สุดท้ายถึงแม้จะเป็น "ตัวเขา" ที่อยากทำให้เรื่องมันจบลง และ มันก็น่าจะจบลงจริง ๆ หากพิจารณณาจากความซีดเซียวของใบหน้า และ ความสิ้นหวังในดวงตาของใครอีกคน เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองแสดงท่าทางอะไรออกไปบ้างในเวลานั้น แต่เขาไม่พร้อม ไม่พร้อมจะเผชิญอารมณ์อะไรแบบนั้น ไม่อาจจะเห็นหน้าเด็กผู้ชายคนนั้นในตอนนี้ ก็ถึงแม้ไม่เห็นตัวไม่เห็นหน้า หากความทรงจำมันก็คอยย้อนกลับมาหลอกหลอนเขาอยู่สม่ำเสมอ บังคับกายได้ .... แต่บังคับใจยากกว่าไม่รู้กี่เท่า ไม่อยากยอมรับแต่ก็รู้ตัว .... บังคับใจตัวเองไม่ได้เอาเลย
วันนี้เขาปลีกตัวไปพบกับน้ำตาล เธอมีเรื่องทะเลาะกับเจมาอีกแล้ว ภาพในอดีตพร่างพรูมา ความรู้สึกเสียดาย ... คงมีอยู่ลึก ๆ แต่สิ่งที่กระทบใจมากกว่าก็คือตอนที่น้ำตาลเอ่ยถึงใครอีกคน ที่ "ชื่อนั้น" เขาเหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงมาซักพักแล้ว "ก้องภพ" แต่แทนที่มันจะเป็นความกระอักกระอ่วนใจ ไม่อยากจะคิดถึงอย่างที่เคยบอกกับตัวเองตลอดมา แทนที่มันจะกลายเป็นเรื่องที่คิดว่าไม่อาจจะออกจากปากได้สืบไป กลับกลายเป็นเรื่องที่พูดได้อย่างคล่องปาก กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้อาทิตย์มีชีวิตชีวาหลังจากที่นิ่งเงียบเป็นหอยหุบกาบมานานวัน
เด็กผู้ชายคนนั้นชอบกินอะไร ข้าวเช้า กลางวัน เย็น ของเผ็ด หรือ ของจืด อาทิตย์บอกได้แม้กระทั่งเมนู
เด็กผู้ชายคนนั้นตื่นนอนเวลาใด เจ้าตัวก็แทบจะบอกเวลาได้เป๊ะ ๆ ราวกับจับสังเกตมานานวัน
เด็กผู้ชายคนนั้นแต่งตัวแบบไหน ช้า เร็ว แต่งลำลองหรือจัดเต็ม บอกได้แม้กระทั่งสไตล์เฉพาะเจาะจง
เด็กผู้ชายคนนั้นนิสัยเป็นอย่างไร กล้าหาญ รักเพื่อน ไปไหนคนเดียวไม่ได้ต้องหนีบเพื่อนไปด้วย
"รุ่นพี่เกลียดขี้หน้ากันทั้งชั้นปี ไอ้หมอนี่" คำลงท้ายกลั้วหัวเราะดูไม่ค่อยสมกับเรื่องที่พูดเท่าไหร่ น้ำตาลมองหน้าตาที่ออกจะเจือไปด้วยร่องรอยความเอ็นดูปนหมั่นไส้ และ ดวงตารื่นรมณ์ อย่างพิศวงปนขำ "นี่เรียกเกลียดขี้หน้าแล้วเหรออุ่น" เสียงแว่ว ๆ ของเธอดังมาทำนองนั้น จิตใจของอาทิตย์ปิดตัวลงอีกครั้ง ไม่กล้าแม้แต่จะคิดทบทวนอีกต่อไป กำแพงหัวใจมันกร่อนลงกร่อนลงทุกที ๆ
หรือว่าที่จริงแล้วเราจะ ??
