ประวัติศาสตร์ชาติไทยตั้งแต่ปี 2475 ทีผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบบประชาธิปไตย แบบไหนนั้น คงต้องศึกษาประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ที่เริ่มมีความเคลือบแคลงสงสัยของผู้ก่อนการ ทั้งกรณีมีหนังสือที่แต่ละบุคคลเขียนไว้ อ้างถึงบุคคลอื่น เช่น กรณี รท ประยูร
พูดถึง ปรีดีย์ พระยาทรงสุรเดช ขัดแย้งกับปรีดีย์ กรณีการขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ ที่ปรียดีย์เป็นคนร่าง
ประชาธิปไตยประเทศไทยก็ผ่านกาลเวลามาเรื่อยมา ผ่านยุคสมัยต่างๆ เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆที่เรามีประชาธิปไตย คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
มันคืออะไร ชาวบ้านร้านตลาดในสมัยก่อนทีการศึกษาจบเพียงชั้นก่อน ป 4 หรือน้อยกว่านั้น จะมีใครรับรู้ หรือรู้เรื่องราวของคำว่า
ประชาธิปไตย ว่ามันคืออะไร เพราะคนที่เอาเข้ามาคือพวกนักเรียนนอกที่ได้ไปเรียนในยุโรป หลักๆจาก ฝรั่งเศษ และมีผู้เริ่มก่อการเริ่มต้น
แค่ 7 คน
เมื่อได้หลักคิดระบอบมาแล้ว อยากให้ลองย้อนกลับไปดูประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย มาแล้วแบบไหน
เอาแค่ยุคปัจจุบัน ความหมายยังต้อง
ไปนั่งฟังนักการเมืองอ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตย แบบนี้คือประชาธิปไตย จะจับใครสักคนพระสักองค์มีคนบอกว่าต้องรอประชาธิปไตย ทำ
นโยบายอะไร เสียหายก็อ้างว่ามาจากประชาธิปไตย มาด้วยเสียงส่วนใหญ่จะทำอะไรก็ได้ (ทำให้เห็นเพียงว่า คำว่าประชาธิปไตย เป็นแค่ยันต์ปกป้องการกระทำของตัวเองโดยใช้จำนวนคน และคำว่าประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง)
นอกจากนั้นก็ยังมีกลุ่มบุคคลกลุ่มคน ที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ยึดคำนี้ไปใช้ แต่ไม่เคยเปิดรับฟังความเห็นต่าง ใครเห็นต่างคือศัตรู
ใครเห็นต่างไม่ใช่พวกตน (แบบนี้มันประชาธิปไตยแบบไหน) นั่งรับฟังคำสั่งทิศทางจากนักการเมืองเพียงเท่านั้น
คืนเถอะครับถ้าใช้ไม่เป็นไม่รู้จักความหมายหรือยากเกินเข้าใจก็คืนให้สังคมไปคำนี้ ยิ่งยึดไว้คนที่นั่งมอง ที่เห็นการกระทำเขาเสียดายครับ
ประชาธิปไตยต้องมาพร้อมกับความเข้าใจ และทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วอ่างตัวเองเป็นตัวแทน ขอแค่เพียง
เลือกตั้งก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เสร็จแล้วจะเอาอำนาจไปทำอะไรต่อก็ไม่สนใจ ฟังแต่นักการเมืองแบบนี้ สาย ข ครับ คงต้องใช้เวลาเพิ่มประสบการณ์
ความรู้อีกมากมายกว่าจะเข้าใจประชาธิปไตย แค่เห็นต่างไม่ได้ อย่ายึดไปใช้เลยคำคำว่าประชาธิปไตย
คืนสังคมโดยด่วน
ประชาธิปไตย ที่ถูกยึดไปจากลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย คืนสังคมเถอะครับ (By Identity Idea)
ประวัติศาสตร์ที่เริ่มมีความเคลือบแคลงสงสัยของผู้ก่อนการ ทั้งกรณีมีหนังสือที่แต่ละบุคคลเขียนไว้ อ้างถึงบุคคลอื่น เช่น กรณี รท ประยูร
พูดถึง ปรีดีย์ พระยาทรงสุรเดช ขัดแย้งกับปรีดีย์ กรณีการขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ ที่ปรียดีย์เป็นคนร่าง
ประชาธิปไตยประเทศไทยก็ผ่านกาลเวลามาเรื่อยมา ผ่านยุคสมัยต่างๆ เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆที่เรามีประชาธิปไตย คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
มันคืออะไร ชาวบ้านร้านตลาดในสมัยก่อนทีการศึกษาจบเพียงชั้นก่อน ป 4 หรือน้อยกว่านั้น จะมีใครรับรู้ หรือรู้เรื่องราวของคำว่า
ประชาธิปไตย ว่ามันคืออะไร เพราะคนที่เอาเข้ามาคือพวกนักเรียนนอกที่ได้ไปเรียนในยุโรป หลักๆจาก ฝรั่งเศษ และมีผู้เริ่มก่อการเริ่มต้น
แค่ 7 คน
เมื่อได้หลักคิดระบอบมาแล้ว อยากให้ลองย้อนกลับไปดูประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย มาแล้วแบบไหน เอาแค่ยุคปัจจุบัน ความหมายยังต้อง
ไปนั่งฟังนักการเมืองอ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตย แบบนี้คือประชาธิปไตย จะจับใครสักคนพระสักองค์มีคนบอกว่าต้องรอประชาธิปไตย ทำนโยบายอะไร เสียหายก็อ้างว่ามาจากประชาธิปไตย มาด้วยเสียงส่วนใหญ่จะทำอะไรก็ได้ (ทำให้เห็นเพียงว่า คำว่าประชาธิปไตย เป็นแค่ยันต์ปกป้องการกระทำของตัวเองโดยใช้จำนวนคน และคำว่าประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง)
นอกจากนั้นก็ยังมีกลุ่มบุคคลกลุ่มคน ที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ยึดคำนี้ไปใช้ แต่ไม่เคยเปิดรับฟังความเห็นต่าง ใครเห็นต่างคือศัตรู
ใครเห็นต่างไม่ใช่พวกตน (แบบนี้มันประชาธิปไตยแบบไหน) นั่งรับฟังคำสั่งทิศทางจากนักการเมืองเพียงเท่านั้น
คืนเถอะครับถ้าใช้ไม่เป็นไม่รู้จักความหมายหรือยากเกินเข้าใจก็คืนให้สังคมไปคำนี้ ยิ่งยึดไว้คนที่นั่งมอง ที่เห็นการกระทำเขาเสียดายครับ
ประชาธิปไตยต้องมาพร้อมกับความเข้าใจ และทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วอ่างตัวเองเป็นตัวแทน ขอแค่เพียง
เลือกตั้งก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เสร็จแล้วจะเอาอำนาจไปทำอะไรต่อก็ไม่สนใจ ฟังแต่นักการเมืองแบบนี้ สาย ข ครับ คงต้องใช้เวลาเพิ่มประสบการณ์
ความรู้อีกมากมายกว่าจะเข้าใจประชาธิปไตย แค่เห็นต่างไม่ได้ อย่ายึดไปใช้เลยคำคำว่าประชาธิปไตย คืนสังคมโดยด่วน