ทริปนี้คือการผจญภัยต่อจากเส้นทางสาย Trans-Siberian --> http://ppantip.com/topic/35414824


Day 1:
การเดินทางไปมองโกเลียครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เราถึงที่สถานีรถไฟช้ากว่ากำหนดไปประมาณชั่วโมงหนึ่งทำให้มีเวลาอาบน้ำและทานอาหารเช้าแค่แป๊บเดียวเราทำทุกอย่างเร่งรีบไม่อยากให้ไกด์นำทางรอนาน (Trans-siberian --> http://ppantip.com/topic/35414824)

หลังจะขับรถลงไปทางใต้ประมาณ 400 กิโลเมตรพวกเราก็มาถึงหน้าผาที่มีสีสันสวยงาม ที่นี่ลมแรงมากค่ะ คือหมวกหลุดเลยอ่ะ หล่นลงไปใต้หน้าผาทำให้พวกเราต้องขับรถอ้อมลงไปข้างล่างไปให้ถึงจุดที่ไปได้ใกล้ที่สุดแล้วเดินต่อเข้าไป แล้วจากนั้นก็ปฎิบัติการปีนเขานิดหน่อย สำหรับเราคิดว่ามัน ชันเกินไปปีนขึ้นไปได้ก็ลงไม่ได้เป็นปัญหาแน่ๆ ถอดใจแล้วค่ะ คงซื้อใหม่ง่ายกว่า แต่ทริปนี้คงลำบากถ้าไม่มีหมวก เพราะแดดแรงเอาการอยู่เหมือนกัน โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้มีเพื่อนร่วมทางมาอีกหนึ่งคนเป็นผู้ชายค่ะ ฝรั่งชาวสวีเดน ที่ทุกคนเห็นในวีดีโอก่อนหน้านี้ค่ะ เค้าช่วยไปเก็บมาให้ต้องขอบคุณเขาจริงๆ





หลังจากการผจญภัยนิดหน่อยในวันแรกพวกเราก็ได้เข้าที่พักตอนแรกจะอยู่กับครอบครัว nomad แต่เพราะคนหนึ่งขาดถุงนอนไกด์เลยตัดสินใจให้อยู่ tourist camp ความแตกต่างก็คือไม่ต้องใช้ถุงนอนค่ะ เค้าจะมีที่นอนเตรียมไว้ให้




Day 2:
ตื่นมาก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ วันนี้ต้องขับรถประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อเข้าไปในเขตทะเลทราย คืนนี้เราจะพักกันแทบหุบเขา บรรยากาศดีมากค่ะแปลกใจดีไม่คิดว่าทะเลทรายจะมีภูเขาและเขียวขนาดนี้ เห็นไกด์บอกว่าพวกเราโชคดีเพราะฝนตกแปลว่าได้ blessing


แต่การที่ฝนตกก็ทำให้เกือบไม่ได้ขี่ม้า ดีที่แป๊บเดียวก็หยุดตกก็เลยได้ขี้ม้าเข้าไปในเขา ม้าที่ตัวนิดเดียวเอง พวกเราใช้เวลาขี่ม้าประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อชมนกชมไม้ไปเรื่อย พอสุดทางก็ถึงแม่น้ำที่ส่วนนึงยังแข็งเป็นน้ำแข็งอยู่ ตอนเดินเราอุตส่าห์ระวังไม่อยากจะหน้าคว่ำ แต่เพื่อนร่วมทางของเราสิ คิดว่าเดินได้แน่ๆ เดินตัดหน้าไปเลย แล้วก็ล้มอยู่ตรงนั้น ตกใจก็ตกใจนะแต่ก็ ขำอยู่เหมือนกัน (มี video อยู่ด้านล่าง)