แม้จะบอกตัวเองให้เลิกคิด หากจิตใจก็ประหวัดไปถึงคำพูดของน้ำตาลจนกระทั่งกลับหอ จนกระทั่งต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่คุ้นเคย ที่นั่งจ้องมานานตลอดวันอีกครั้ง รู้ทั้งรู้โทรไปน่าจะได้ยินอะไร หากใจก็กลัว ๆ กล้า ๆ ทั้งอยากและไม่อยากได้ยินสับสนปนเปไหมหมด แล้วสุดท้ายสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริง ถ้อยคำที่นึกอยากรู้ และ เคยเอ่ยถาม มาวันนี้กลับไปกล้าแม้แต่จะหยุดฟัง ใจที่กระวนกระวายสับสนสะดุดลงที่การตัดสาย
จะตัดก็กลัวตาย
จะขายก็กลัวขาด
แต่จะยอมรับก็ยังไม่กล้า
ใจเอ๋ยใจจะทำฉันใดกับคนที่อยู่ระเบียงด้านโน้นดี
น้ำตาของทางนั้นที่ร่วงหล่น
สายสิญจน์ที่ข้อมือข้างซ้ายถูกปลดออกแล้วกำแน่น
ภายใต้ "ความรัก" ที่คุมขัง
"พวกเรา" ควรทำอย่างไร ?
SOTUS the series (กึ่งรีวิว) : Prisoner of Love
วันนี้เขาปลีกตัวไปพบกับน้ำตาล เธอมีเรื่องทะเลาะกับเจมาอีกแล้ว ภาพในอดีตพร่างพรูมา ความรู้สึกเสียดาย ... คงมีอยู่ลึก ๆ แต่สิ่งที่กระทบใจมากกว่าก็คือตอนที่น้ำตาลเอ่ยถึงใครอีกคน ที่ "ชื่อนั้น" เขาเหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงมาซักพักแล้ว "ก้องภพ" แต่แทนที่มันจะเป็นความกระอักกระอ่วนใจ ไม่อยากจะคิดถึงอย่างที่เคยบอกกับตัวเองตลอดมา แทนที่มันจะกลายเป็นเรื่องที่คิดว่าไม่อาจจะออกจากปากได้สืบไป กลับกลายเป็นเรื่องที่พูดได้อย่างคล่องปาก กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้อาทิตย์มีชีวิตชีวาหลังจากที่นิ่งเงียบเป็นหอยหุบกาบมานานวัน
เด็กผู้ชายคนนั้นตื่นนอนเวลาใด เจ้าตัวก็แทบจะบอกเวลาได้เป๊ะ ๆ ราวกับจับสังเกตมานานวัน
เด็กผู้ชายคนนั้นแต่งตัวแบบไหน ช้า เร็ว แต่งลำลองหรือจัดเต็ม บอกได้แม้กระทั่งสไตล์เฉพาะเจาะจง
เด็กผู้ชายคนนั้นนิสัยเป็นอย่างไร กล้าหาญ รักเพื่อน ไปไหนคนเดียวไม่ได้ต้องหนีบเพื่อนไปด้วย
"รุ่นพี่เกลียดขี้หน้ากันทั้งชั้นปี ไอ้หมอนี่" คำลงท้ายกลั้วหัวเราะดูไม่ค่อยสมกับเรื่องที่พูดเท่าไหร่ น้ำตาลมองหน้าตาที่ออกจะเจือไปด้วยร่องรอยความเอ็นดูปนหมั่นไส้ และ ดวงตารื่นรมณ์ อย่างพิศวงปนขำ "นี่เรียกเกลียดขี้หน้าแล้วเหรออุ่น" เสียงแว่ว ๆ ของเธอดังมาทำนองนั้น จิตใจของอาทิตย์ปิดตัวลงอีกครั้ง ไม่กล้าแม้แต่จะคิดทบทวนอีกต่อไป กำแพงหัวใจมันกร่อนลงกร่อนลงทุกที ๆ
แม้จะบอกตัวเองให้เลิกคิด หากจิตใจก็ประหวัดไปถึงคำพูดของน้ำตาลจนกระทั่งกลับหอ จนกระทั่งต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่คุ้นเคย ที่นั่งจ้องมานานตลอดวันอีกครั้ง รู้ทั้งรู้โทรไปน่าจะได้ยินอะไร หากใจก็กลัว ๆ กล้า ๆ ทั้งอยากและไม่อยากได้ยินสับสนปนเปไหมหมด แล้วสุดท้ายสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริง ถ้อยคำที่นึกอยากรู้ และ เคยเอ่ยถาม มาวันนี้กลับไปกล้าแม้แต่จะหยุดฟัง ใจที่กระวนกระวายสับสนสะดุดลงที่การตัดสาย
จะขายก็กลัวขาด
แต่จะยอมรับก็ยังไม่กล้า
สายสิญจน์ที่ข้อมือข้างซ้ายถูกปลดออกแล้วกำแน่น
"พวกเรา" ควรทำอย่างไร ?