สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นดิฉันต้องขออภัยในเรื่องภาษาและการลงรูปโพสต์ต่าง ๆ เพราะดิฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับการโพสต์ค่ะ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองและอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ดิฉันได้เจอมากับตัวเอง ซึ่งถ้าใครได้อ่าน อาจจะนำไปคิดและสามารถเข้าใจความรู้สึกของทั้งท่านผู้เยี่ยม และท่านผู้ป่วยได้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า
ดิฉันต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง เพื่อรับการผ่าตัดชิ้นเนื้อที่ไม่สมควรอยู่กับดิฉัน หลังจากที่ดิฉันผ่าตัดเสร็จ ก็ได้มาอยู่ห้องพักฟื้นซึ่งเป็นห้องรวมที่มีผู้ป่วยมารอเตรียมผ่าและพักฟื้นหลังการผ่าตัด จนกว่าจะสามารถกลับบ้านได้
เหตุการณ์ที่ดิฉันเจอคือ (รู้สึกเหมือนอยู่ตลาด 4 มุมเมืองเลยค่ะ ถ้าหลับตาแล้วมโนอ่ะ ใช่เลยค่ะ) เตียงข้าง ๆ ย้ายเข้ามาหลังดิฉันผ่าตัดได้ 1 วัน ซึ่งคุณป้าคนนั้น ก็พักฟื้นเหมือนกันค่ะ ปัญหาคือ คนมาเยี่ยมค่ะ ดิฉันไม่ได้ว่าเขาว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งผู้ที่มาเยี่ยม หรือผู้ที่ได้รับการผ่าตัด แต่ว่า คือ
มากันเยอะมากค่ะ ทั้งวัน ทุกวัน เกือบ 30 คนน่าจะได้ต่อวัน ส่งเสียงดัง คุยกันขโมงโฉงเฉง คุยเรื่องคนนั้นคนนี้ บ้านนั้นบ้านนี้ วันรวมญาติค่ะ เคยถาสักคำไหม ว่าดิฉันอยากทราบหรือเปล่า คือว่าประมาณพูดกันไม่หยุดอ่ะค่ะ ไม่ได้คิดถึงคุณป้าหรือคนไข้อื่นที่มีอีก 7 เตียงเลย ที่ต้องการพักผ่อนค่ะ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยัน 2 ทุ่ม ดิฉันพยายามไม่คิด ลุกก็ไม่ได้ จะบอกเขาก็เกรงใจ
ดิฉันเลยปิดม่านระหว่างเตียง อ้าว ดิฉันโดนญาติที่มาเยี่ยมคุณป้าว่าอีก ว่าปิดม่านแล้วอากาศไม่ถ่ายเท ดิฉันคิดในใจ คุณขา คิดบ้างไหมว่าดิฉันปวดแผลแทบจะตาย ยังต้องมาทนฟังเสียงที่พวกคุณห่วงญาติคุณ มาเฮฮาปาร์จิงโกะที่เตียงข้างดิฉันไหมคะ แล้วดิฉันก็เบื่อสายตาที่พวกญาติมาเยี่ยม แล้วมองดิฉัน ถามดิฉันว่าเป็นอะไร ไม่อยากตอบค่ะ แค่ขยับตัวก็ลำบากแล้ว นอนพักอยู่ด้วยความอดทนและอึดอัดอย่างมากค่ะ
เพราะเราไม่สามารถขยับตัวได้มากเท่าไรนัก บางครั้งผ้าถุงก็เลิกมาถึงขาอ่อน บางครั้งเลือดไหลเต็มเตียง จะลุกนั่งแล้วจัดการแต่งกายให้อยู่ในสภาพเป๊ะเวอร์ตลอดเวลามันก็ยากนะคะ ดิฉันอยากจะตะโกนดัง ๆ นี่วอร์ดหญิงนะโว้ย แต่ได้แต่เพียงคิดในใจ ไม่กล้า เพราะดิฉันเข้าใจ ว่าคนที่มาเยี่ยมผู้ป่วย เขาก็มีใจที่จะมาและเป็นห่วงญาติของพวกเขา
