สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
คห.11
กรณีที่ไม่มีความผิดอาญาเกิดแต่ไปแจ้งว่ามี คือ มาตรา 173 นะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาตรา 172 ใช้กรณีที่ความผิดเกิดขึ้นจริง แต่มีคนให้การไม่ตรงกับความจริง
มาตรา 137 ใช้กรณีให้การทั่วๆไป แต่ไม่เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นความผิด
ส่วนที่คุณบอกว่าแจ้งข้อความ แจ้งความ กับให้การเป็นคนละเรื่องกัน ดูฎีกานี้นะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2546
เมื่อมันสำปะหลังที่ขุดเป็นของโจทก์ที่ 1 ที่ปลูกในที่ดินเกิดเหตุ โดยจำเลยทั้งสองมิได้เป็นผู้ปลูก การที่จำเลยที่ 1 ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ทั้งสี่ลักทรัพย์มันสำปะหลังที่ตนปลูกจึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งทำให้โจทก์ทั้งสี่เสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 หาใช่เป็นเรื่องขาดเจตนาไม่ ส่วนจำเลยที่ 2ไปให้การเป็นพยานต่อพนักงานสอบสวนยืนยันว่าตนร่วมปลูกมันสำปะหลังกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นความเท็จ โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยที่ 2 คงเป็นเพียงความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าเท่านั้น ปัญหานี้แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้อง และกำหนดโทษให้เหมาะสมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225,192 วรรคท้าย
เราว่าคุณหยุดดีไหม?
ไม่รู้ว่าคุณจบกฎหมายหรือเปล่านะ ( เด็กกฎหมายไม่น่ามีใครไม่รู้เรื่องฐานความผิดกลุ่มนี้)
และเราก็ไม่ได้คิดจะว่าดาราว่าผิดหรือไม่ผิด เราแค่มาตอบตัวบทที่ใช้
แต่เราเริ่มไม่โอเคแล้วที่คุณพยายามทำให้คนเข้าใจกฎหมายผิดๆ
กรณีที่ไม่มีความผิดอาญาเกิดแต่ไปแจ้งว่ามี คือ มาตรา 173 นะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาตรา 172 ใช้กรณีที่ความผิดเกิดขึ้นจริง แต่มีคนให้การไม่ตรงกับความจริง
มาตรา 137 ใช้กรณีให้การทั่วๆไป แต่ไม่เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นความผิด
ส่วนที่คุณบอกว่าแจ้งข้อความ แจ้งความ กับให้การเป็นคนละเรื่องกัน ดูฎีกานี้นะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2546
เมื่อมันสำปะหลังที่ขุดเป็นของโจทก์ที่ 1 ที่ปลูกในที่ดินเกิดเหตุ โดยจำเลยทั้งสองมิได้เป็นผู้ปลูก การที่จำเลยที่ 1 ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์ทั้งสี่ลักทรัพย์มันสำปะหลังที่ตนปลูกจึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งทำให้โจทก์ทั้งสี่เสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 หาใช่เป็นเรื่องขาดเจตนาไม่ ส่วนจำเลยที่ 2ไปให้การเป็นพยานต่อพนักงานสอบสวนยืนยันว่าตนร่วมปลูกมันสำปะหลังกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นความเท็จ โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยที่ 2 คงเป็นเพียงความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าเท่านั้น ปัญหานี้แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้อง และกำหนดโทษให้เหมาะสมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225,192 วรรคท้าย
เราว่าคุณหยุดดีไหม?
ไม่รู้ว่าคุณจบกฎหมายหรือเปล่านะ ( เด็กกฎหมายไม่น่ามีใครไม่รู้เรื่องฐานความผิดกลุ่มนี้)
และเราก็ไม่ได้คิดจะว่าดาราว่าผิดหรือไม่ผิด เราแค่มาตอบตัวบทที่ใช้
แต่เราเริ่มไม่โอเคแล้วที่คุณพยายามทำให้คนเข้าใจกฎหมายผิดๆ
heart_kung ถูกใจ, ลั่นทมสีแสด ถูกใจ, Ms...plum ถูกใจ, ตายประชดป่าช้า ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 817485 ถูกใจ, แพนด้าน้อยเด็กหลังห้อง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1322029 ซึ้ง, The Best of Me ถูกใจ, teakerboy ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 992686 ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ถ้าดารารู้เห็นเรื่องตื้บคน รู้จักกับคนสั่ง แต่ให้การว่าไม่เห็น จะโดนข้อหาปิดบังอำพรางมั้ย
ผมมอว่ามันไม่ใช่แค่ให้การเท็จ แต่ให้การเพื่ออำพรางคดี มากกว่า
อันนี้ถามหาความรู้นะครับ