SNIPER กลับมาแล้ว!!! รวบอดีตทหารพราน คลั่ง SNIPER!!! ซุ่มยิงชาวบ้าน!!!

กระทู้ข่าว
“ความรู้สึกหลังจากสวมบทมือปืนสไนเปอร์ ยิงสองแม่ลูกจนล้มฟุบแน่นิ่ง
ตนภาคภูมิใจมาก!!! และคิดว่าจะต้องแอบซุ่มยิงใครก็ได้!!! เพราะได้ยิงโดนเป้าหมายที่เล็งแล้วรู้สึกมันมาก!!!

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รวบอดีตทหารพรานโรคจิต!!! คลั่งสไนเปอร์!!! ซุ่มยิงชาวบ้าน!!!

รวบอดีตทหารพราน โรคจิต ขี้รำคาญเสียงดัง ไล่ยิงชาวบ้าน แม่ค้าดับ ลูกชายเจ็บ
จนเหิมได้ใจ ก่อนยิงเพื่อนบ้านเมาเสียงดังเจ็บอีก
สารภาพดูสลายการชุมนุม ปี 53 ชอบสไนเปอร์ซุ่มยิงเลยเอาอย่าง

วันศุกร์ 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา 23:28 น.



จจากกรณีนางคารม หรืออารมณ์ ทองประพันธ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แม่ค้าผักฐานะดี ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .22 จนถึงแก่ความตาย กระสุนทะลุลำคอไปโดน ด.ช.ชินวัตร ผกากรอง อายุ 11 ปี บุตรชาย อาการสาหัส ขณะนั่งกินข้าวกับลูกชายบริเวณหน้าบ้าน เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย.ต่อเนื่องวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา และในคืนวันที่ 5 พ.ย. คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาดเดียวกันซุ่มยิงนายวิชัย กาญจนณรงค์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 271 หมู่ 2 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยที่เกิดเหตุห่างจากบ้านของนางอารมณ์ ที่ถูกยิงรายแรกเพียง 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีนี้ว่าเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 8 พ.ย. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้ปืนยิงนางคารม เสียชีวิต และนายวิชัย กาญจนณรงค์ อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยมือปืนรายนี้คือนายปรีชา คุมพวกมิตร หรือ “เตี้ย ไสคา” อายุ 40 ปี อาศัยอยู่ในกระท่อมไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จับกุมได้พร้อมของกลางประกอบด้วย ปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ติดกล้องเล็งและแปลงปลายกระบอกเก็บเสียง กระสุนปืนขนาด.22 จำนวน 32 นัด หมวกไหมพรม 1 ใบ และถุงมือ 1 คู่

พ.ต.อ.สนธิชัย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุต่อเนื่องยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตคือนายปรีชา ที่มีพฤติกรรมเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครเลยและอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ในตอนกลางคืนชอบแบกอาวุธปืนยาวเดินเที่ยวไปทั่วหมู่บ้าน จึงเชิญตัวมาสอบสวนแต่นายปรีชา ให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น จนกระทั้งชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในท่อระบายน้ำ ใกล้กับบ้านของนายปรีชา จึงพร้อมด้วยกองวิทยาการเดินทางไปตรวจสอบ พบปืนยาวขนาด .22 ไทยประดิษฐ์ติดกล้องเล็ง 1 กระบอก กระสุนปืน .22 จำนวน 2 กล่อง หมวกไอ้โม่ง 1 ใบ ถุงมือ 1 คู่ โดยมีพยานยืนยันว่าอาวุธปืนและของกลางอื่น ๆ เป็นของนายปรีชา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมนายปรีชา ดังกล่าว ซึ่งนายปรีชา นับเป็นฆาตกรโรคจิตที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นเป็นอย่างมาก

