การเป็นลูกคนโตในครอบครัวเชื้อสายจีน
เป็นลูกที่อยู่ในโอวาท เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน
ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่ขัดคำสั่ง
มันทำให้ตัวเราเองลำบากกับการมีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างออกไป
แถมตอนสมัยเรียนเราก็ปิดกั้นตัวเอง
จากทุกคนไม่ว่าจะเพื่อน หรือ พ่อแม่ หรือ ญาติๆ
แถมไม่ยอมมีความรักเลย กลัวถูกจับได้
เพราะแม่พูดเสมอว่า
'เกลียดตุ๊ดเกย์กะเทย อย่าเป็นเชียวนะ'
กรอกหูมาตั้งแต่เล็กๆ
พอแม่ถามว่าไม่เป็นใช่มั้ย
ก็ได้แต่ตอบว่า 'ป่าวคับ'
พอเรียนจบ ก็เริ่มมีแฟน และเราก็ไม่ได้บอกใคร
แต่ ความลับไม่มีในโลก
ในที่สุดแม่ก็รู้ .. ไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องได้ยังไง
แต่แม่ก็บังคับให้เราเลิกกับแฟน
เราก็ไม่ยอมแหละ เรารักของเรา
แฟนก็รักเรามาก เราก็ร้องไห้หนัก หนักมากจริงๆ
ตาบวมช้ำ หน้าตาอมทุกข์ตลอดเวลา
พอแม่เห็นแม่ก็บอกว่า แม่เจ็บมาก ...
ตั้งแต่เกิดมา แม่ยังไม่เคยเห็นเราร้องไห้มากขนาดนี้
แล้วนี่มันเป็นใคร แค่แม่ให้เลิก ทำไมต้องร้องไห้เสียใจอะไรมากมายขนาดนี้
แม่เองก็ร้องไห้หนักทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ
เราเห็นแม่เครียด เราก็ทุกข์ใจ ไม่อยากเป็นลูก อกตัญญู แต่เราก็รักผู้หญิงไม่ได้เหมือนกัน
เราไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆซักคน ต้องมาเกี่ยวพันกับเรา มาตัดโอกาสที่เค้าจะได้ไปเจอคนดีๆ ที่พร้อมจะสร้างครอบครัวไปกับเค้าได้
3วันถัดมาแม่ก็ส่งเราไปพบจิตแพทย์
จิตแพทย์ก็แนะนำเราว่า
'อดทนไปก่อน เดี๋ยวพออายุซัก 30 มีงานมีการทำ ดูแลตัวเองได้ เค้าก็จะยอมรับเอง ช่วงนี้ก็อย่าพึ่งไปมีแฟนให้แม่เห็นเลย'
หลังพบจิตแพทย์ เราก็ยังเหมือนเดิม
อมทุกข์ เพราะแม่ยังร้องไห้อยู่
สุดท้ายแม่ตัดสินใจ บังคับให้เราไปบวช
โดยหวังว่าพระธรรมจะนำให้เรากลับสู่เส้นทางปกติได้ ... เราก็ยอม เพื่อความสบายใจของแม่
เมื่อสึกออกมา เราก็ยังติดต่อกับแฟนอยู่
แต่ก็พยายาม ไม่ให้มีใครรู้
แม่เองก็ดูสบายใจขึ้น เพราะคิดว่าเราเลิกกับแฟนได้แล้ว
ซึ่งสุดท้ายเรากับแฟน ก็เลิกกันไปจริงๆ
ด้วยสาเหตุที่เราให้เค้าว่า
คบกันไปแบบนี้ เธอเองก็ไม่มีความสุขหรอก
ถ้าได้เจอคนที่พร้อมกว่าเรา
ชีวิตเธอน่าจะดีกว่านี้
จากวันนั้น จวบจนวันนี้
ผ่านล่วงเลยมา 4 ปีแล้ว
แม่เราก็ยังคงพากเพียรถามเราด้วยคำถามซ้ำๆว่า
'เมื่อไหร่จะมีแฟน'
'วางแผนอนาคตมั้ยว่าจะมีครอบครัวเมื่อไหร่'
'พ่ออยากอุ้มหลานแล้วนะ'
'อยากเห็นเจ้าสาวของลูกไวๆจัง'
'มองใครบ้างรึเปล่า'
'ให้แม่ช่วยหาแฟนให้มั้ย'
ในใจผมอยากถามแม่มาก ว่า
'แม่ไม่รู้จริงๆหรอ ว่าผมเป็นอะไร'
ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แม่ก็ยอมรับผมไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยครับ
ผมควรจะต้องทำแบบไหน ให้แม่ยอมรับได้
และเสียใจให้น้อยที่สุด
ผมไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพเดิม
ที่ต้องเห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน ผ่ายผอมเพราะกินไม่ลง
แต่ผมเองก็เลิกเป็นเกย์ไม่ได้จริงๆ
ผมอิจฉาหลายๆคนนะที่สามารถรักกันได้อย่างเปิดเผย ครอบครัวไม่ปิดกั้น
มันเป็นสิ่งล้ำค่ามากๆเลยครับ
กับการเกิดเป็นแบบนี้ แต่มีครอบครัวที่ไม่กีดกัน
ระบาย : ครอบครัวไม่ยอมรับซักที (ช-ช)
เป็นลูกที่อยู่ในโอวาท เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน
ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่ขัดคำสั่ง
มันทำให้ตัวเราเองลำบากกับการมีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างออกไป
แถมตอนสมัยเรียนเราก็ปิดกั้นตัวเอง
จากทุกคนไม่ว่าจะเพื่อน หรือ พ่อแม่ หรือ ญาติๆ
แถมไม่ยอมมีความรักเลย กลัวถูกจับได้
เพราะแม่พูดเสมอว่า
'เกลียดตุ๊ดเกย์กะเทย อย่าเป็นเชียวนะ'
กรอกหูมาตั้งแต่เล็กๆ
พอแม่ถามว่าไม่เป็นใช่มั้ย
ก็ได้แต่ตอบว่า 'ป่าวคับ'
พอเรียนจบ ก็เริ่มมีแฟน และเราก็ไม่ได้บอกใคร
แต่ ความลับไม่มีในโลก
ในที่สุดแม่ก็รู้ .. ไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องได้ยังไง
แต่แม่ก็บังคับให้เราเลิกกับแฟน
เราก็ไม่ยอมแหละ เรารักของเรา
แฟนก็รักเรามาก เราก็ร้องไห้หนัก หนักมากจริงๆ
ตาบวมช้ำ หน้าตาอมทุกข์ตลอดเวลา
พอแม่เห็นแม่ก็บอกว่า แม่เจ็บมาก ...
