เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง มารดาของ “บอล กฤษณะ” ไฮโซหนุ่มแฟนของดาราสาว “อุ้ม ลักขณา” ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ที่มีกลุ่มการ์ดรุมทำร้ายร่างกายนายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ “เจมส์” บุตรชายของพล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 ในร้านมาลินสกาย ย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บาดเจ็บสาหัส แล้วมีการกล่าวหาว่าบุตรชายของตน เป็นคนสั่งการนั้น เชื่อว่าบุตรชายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางคดีด้วย เนื่องจากบุตรชายไม่ได้มีอุปนิสัยดังที่สื่อนำไปเขียนลงข่าวกัน เช่นเรื่องที่ตะโกนว่า “ข้ารวยเป็นแฟนดารา จะทำอะไรก็ได้นั้น” ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่บุตรชายตะโกนยุให้การ์ดลงมือนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
นางสาวิกา ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า หลังเกิดเหตุ ตนก็ยังไม่ได้พบบุตรชาย ได้แต่โทรศัพท์หากันเท่านั้น ทางญาติพี่น้องร้องขอให้กลับมาพักอยู่ที่บ้านกทม. เพื่อหารือเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ฝ่ายทนายบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะบุตรชายต้องสู้คดีอยู่ที่เชียงใหม่ เมื่อวานก็ถูกสอบสวนเป็นเวลานานและกำลังถูกออกหมายจับ ขณะเดียวกันบุตรชายเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เหมือนมีคนมาคอยดักฟังโทรศัพท์และมีคนมาซุ่มดูความเคลื่อนไหวหน้าบ้าน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยกลัวว่าถูกคนร้ายอุ้มฆ่า จึงไม่กล้าออกไปไหนอีก ส่วนเรื่องผู้เสียหายอยากพูดคุยกับตนและลูกชายนั้น ยืนยันว่าได้เดินทางไปยังรพ.แล้ว แต่พอไปถึงกลับถูกญาติผู้เสียหายไม่ยอมให้พบแต่อย่างใด ทั้งที่จริง ๆ ตนอยากพาบุตรชายเข้าไปขอขมาในฐานะผู้บริหาร ที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลายมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นางสาวิกา ยังได้พูดถึงประเด็นเรื่องที่บุตรชายเล่าให้ฟังว่าได้แอบฟังการสอบสวนห้องข้าง ๆ จากบุคคลที่บุตรชายรู้จักรายหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจตรวจพบว่าฉี่เป็นสีม่วง แล้วบุคคลดังกล่าวยินยอมจะให้การซัดทอดบุตรชายให้เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายของตนด้วย
ที่มา – เรื่องเล่าเช้านี้
http://www.tvpoolonline.com/content/273996
ไฮโซ“บอล กฤษณะ” โทรฟ้องแม่ มีคนดักฟังโทรศัพท์ แถมยังมีคนมาดักซุ่มหน้าบ้าน หวั่นโดนคนร้ายอุ้มฆ่า
นางสาวิกา ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า หลังเกิดเหตุ ตนก็ยังไม่ได้พบบุตรชาย ได้แต่โทรศัพท์หากันเท่านั้น ทางญาติพี่น้องร้องขอให้กลับมาพักอยู่ที่บ้านกทม. เพื่อหารือเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ฝ่ายทนายบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะบุตรชายต้องสู้คดีอยู่ที่เชียงใหม่ เมื่อวานก็ถูกสอบสวนเป็นเวลานานและกำลังถูกออกหมายจับ ขณะเดียวกันบุตรชายเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เหมือนมีคนมาคอยดักฟังโทรศัพท์และมีคนมาซุ่มดูความเคลื่อนไหวหน้าบ้าน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยกลัวว่าถูกคนร้ายอุ้มฆ่า จึงไม่กล้าออกไปไหนอีก ส่วนเรื่องผู้เสียหายอยากพูดคุยกับตนและลูกชายนั้น ยืนยันว่าได้เดินทางไปยังรพ.แล้ว แต่พอไปถึงกลับถูกญาติผู้เสียหายไม่ยอมให้พบแต่อย่างใด ทั้งที่จริง ๆ ตนอยากพาบุตรชายเข้าไปขอขมาในฐานะผู้บริหาร ที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลายมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นางสาวิกา ยังได้พูดถึงประเด็นเรื่องที่บุตรชายเล่าให้ฟังว่าได้แอบฟังการสอบสวนห้องข้าง ๆ จากบุคคลที่บุตรชายรู้จักรายหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจตรวจพบว่าฉี่เป็นสีม่วง แล้วบุคคลดังกล่าวยินยอมจะให้การซัดทอดบุตรชายให้เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายของตนด้วย
ที่มา – เรื่องเล่าเช้านี้
http://www.tvpoolonline.com/content/273996