อยุธยา ที่เลือกวัดนี้ ก็หาข้อมูลจากรีวิวของเพื่อนๆ พอสมควร ด้วยความสะดวกหลายอย่าง มีชุดให้ยืม และการปฏิบัติไม่เคร่งมาก การเดินทางสะดวกไม่ไกลเกินไป จึงเหมาะกับมือใหม่อย่างเรา ว่าแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า
*07.15 น. โดยประมาณ เดินทางมาถึงวัด สำหรับคนที่ยังไม่เคยมาบวช ก็ไปเขียนใบสมัครเพื่อลงทะเบียนบวชก่อนค่ะ ประมาณ 07.30 น. ห้องลงทะเบียนเปิดก็เข้าไปลงทะเบียนพร้อมบัตรประชาชน แม่ชีจะบอกว่าเราพักที่ตึกไหน ชั้นไหน มีใบเล็กๆ แนบมาให้
ลงทะเบียนเสร็จก็ไปยืมชุด สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมมา จะให้ยืมไม่เกิน 2 ชุด (จากที่อ่านรีวิวมา) แต่เราบวชแค่ 1 วัน 1 คืน แม่ชีจะให้ยืมแค่ชุดเดียว ก็เลยงงว่าแล้วตอนนอนใส่อะไรยังไง เพราะไม่ได้เตรียมมา พอดีในรีวิวไม่ได้บอก 555 ควรเตรียมชุดไว้เปลี่ยนตอนนอนมาด้วยก็ดีค่ะ จะเป็นกางเกงสีขาวขายาวแบบที่ใส่ปฏิบัติธรรมก็ได้ เสื้อสีขาว เห็นบางคนก็เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดก็มีนะ เพราะเรานอน แต่ส่วนมากก็จะใส่ชุดบวชนอนกัน เราเลยซื้อเสื้อขาว กะกางเกงขาว แบบของผู้ชายไว้ 1 ชุด เพื่อใส่นอน และไว้ใส่ในโอกาสหน้าด้วย แต่ชุดของทางวัดจะเป็นผ้าถุง เสื้อขาวแขนกระบอก และมีผ้าสไบพาดบ่า ทุกคนต้องใส่เหมือนกันหมด ไม่ให้ใส่กางเกง สำหรับใครที่อยากจะใส่เป็นกระโปรงสำเร็จเอวยางยืดทางวัดมีร้านสวัสดิการ มีขายทุกอย่าง ราคาไม่แพง ถูกกว่าข้างนอก มีให้เลือกหลายยี่ห้อ รวมทั้งเสื้อกันหนาวไหมพรมสีขาว กางเกงซับใน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มีขายทั้งหมด มาซื่อที่นี่ได้เลย
ได้ชุดแล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พัก ที่พักจะเป็นตึก และนอนรวมกัน ก็เลือกเอาตามที่ว่างที่ไม่มีกระเป๋าวางได้เลย มีห้องน้ำและที่อาบน้ำแบบฝักบัว สะอาดดี เปลี่ยนชุดเพื่อรอเข้าพิธีบวช ควรเตรียมเข็มขัดมาด้วยเพื่อใช้รัดผ้าถุง ทางวัดมีเป็นเศษผ้าเล็กๆ ให้แต่ถ้าใช้เข็มขัดดูจะแน่นหนากว่าค่ะ จากนั้นให้ลงมาพร้อมกันที่ศาลาประมาณ 08.45 น.