ตั้งแต่เกิดมา แม่ยังไม่เคยเห็นเราร้องไห้มากขนาดนี้
แล้วนี่มันเป็นใคร แค่แม่ให้เลิก ทำไมต้องร้องไห้เสียใจอะไรมากมายขนาดนี้
แม่เองก็ร้องไห้หนักทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ
เราเห็นแม่เครียด เราก็ทุกข์ใจ ไม่อยากเป็นลูก อกตัญญู แต่เราก็รักผู้หญิงไม่ได้เหมือนกัน
เราไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆซักคน ต้องมาเกี่ยวพันกับเรา มาตัดโอกาสที่เค้าจะได้ไปเจอคนดีๆ ที่พร้อมจะสร้างครอบครัวไปกับเค้าได้
3วันถัดมาแม่ก็ส่งเราไปพบจิตแพทย์
จิตแพทย์ก็แนะนำเราว่า
'อดทนไปก่อน เดี๋ยวพออายุซัก 30 มีงานมีการทำ ดูแลตัวเองได้ เค้าก็จะยอมรับเอง ช่วงนี้ก็อย่าพึ่งไปมีแฟนให้แม่เห็นเลย'
หลังพบจิตแพทย์ เราก็ยังเหมือนเดิม
อมทุกข์ เพราะแม่ยังร้องไห้อยู่
สุดท้ายแม่ตัดสินใจ บังคับให้เราไปบวช
โดยหวังว่าพระธรรมจะนำให้เรากลับสู่เส้นทางปกติได้ ... เราก็ยอม เพื่อความสบายใจของแม่
เมื่อสึกออกมา เราก็ยังติดต่อกับแฟนอยู่
แต่ก็พยายาม ไม่ให้มีใครรู้
แม่เองก็ดูสบายใจขึ้น เพราะคิดว่าเราเลิกกับแฟนได้แล้ว
ซึ่งสุดท้ายเรากับแฟน ก็เลิกกันไปจริงๆ
ด้วยสาเหตุที่เราให้เค้าว่า
คบกันไปแบบนี้ เธอเองก็ไม่มีความสุขหรอก
ถ้าได้เจอคนที่พร้อมกว่าเรา
ชีวิตเธอน่าจะดีกว่านี้
จากวันนั้น จวบจนวันนี้
ผ่านล่วงเลยมา 4 ปีแล้ว
แม่เราก็ยังคงพากเพียรถามเราด้วยคำถามซ้ำๆว่า
'เมื่อไหร่จะมีแฟน'
'วางแผนอนาคตมั้ยว่าจะมีครอบครัวเมื่อไหร่'
'พ่ออยากอุ้มหลานแล้วนะ'
'อยากเห็นเจ้าสาวของลูกไวๆจัง'
'มองใครบ้างรึเปล่า'
'ให้แม่ช่วยหาแฟนให้มั้ย'
ในใจผมอยากถามแม่มาก ว่า
'แม่ไม่รู้จริงๆหรอ ว่าผมเป็นอะไร'
ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แม่ก็ยอมรับผมไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยครับ
ผมควรจะต้องทำแบบไหน ให้แม่ยอมรับได้
และเสียใจให้น้อยที่สุด
ผมไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพเดิม
ที่ต้องเห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน ผ่ายผอมเพราะกินไม่ลง
แต่ผมเองก็เลิกเป็นเกย์ไม่ได้จริงๆ
ผมอิจฉาหลายๆคนนะที่สามารถรักกันได้อย่างเปิดเผย ครอบครัวไม่ปิดกั้น
มันเป็นสิ่งล้ำค่ามากๆเลยครับ
กับการเกิดเป็นแบบนี้ แต่มีครอบครัวที่ไม่กีดกัน