อีกเรื่องหนึ่งค่ะ คือเรื่องอาหารที่ซื้อมาทานและตั้งวงกันบริเวณเตียงผู้ป่วยค่ะ คือ อาหารกลิ่นแรงมากค่ะ เช่น ปลาร้า ทุเรียน เป็นต้น คุณญาติ ๆ ขาเคยเข้าใจไหมคะ อร่อยคุณ แต่กลิ่นมันส่งไปทั้วทั้งวอร์ดค่ะ ดิฉันต้องนอนดมกลิ่นอาหารที่คุณซื้อมารับประทาน แล้วคุณก็กลับไป ทิ้งกลิ่นให้ดิฉันดมทั้งคืนหรือคะ
ถ้าเป็นไปได้ ดิฉันอยากให้ญาติที่มาเยี่ยมไข้ผู้ป่วยระลึกเอาไว้เสมอ ว่าญาติของท่านไม่ได้ป่วยคนเดียว ยังมีคนป่วยอีกหลายคนที่อยู่ในห้องเดียวกันค่ะ สิ่งที่อยากเสนอแนะนะคะ สำหรับห้องรวมโรงพยาบาลรัฐ
1. กำหนดจำนวนผู้เยี่ยมไข้ อาจจะเข้าได้ครั้งละ 4 คน
2. กรุณาอย่าส่งเสียงดัง เพราะอาจจะรบกวนผู้ป่วยในห้องนั้น ๆ รวมถึงญาติคุณที่ป่วยด้วย
3. กรุณาปิดโทรศัพท์ เพราะอาจจะรบกวนอุปกรณ์การแพทย์ หรือหูของผู้ป่วยได้ ถ้าจะโทร ไปโทรข้างนอก ห้องค่ะ
4. กรุณาอย่านำเด็กเล็กมาเยี่ยมคนป่วย 4.1 อาจติดเชื้อจากทางโรงพยาบาล หรือนำเชื้อมาให้ผู้ป่วย
4.2 แหกปากค่ะ ร้องไห้ กรี้ด ๆ คิดว่าญาติที่ป่วยคุณและเตียงรอบ ข้าง อยากเจอสภาพอย่างนี้หรือคะ รีบพามาให้คนป่วยชื่นใจ และรีบพากลับเถอะค่ะ
5. อาหารต่าง ๆ ที่ส่งกลิ่น กรุณาอย่านำเข้าค่ะ
6. กรุณาเยี่ยมให้ตรงเวลาที่กำหนดค่ะ และกลับตามเวลาที่กำหนด
คุณ ๆ ที่อ่านอาจจะมองเหมือนดิฉันเป็นคนเรื่องมาก แต่ถ้าคุณ ๆ มาอยู่ในจุดที่ดิฉันอยู่ มันคือความเครียดและส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลด้วยค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้วค่ะ แค่อยากฝากเอาไว้ให้ญาติ ๆ ที่ไปเยี่ยมผู้ป่วยได้เข้าใจค่ะ เพราะวันหนึ่ง คุณอาจจะสลับที่ก็ได้นะคะ จากผู้เยี่ยมไข้ เป็นคนไข้
ขอขอบพระคุณที่กรุณาอ่านที่ดิฉันระบายค่ะ
cr . Saisiamasia
มารยาทในการเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เรื่องมีอยู่ว่า
ดิฉันต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง เพื่อรับการผ่าตัดชิ้นเนื้อที่ไม่สมควรอยู่กับดิฉัน หลังจากที่ดิฉันผ่าตัดเสร็จ ก็ได้มาอยู่ห้องพักฟื้นซึ่งเป็นห้องรวมที่มีผู้ป่วยมารอเตรียมผ่าและพักฟื้นหลังการผ่าตัด จนกว่าจะสามารถกลับบ้านได้
เหตุการณ์ที่ดิฉันเจอคือ (รู้สึกเหมือนอยู่ตลาด 4 มุมเมืองเลยค่ะ ถ้าหลับตาแล้วมโนอ่ะ ใช่เลยค่ะ) เตียงข้าง ๆ ย้ายเข้ามาหลังดิฉันผ่าตัดได้ 1 วัน ซึ่งคุณป้าคนนั้น ก็พักฟื้นเหมือนกันค่ะ ปัญหาคือ คนมาเยี่ยมค่ะ ดิฉันไม่ได้ว่าเขาว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งผู้ที่มาเยี่ยม หรือผู้ที่ได้รับการผ่าตัด แต่ว่า คือ
มากันเยอะมากค่ะ ทั้งวัน ทุกวัน เกือบ 30 คนน่าจะได้ต่อวัน ส่งเสียงดัง คุยกันขโมงโฉงเฉง คุยเรื่องคนนั้นคนนี้ บ้านนั้นบ้านนี้ วันรวมญาติค่ะ เคยถาสักคำไหม ว่าดิฉันอยากทราบหรือเปล่า คือว่าประมาณพูดกันไม่หยุดอ่ะค่ะ ไม่ได้คิดถึงคุณป้าหรือคนไข้อื่นที่มีอีก 7 เตียงเลย ที่ต้องการพักผ่อนค่ะ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยัน 2 ทุ่ม ดิฉันพยายามไม่คิด ลุกก็ไม่ได้ จะบอกเขาก็เกรงใจ