*09.00 น. ทำพิธีบวช ก็มีจะฉายสไลด์ให้ดูการปฏิบัติเมื่อเข้ามาบวช เราต้องถือ ศีล 8 สำรวม และถ้าเป็นไปได้ควรงดการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ ฯลฯ หลังเสร็จพิธีแล้วก็แยกย้ายให้ไปทำกิจธุระส่วนตัว หรือนั่งสมาธิ เดินจงกรม แล้วแต่สะดวก (เพิ่มเติมว่าควรฝึกนั่งท่าเทพธิดามาด้วยจะดีมาก เพราะที่นี่เวลากราบพระ ไหว้พระสวดมนต์จะให้นั่งท่าเทพธิดา ซึ่งเราเองยังทนแทบไม่ไหว ปวดเท้ามาก ถ้าใครฝึกนั่งจนชินแล้วน่าจะดีค่ะ)
*11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ทางวัดจะมีอาหารเตรียมไว้ให้ ทั้งอาหารปกติ และมังสวิรัต รวมทั้งของหวาน ผลไม้บ้าง มีถาดหลุมให้ตักเอง ก็คิดว่าตักให้พอทานอิ่มไปจนถึงเย็น เพราะเราจะทานข้าวแค่ 2 เวลาคือเช้าและกลางวัน แต่ไม่ควรให้เหลือเยอะ เสร็จแล้วก็ไปล้างถาดเช็ดให้สะอาด นำมาเก็บ ต่างคนต่างล้างเอง
จากนั้นก็สามารถไปนอนพักหรือนั่งพักผ่อนตามอัธยาศัยได้ เราสามารถขึ้นไปนอนพักที่ห้องพักได้ ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ถึง 13.00 น. ประมาณนี้ จะมีป้ายติดไว้หน้าห้องพักว่าเวลาไหนที่เราไม่สามารถเข้าไปที่ห้องพักเพื่อพักผ่อนได้ นั่นคือช่วงเวลาปฏิบัติ
*13.30 น. เริ่มปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ เดินจงกรม แล้วแต่เราจะปฏิบัติ บางคนก็นั่งเงียบๆ อ่านหนังสือ อย่างเราเพิ่งเริ่มก็พยายามนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ จะมีเสียงพระท่านคอยแนะนำ เปิดลำโพงเป็นเสียงตามสายให้เราปฏิบัติตาม ถ้าทำไม่ได้ ก็นั่งเฉยๆ มองพิจารณาอะไรรอบตัวก็ได้ค่ะ จะเงียบมาก แต่ตอนนี้มีการสร้างศาลาในวัดเลยมีเสียงพอสมควรไม่เงียบเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้ ก็งดการเล่นโซเชียลหรืองดการใช้โทรศัพท์จะดีมาก เพราะจริงๆ ก็เป็นข้อห้ามอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดเคร่งครัดมาก ก็อยู่ที่เราจะเลือกปฏิบัติ
*15.30 น. เลิกการปฏิบัติ จะเป็นเวลาพัก ให้เราได้ทานน้ำปานะ (น้ำรากบัว) ไม่รู้วันอื่นๆ จะเหมือนกันรึป่าวนะ และช่วยกันทำความสะอาดวัด ตามแต่สะดวก กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ แล้วก็พักผ่อนได้ แต่ถ้าใครหิวก็ไปซื้อพวกสาหร่ายทอด ลูกสมอ มะขามคลุกหรือน้ำผลไม้บางอย่างที่ร้านสวัสดิการทานได้ เค้าจะมีเขียนบอกว่าอะไรทานหลังเที่ยงได้ (ไมโล โอวัลติน นม ทานหลังเที่ยงไม่ได้) รวมถึงผลไม้สดก็ทานหลังเที่ยงไม่ได้นะ
*17.00 น. ให้ปฏิบัติทุกคนก็จะไปรวมกันบริเวณริมสระน้ำเพื่อนั่งสมาธิ เดินจงกรม ก็จะเปิดเสียงตามสายให้ฟังแนะนำการปฏิบัติเหมือนเดิมค่ะ
*18.00 น. ไปพร้อมกันที่ศาลา เพื่อทำวัตรเย็น สวดมนต์และนั่งสมาธิ ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็จะได้นั่งฟังธรรมด้วย จนถึงประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ
หลังจากเสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อน ห้องพักชาย หญิงจะแยกกัน ไกลพอสมควร เป็นสัดส่วน
ทำวัตรเย็นและนั่งรอฟังธรรม
*04.00 น. มาพร้อมกันที่ศาลาเพื่อทำวัตรเช้า
*06.00 โดยประมาณ หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ ใครที่จะลาสิกขา ก็ให้ไปทำพิธีลาสิกขาที่ถ้ำพระนอน เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับได้
หลังจากลาสิกขาที่ถ้ำพระนอน