กลางคืนออกไปถ่ายรูปดาวแต่เป็นอาทิตย์ที่พระจันทร์เต็มดวงเลยสว่าง





Day 3:
ออกเดินทางแต่เช้า



ได้เวลาไปทะเลทรายจริงๆสักที วันนี้เราจะได้ปีนขึ้นไปบนกองทรายสูง 200 เมตรแต่ก่อนจะถึงเราหยุดพักแล้วปีนขึ้นไปนั่งเล่นบนหลังคารถกันก่อนค่ะ วันนี้ลมแรงมาก พอถึงเย็นตัวมีแต่ทรายเลย แล้ววันนี้จะเป็นวันที่ไม่ได้อาบน้ำ เช็ดตัวกันอย่างลำบากเลยค่ะ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก หลังจาก ผจญภัยกันเสร็จแล้วเราก็ได้แวะไปที่โอเอซิสไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริงๆมีทั้งน้ำทั้งดอกไม้ ไหนจะยังสัตว์ต่างๆที่อยู่ที่นี่สวยงามมากค่ะเหมือนในเทพนิยายเลย






กว่าจะถึง ข้างบนก็แทบเป็นแทบตายเหมือนกัน ทั้งลมที่แรง แดดร้อน แล้วไหนยังจะต้องปีนบนทรายอีก บางครั้งก็ไม่คิดว่าจะขึ้นไปถึงนะคะ อยากจะหยุดแล้วก็เดินกลับลงมามาก แต่ถ้าคนนึงลงอีกคนก็ต้องลง เราก็เลยพากันขึ้นไปอย่างนั้นล่ะค่ะ แต่พอขึ้นไปถึงก็คุ้มนะคะวิวข้างบนสวยมาก เป็นทะเลทรายที่ใหญ่มากค่ะ ตื่นตาตื่นใจดี แต่พวกเราก็อยู่ข้างบนแป๊บเดียว เพราะลมแรงเกินไป ขาลงนี่อย่างเร็วเลยค่ะ แข่งกันลงมา ขึ้น 2 ชั่วโมงลง 10 นาที แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหมต้องขึ้นไหมก็ต้องขึ้นไปนะคะครั้งหนึ่งในชีวิตเราคงไม่กลับมาปีนอีก แล้วถ้าแก่กว่านี้ก็คงขึ้นไม่ไหวเหมือนกัน





กลางคืนสวยอีกเช่นเคย

พระอาทิตย์ตก


พระจันทร์


Day 4-6:
สามวันสุดท้ายเป็นเวลาขับกลับไปเมืองหลวง เราจะต้องผ่านหน้าผา Bayanzag ก่อนที่จะออกจากเขตทะเลทราย เราพักกันที่นี้ 1 คืน ที่พักเป็น tourist camp อยู่ห่างจากผาไม่กี่ กม พอเก็บของเสร็จก็ได้เวลาเดินไปถ่ายรูป และสำรวจ พวกเราได้ตามหา fossil ของไดโนเสาร์ด้วยนะ 555 ไกด์เค้าหาเจอแล้วเค้ารู้ว่าอยู่ตรงไหน ตอนบ่ายที่ออกมาเดินเล่นกันเอง พวกเราแอบหลงนิดหน่อย จำทางกลับไม่ได้ ก็ตลกดี ทั้งขี่ขอ เพื่อจะได้มองหา camp แล้วไหนยังจะเดินอ้อมอีก กว่าจะกลับได้ เล่นเอาเหนื่อยเลย







สองวันสุดท้ายเราแวะพักกันที่แม่น้ำ Ongi และ Kharakorum เป็นสองที่ๆไม่มีอะไรมาก แต่ต้องพักที่นี้เพราะ UB อยู่ไกลเกินไปที่จะขับกลับได้ในวันเดียว Secret of Ongi เป็น tourist camp ที่ดีที่สุดที่เราอยู่มา ออกแนว resort เลย บรรยากาศริมน้ำตอนพระอาทิตย์ตกสวยและสงบมาก เราชอบนะ ได้อยู่กับธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ ส่วนวันสุดท้ายเราแวะกันที่ Kharakorum เมืองหลวงเก่าในสมัย Genghis Khan ที่นี้มี museum และวัดทิเบตให้เยี่ยมชม









ไม่น่าเชื่อว่าทริปสองอาทิตย์จะจบเร็วขนาดนี้ Mongolia เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พวกเราประทับใจมาก แล้วมีการว่างแผนไว้แล้วว่าจะกลับมาอีก ถ้าเป็นไปได้ก็คงมากันอีกปีหน้า พวกเราอยากไป camping กันสองอาทิตย์ทางเหนือและตะวันออกของมองโกเลีย