ดิฉันเลยปิดม่านระหว่างเตียง อ้าว ดิฉันโดนญาติที่มาเยี่ยมคุณป้าว่าอีก ว่าปิดม่านแล้วอากาศไม่ถ่ายเท ดิฉันคิดในใจ คุณขา คิดบ้างไหมว่าดิฉันปวดแผลแทบจะตาย ยังต้องมาทนฟังเสียงที่พวกคุณห่วงญาติคุณ มาเฮฮาปาร์จิงโกะที่เตียงข้างดิฉันไหมคะ แล้วดิฉันก็เบื่อสายตาที่พวกญาติมาเยี่ยม แล้วมองดิฉัน ถามดิฉันว่าเป็นอะไร ไม่อยากตอบค่ะ แค่ขยับตัวก็ลำบากแล้ว นอนพักอยู่ด้วยความอดทนและอึดอัดอย่างมากค่ะ
เพราะเราไม่สามารถขยับตัวได้มากเท่าไรนัก บางครั้งผ้าถุงก็เลิกมาถึงขาอ่อน บางครั้งเลือดไหลเต็มเตียง จะลุกนั่งแล้วจัดการแต่งกายให้อยู่ในสภาพเป๊ะเวอร์ตลอดเวลามันก็ยากนะคะ ดิฉันอยากจะตะโกนดัง ๆ นี่วอร์ดหญิงนะโว้ย แต่ได้แต่เพียงคิดในใจ ไม่กล้า เพราะดิฉันเข้าใจ ว่าคนที่มาเยี่ยมผู้ป่วย เขาก็มีใจที่จะมาและเป็นห่วงญาติของพวกเขา
อีกเรื่องหนึ่งค่ะ คือเรื่องอาหารที่ซื้อมาทานและตั้งวงกันบริเวณเตียงผู้ป่วยค่ะ คือ อาหารกลิ่นแรงมากค่ะ เช่น ปลาร้า ทุเรียน เป็นต้น คุณญาติ ๆ ขาเคยเข้าใจไหมคะ อร่อยคุณ แต่กลิ่นมันส่งไปทั้วทั้งวอร์ดค่ะ ดิฉันต้องนอนดมกลิ่นอาหารที่คุณซื้อมารับประทาน แล้วคุณก็กลับไป ทิ้งกลิ่นให้ดิฉันดมทั้งคืนหรือคะ
ถ้าเป็นไปได้ ดิฉันอยากให้ญาติที่มาเยี่ยมไข้ผู้ป่วยระลึกเอาไว้เสมอ ว่าญาติของท่านไม่ได้ป่วยคนเดียว ยังมีคนป่วยอีกหลายคนที่อยู่ในห้องเดียวกันค่ะ สิ่งที่อยากเสนอแนะนะคะ สำหรับห้องรวมโรงพยาบาลรัฐ
1. กำหนดจำนวนผู้เยี่ยมไข้ อาจจะเข้าได้ครั้งละ 4 คน
2. กรุณาอย่าส่งเสียงดัง เพราะอาจจะรบกวนผู้ป่วยในห้องนั้น ๆ รวมถึงญาติคุณที่ป่วยด้วย
3. กรุณาปิดโทรศัพท์ เพราะอาจจะรบกวนอุปกรณ์การแพทย์ หรือหูของผู้ป่วยได้ ถ้าจะโทร ไปโทรข้างนอก ห้องค่ะ
4. กรุณาอย่านำเด็กเล็กมาเยี่ยมคนป่วย 4.1 อาจติดเชื้อจากทางโรงพยาบาล หรือนำเชื้อมาให้ผู้ป่วย
4.2 แหกปากค่ะ ร้องไห้ กรี้ด ๆ คิดว่าญาติที่ป่วยคุณและเตียงรอบ ข้าง อยากเจอสภาพอย่างนี้หรือคะ รีบพามาให้คนป่วยชื่นใจ และรีบพากลับเถอะค่ะ
5. อาหารต่าง ๆ ที่ส่งกลิ่น กรุณาอย่านำเข้าค่ะ
6. กรุณาเยี่ยมให้ตรงเวลาที่กำหนดค่ะ และกลับตามเวลาที่กำหนด
คุณ ๆ ที่อ่านอาจจะมองเหมือนดิฉันเป็นคนเรื่องมาก แต่ถ้าคุณ ๆ มาอยู่ในจุดที่ดิฉันอยู่ มันคือความเครียดและส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลด้วยค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้วค่ะ แค่อยากฝากเอาไว้ให้ญาติ ๆ ที่ไปเยี่ยมผู้ป่วยได้เข้าใจค่ะ เพราะวันหนึ่ง คุณอาจจะสลับที่ก็ได้นะคะ จากผู้เยี่ยมไข้ เป็นคนไข้
ขอขอบพระคุณที่กรุณาอ่านที่ดิฉันระบายค่ะ
cr . Saisiamasia