มรรคมีองค์๘

มรรคมีองค์๘ ฝ่ายที่เป็น "สาสวะ=ทางโลกียะ)ที่ผมค้นคว้ามามีดังนี้ครับ
๑.สัมมาทิฐิ คือ ความเห็นดังนี้ว่า ทานที่ให้แล้ว มีผล ยัญที่บูชา
แล้ว มีผล สังเวยที่บวงสรวงแล้ว มีผล ผลวิบากของกรรมที่ทำดี ทำชั่วแล้ว
มีอยู่ โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามี บิดามี สัตว์ที่เป็นอุปปาติกะมี สมณพราหมณ์
ทั้งหลาย ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง
เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในโลก มีอยู่
๒.สัมมาสังกัปปะ คือความดำริในเนกขัมมะ ดำริในความไม่
พยาบาท ดำริในความไม่เบียดเบียน
๓.สัมมาวาจา คือ เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการพูด
ส่อเสียด งดเว้นจากการพูดคำหยาบ งดเว้นจากการเจรจาเพ้อเจ้อ
๔.สัมมากัมมันตะคือ เจตนางดเว้นจากปาณาติบาต งดเว้น
จากอทินนาทาน งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาฯ
๕.สัมมาอาชีวะ คือ การละมิจฉาอาชีวะ เลี้ยงชีพด้วยสัมมาอาชีวะ
๖.สัมมาวายามะ ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร ย่อม
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรมอันเป็นบาปที่ยังไม่
เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ; ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อม
พยายามปรารภความเพียร ย่อมประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะ
ละอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ; ย่อมทำความ
พอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร ย่อม
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไมเกิดให้
เกิดขึ้น ; ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม
ปรารภความเพียร ย่อมประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่
ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์
ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว.
๗.สัมมาสติ  ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่อง
เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความ
ไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็น
เวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่อง
เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความ
ไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิต
ในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มี
สัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจใน
โลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรม
ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มี
สัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจใน
โลกออกเสียได้.
๘.สัมมาสมาธิ  มีปรกติพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความ
เสื่อมไปในอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ว่า รูปเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็นดังนี้
ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งเวทนาเป็นดังนี้ ความ
ดับแห่งเวทนาเป็นดังนี้ สัญญาเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสัญญาเป็นดังนี้
ความดับแห่งสัญญาเป็นดังนี้ สังขารเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสังขารเป็นดังนี้
ความดับแห่งสังขารเป็นดังนี้ วิญญาณเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้
ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้
ในส่วนสัมมาสมาธินี้ค้นหาไม่พบครับ เลยวิเคราะห์เอาจากสมาธิสูตรในส่วนสมาธิเพื่อการดับอาสวะ ครับ
เพราะเห็นว่าจำเป็นต่อการเข้าสู่โลกุตตระมรรคต่อไปครับ ท่านใดพอรู้ในเรื่องนี้ช่วยชี้แนะแก้ไขให้ด้วยตรับ
ถ้าไม่มีผมเองจะปฎิบัติไปตามนี้ละครับ ไม่รู้ว่าจะถูกผิดอย่างไร
ขอท่านผู้รู้ได้โปรดพิจารณาและชี้แนะด้วย จะเป็นพระคุณยิ่งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่