*07.00 น. จะมีพระบิณฑบาต ตรงบริเวณทางเข้าวัด ถ้าใครไม่รีบกลับ ไปรอใส่บาตรก่อนได้ค่ะ ยังไม่ต้องเปลี่ยนชุดขาวออกก็ได้ จะมีร้านขายของใส่บาตรทั้งของทางวัดและที่ชาวบ้านเอามาขาย สะดวก แล้วแต่เราจะใส่มากน้อย จะมีพระเดินบิณฑบาตประมาณ 20 รูปได้ ถ้าใครจะเตรียมมาเองบ้างก็ได้ พวกไวตามิล นมกล่องอะไรพวกนี้
จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มบุญ ถ้าใครยังมีเวลาจะไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ในอยุธยาก็ได้นะคะมีหลายวัดมาก มีเส้นทางแนะนำไหว้พระ 9 วัด ให้เลือกมากมาย หรือจะไปแวะซื้อของฝาก โรตีสายไหมอยุธยา ก็ไปได้ที่วัดมงคลบพิตร ซึ่งเราก็ไม่พลาดทุกครั้งที่ไปอยุธยา ทำสดใหม่ กลิ่นหอม น่ากินมาก
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ (ทางวัดมีขาย) ไม้แขวนเสื้อไว้ตากผ้า กรณีซักผ้าถ้าอยู่หลายวัน
2. ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม(ทางวัดมีให้ยืม แต่ถ้าเอาไปเองก็ดี) หมอนไม่ต้องเอาไป ทางวัดมีให้ยืมพร้อมปลอกหมอน
3. ชุดขาวไว้ใส่นอน ใส่ปฏิบัติกรณีไปหลายวัน ทางวัดให้ยืมถ้าไม่พอ ก็ซักตากได้
4. เสื่อผืนเล็กไว้สำหรับปูนั่งสมาธิ (ทางวัดมีขาย แบบเสื่อเล็ก ผืนละ 60 บาท ผ้ายางผืนละ 25 บาท)
5. รองเท้า ควรใส่แบบฟองน้ำสีขาว หรือแบบเรียบๆ ไม่ควรเป็นรองเท้าแฟชั่น
6. ยางมัดผม ถ้าผมยาวเก็บรวมให้เรียบร้อย ควรเป็นยางดำธรรมดา ไม่ควรให้มีอะไรประดับเช่นเพชร พลอย
7. กระเป๋าผ้า หรือย่าม ไว้ใส่ของมีค่าหรือน้ำ สะพายติดตัว (ทางวัดมีขาย)
8. กระบอกน้ำหรือขวดน้ำไว้ใส่น้ำพกติดตัว ทางวัดมีตู้น้ำให้กรอกน้ำได้ตลอด
9. ทิชชู่ต้องเตรียมไปเอง ห้องน้ำที่วัดไม่มีให้
10. ครีม เครื่องสำอางค์ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ หรือใช้ให้น้อยที่สุด ไม่แต่งหน้า ทาปากเพื่อความงาม
*การเดินทาง เราไปรถส่วนตัว มีที่จอดรถกว้างสะดวก ตอนเช้าเห็นมีรถตู้อนุสาวรีย์-กรุงเทพ จอดรับอยู่หน้าวัด แต่ถ้าเวลาอื่นไม่แน่ใจว่ารับ-ส่ง ถึงที่วัดรึป่าวนะคะ ลองสอบถามดูค่ะ มีวินมอเตอร์ไซด์และรถตุ๊กๆ
*การทำบุญ ที่วัดไม่ได้มีการบังคับให้ทำ ทุกอย่างทำตามจิตศรัทธา แล้วแต่กำลังของเรา
*ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบ เพราะถ่ายไว้แค่นี้ อย่างที่บอกแทบจะไม่ใช้โทรศัพท์เลย อยากเข้าถึงการปฏิบัติให้มากที่สุด
*การปฏิบัติทางวัดไม่ได้เคร่งครัดมาก เพราะฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราจะเลือก ถ้าเราตัดได้มาก ก็จะเข้าถึงการปฏิบัติและความสงบได้มาก หากเราละไม่ได้คิดว่าการปฏิบัติก็คงไม่มีประโยชน์อะไร และไม่ได้อะไรกลับมา เราเองมีบางเวลาที่คิดว่าจะไม่ไหวเหมือนกันเพราะความหิว แต่พอเราตั้งใจเราก็จะผ่านไปได้ สำหรับท่านที่อยากเริ่มลองหาข้อมูลดูก่อนค่ะ แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่ควรฝืน
ปล. หากมีอะไรผิดพลาดทั้งการใช้ถ้อยคำ หรือข้อมูลใดๆ ต้องขออภัยไว้ด้วย เพราะเพิ่งไปปฏิบัติครั้งแรกในชีวิต หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจอยากจะเริ่มปฏิบัติค่ะ
ข้อคิดดีๆ ที่ได้มา
อย่าไปทุกข์ใจ เสียใจ คาดหวัง เพ้อฝัน กับสิ่งที่ยังไม่ได้ ไม่มี ไม่เป็น เพราะถ้ามีวาสนา มันจะเกิดขึ้นกับเราเอง
อย่ารอให้ใครมาช่วย อย่าขอให้บุญหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย เพราะเมื่อท่านช่วยเราจนบุญเราหมด แล้วเราไม่หมั่นทำบุญ เติมบุญ
บุญที่เราสะสมไว้มันจะหมดไป ถึงเวลานั้นใครก็ช่วยเราไม่ได้
อย่าไปทุกข์ใจ กับสิ่งที่ยังไม่เกิด หรือยังมาไม่ถึง
อย่าไปทุกข์ใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและแก้ไขไม่ได้