ช่วงนี้มียายที่ป่วยหนักอยู่ คนเฝ้าไข้ ครอบครัวก็กังวลมากพอแล้ว อยากขอใช้พื้นที่ส่วนตัวแนะนำ #เผื่อใครหลายคนอาจยังไม่รู้ตัว จะได้มีแนวทางปฏิบัติ ในการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย #หนัก และ #รอวันจากไป
*** Update ยายเสียแล้วนะคะ
1. ถามตัวเอง ว่าเป็นญาติ หรือเพื่อนสนิทของผู้ป่วย? ถ้าไม่รู้จักกัน ไม่ควรไปตามมารยาท รอฟังข่าวคราวจากญาติผู้ป่วย ให้กำลังใจผู้ป่วยจากบ้าน ยกเว้นให้ในกรณีเป็นเพื่อนสนิทของญาติที่รู้จักกันมาเป็นเวลานานมากๆเกิน 20 ปี ผู้ป่วยที่ป่วยหนักขนาดนั้น จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองทุกคน อยากเห็นแค่ครอบครัวกับคนที่ตัวเองชอบใจเท่านั้น
2. หากคุณจำเป็นต้องไป หรือ ไปถึงแล้ว ควรโผล่หน้าเช็คสักนิดก่อน ว่าสะดวกให้เยี่ยมมั้ย หรือเยี่ยมได้นานเท่าไหร่ เผื่อผู้ป่วยทำธุระส่วนตัว หรือนอนหลับอยู่
3. หากมีธุระต้องคุยโทรศัพท์ กรุณาใช้นอกห้องคนไข้ ไม่ใช่เปิดประตูผางเข้ามาพร้อมคุยโทรศัพท์ติดหู เสียงดัง ว้ากๆๆ ไม่ยอมหยุดพูด ญาติผู้ป่วยมีสิทธิ์อัญเชิญคนประเภทนี้ออกไปได้ทุกเมื่อ ( วันนี้เชิญออกไปคนนึง )
4. หากเข้ามาห้องผู้ป่วยแล้วเห็นว่าหลับ ไม่ต้องไปปลุกเพื่อให้รู้ว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงแล้ว
5. คนไข้ลักษณะนี้จะเสียพลังงานมากในการเปล่งเสียงเพื่อสนทนา หากไม่มีเหตุจำเป็นไม่ควรชวนคุยพร่ำเพรื่อ ควรถามตามความจำเป็น ต้องการอะไรมั้ย ควรหาอะไรเล่าให้ฟังผู้ป่วยฟังมากกว่า เล่าเรื่องสนุกๆไม่เครียด ผู้ป่วยจะสนทนาด้วยเมื่ออยากมีส่วนร่วม
6. ห้ามร้องไห้ต่อหน้าผู้ป่วย ห้ามคุยเรื่องความตาย แม้จะเป็นเรื่องความตายของคนอื่น คนที่ป่วยและจากไปด้วยโรคอะไรก็ตาม ไม่ควรคุยเรื่องอาการผู้ป่วย หากจำเป็นต้องให้รับรู้ ควรบอกเหตุผล เช่น งดอาหารเพราะอะไร ต้องให้ยาตัวนี้เพื่ออะไร จะช่วยเรื่องอะไร
7. ไม่ควรพูดโกหกแบบไร้เหตุผล เช่น พรุ่งนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ เพราะวันรุ่งขึ้นหากไม่ได้ออก ผู้ป่วยจะเสียกำลังใจ ควรพูดอะไรที่เป็นกลางๆ เช่น อาการดีขึ้นเร็วๆนะ เมื่อไหร่ดีขึ้นจะได้กลับบ้าน จะได้ไปที่นั่นที่นี่กันนะ คนป่วยตามอาการจะได้ไม่หวังลมๆแล้งๆ
8. คนป่วยไม่ใช่คนโง่ หากจำเป็นต้องงดของที่อยากกิน ให้บอกเหตุผลดีๆ ว่า หมอห้ามกิน จนกว่าหมออนุญาตถึงจะกินได้ ไม่ควรบอกว่า เค้าไม่หาย ห้ามกิน กินไม่ได้ กินแล้วจะแย่ กินแล้วจะตาย
9. ไม่ควรพูดข้ามหัวคนป่วย ไม่คุยเสียงดัง ไม่ทะเลาะกัน
10. ทำใจให้ดีๆว่า การสูญเสียจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ แล้วย้อนกลับไปอ่าน ข้อ 1 อีกครั้ง พร้อมถามตัวเองว่า... พร้อมไปเยี่ยมคนป่วยและเป็นกำลังใจให้เค้าก้าวผ่านวันสุดท้ายของชีวิตหรือยัง
เขียนไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
แนวทางปฏิบัติ ในการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย #หนัก และ #รอวันจากไป
*** Update ยายเสียแล้วนะคะ
1. ถามตัวเอง ว่าเป็นญาติ หรือเพื่อนสนิทของผู้ป่วย? ถ้าไม่รู้จักกัน ไม่ควรไปตามมารยาท รอฟังข่าวคราวจากญาติผู้ป่วย ให้กำลังใจผู้ป่วยจากบ้าน ยกเว้นให้ในกรณีเป็นเพื่อนสนิทของญาติที่รู้จักกันมาเป็นเวลานานมากๆเกิน 20 ปี ผู้ป่วยที่ป่วยหนักขนาดนั้น จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองทุกคน อยากเห็นแค่ครอบครัวกับคนที่ตัวเองชอบใจเท่านั้น
2. หากคุณจำเป็นต้องไป หรือ ไปถึงแล้ว ควรโผล่หน้าเช็คสักนิดก่อน ว่าสะดวกให้เยี่ยมมั้ย หรือเยี่ยมได้นานเท่าไหร่ เผื่อผู้ป่วยทำธุระส่วนตัว หรือนอนหลับอยู่
3. หากมีธุระต้องคุยโทรศัพท์ กรุณาใช้นอกห้องคนไข้ ไม่ใช่เปิดประตูผางเข้ามาพร้อมคุยโทรศัพท์ติดหู เสียงดัง ว้ากๆๆ ไม่ยอมหยุดพูด ญาติผู้ป่วยมีสิทธิ์อัญเชิญคนประเภทนี้ออกไปได้ทุกเมื่อ ( วันนี้เชิญออกไปคนนึง )
4. หากเข้ามาห้องผู้ป่วยแล้วเห็นว่าหลับ ไม่ต้องไปปลุกเพื่อให้รู้ว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงแล้ว
5. คนไข้ลักษณะนี้จะเสียพลังงานมากในการเปล่งเสียงเพื่อสนทนา หากไม่มีเหตุจำเป็นไม่ควรชวนคุยพร่ำเพรื่อ ควรถามตามความจำเป็น ต้องการอะไรมั้ย ควรหาอะไรเล่าให้ฟังผู้ป่วยฟังมากกว่า เล่าเรื่องสนุกๆไม่เครียด ผู้ป่วยจะสนทนาด้วยเมื่ออยากมีส่วนร่วม
6. ห้ามร้องไห้ต่อหน้าผู้ป่วย ห้ามคุยเรื่องความตาย แม้จะเป็นเรื่องความตายของคนอื่น คนที่ป่วยและจากไปด้วยโรคอะไรก็ตาม ไม่ควรคุยเรื่องอาการผู้ป่วย หากจำเป็นต้องให้รับรู้ ควรบอกเหตุผล เช่น งดอาหารเพราะอะไร ต้องให้ยาตัวนี้เพื่ออะไร จะช่วยเรื่องอะไร
7. ไม่ควรพูดโกหกแบบไร้เหตุผล เช่น พรุ่งนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ เพราะวันรุ่งขึ้นหากไม่ได้ออก ผู้ป่วยจะเสียกำลังใจ ควรพูดอะไรที่เป็นกลางๆ เช่น อาการดีขึ้นเร็วๆนะ เมื่อไหร่ดีขึ้นจะได้กลับบ้าน จะได้ไปที่นั่นที่นี่กันนะ คนป่วยตามอาการจะได้ไม่หวังลมๆแล้งๆ
8. คนป่วยไม่ใช่คนโง่ หากจำเป็นต้องงดของที่อยากกิน ให้บอกเหตุผลดีๆ ว่า หมอห้ามกิน จนกว่าหมออนุญาตถึงจะกินได้ ไม่ควรบอกว่า เค้าไม่หาย ห้ามกิน กินไม่ได้ กินแล้วจะแย่ กินแล้วจะตาย
9. ไม่ควรพูดข้ามหัวคนป่วย ไม่คุยเสียงดัง ไม่ทะเลาะกัน
10. ทำใจให้ดีๆว่า การสูญเสียจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ แล้วย้อนกลับไปอ่าน ข้อ 1 อีกครั้ง พร้อมถามตัวเองว่า... พร้อมไปเยี่ยมคนป่วยและเป็นกำลังใจให้เค้าก้าวผ่านวันสุดท้ายของชีวิตหรือยัง
เขียนไปด้วยร้องไห้ไปด้วย