สอบสวนนายปรีชา ให้การรับสารภาพว่าชีวิตนี้ตนไม่มีใคร ญาติพี่น้องก็ไม่มี หน้าตาก็ขี้ริ้วขี้เร่ รูปชั่ว ตัวดำ จึงไม่มีครอบครัวไม่มีภรรยาไม่มีลูกอาศัยอยู่คนเดียวจึงเก็บกดมาตลอด และในอดีตเคยเป็นทหารพรานปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็รับจ้างขนไม้ยางพาราและชอบอยู่เงียบ ๆ เพียงคนเดียว ไม่ชอบเสียงดังหรือเอะอะโวยวาย โดยตนได้ติดตามข่าวช่วงเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองในช่วงปี 2553 ที่มีการสลายการชุมนุมโดยมีการใช้อาวุธปืนสไนเปอร์ซุ่มยิงทำให้มีผู้บาดเจ็บปละเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ตนไฝ่ฝันอยากเป็นมือยิงสไนเปอร์ จึงได้ประดิษฐ์อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้องเล็งเหมือนปืนสไนเปอร์ที่ใช้ในระหว่างการสลายการชุมนุมและตนยังได้ประดิษฐ์ติดกล่องเก็บเสียงติดที่ปลายกระบอกปืน หลังจากผลิตเสร็จแล้วได้นำมาทดลองยิงก็พบว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตนสามารถยิงได้แม่นเหมือนจับวาง และยังไม่ได้ยินเสียงปืนอีกด้วย

ส่วนสาเหตุที่ตนฆ่านางคารม เพื่อนบ้าน เนื่องจากบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ มักจะมีชาวบ้านนัดกันมาเล่นการพนัน ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับตนเป็นอย่างมาก ก่อนเกิดเหตุที่บ้านของนางคารม มาชาวบ้านมานั่งรวมตัวกันจำนวนเกือบ 10 คนและพากันส่งเสียงดังจนตนนอนไม่หลับ จึงโกรธคว้าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไปซุ่มยิงห่างจากเป้าสังหารประมาณ 10 เมตร โดยตนไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะยิงใคร คิดว่าหากใครอยู่ในรัศมีของจุดที่ซุ่มยิงชัดเจนที่สุดก็จะยิงคนดังกล่าว และเมื่อเล็งปืนผ่านลำกล้องนางคามรม ผู้ตายอยู่ในวิถีกระสุนที่ชัดเจนที่สุดจึงเหนียวไกสังหาร จนนายคารม ล้มลงแน่นิ่ง ในขณะที่ ด.ช.ชินวัตร ลูกชายนางคารม ส่งเสียงร้องดังมาก ตนจึงเล็งผ่านกล้องยิง ด.ช.ชินวัตร อีก 1 นัด จนล้มฟุบแน่นิ่งไปอีกคน

“ความรู้สึกหลังจากสวมบทมือปืนสไนเปอร์ยิงสองแม่ลูกจนล้มฟุบแน่นิ่งตนภาคภูมิใจมาก และคิดว่าจะต้องแอบซุ่มยิงใครก็ได้ เพราะได้ยิงโดนเป้าหมายที่เล็งแล้วรู้สึกมันมาก จนกระทั้งพบว่านายวิชัย กาญจนณรงค์ อายุ 48 ปี ชอบเมาเหล้าและส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายหนวกหูทำให้ตนนอนไม่หลับและรู้สึกรำคาญ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันซุ่มยิง นายวิชัย โดยเป้าหมายที่ศีรษะ แต่บังเอิญว่านายวิชัยเกิดขยับตัวเสียก่อนกระสุนจึงพลาดเป้าไปโดนบริเวณแก้มแทน ตนเสียดายมาก ๆ ที่ยิงพลาดเป้าหมายที่ต้องการ” นายปรีชา กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านและไม่สำนึกในความผิดที่กระทำแม้แต่น้อย

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าการยิงนางคารม เสียชีวิต และ ด.ช.ชินวัตรบาดเจ็บ รวมทั้งยิงนายวิชัย จนได้รับบาดเจ็บเพราะมีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อนใช่รือไม่ นายปรีชา หรือ “เตี้ย ไสคา” มือปืนโรคจิตรายดังกล่าว กล่าวตอบเสียงดังว่า “ผมไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกับใคร แต่ตนไม่ชอบเสียงดัง ต้องการความสงบ เมื่อมีคนมาส่งเสียงดังรู้สึกเดือดร้อนรำคาญ เก็บกดจึงต้องระบาย เมื่อก่อเหตุแล้วตนจะมีความสุขมาก หากไม่ถูกจับกุมมีเป้าหมายจะยิงเพื่อนบ้านที่ชอบส่งเสียงดังอีกหลายคน

http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=193551
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่