เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ
- ต่อจากตอน 119.5 ที่พระเอกกับคนน้องทำกิจกรรมเข้าจังหวะด้วยกันรอบสองเพื่อปลอบใจคนน้องจากความเหงาที่ไม่ได้เจอกันเพราะพระเอกยุ่งตลอดเวลา
- ผลของกิจกรรมเข้าจังหวะในคืนนั้น...พระเอกตื่นมาตอนเช้าก็โดนพ่อลากคอไปแอบคุยกันอย่างลูกผู้ชายสองต่อสองว่า
"จะเปิด AV ดูก็เกรงใจผู้หญิงในบ้านหน่อย" เล่นเอาพระเอกใจหายแว้บเพราะนึกว่าความแตกแล้ว
- เย็นนั้นพระเอกก็ไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาตามปกติ งวดนี้คนน้องทำแซนด์วิชกับคุ้กกี้อวยพรไปให้เป็นของว่างระหว่างพักด้วย เล่นเอาพระเอกแทบฟินตัวแตกกับชีวิตดี๊ดีมีแฟนให้อ้อนของตัวเอง
- ระหว่างกินๆ ข้าวอยู่ พระเอกก็หันไปเห็นยัยบู่โรงเรียนกวดวิชาเดียวกันกำลังนั่งท่องหนังสือพลางกินข้าวพลางอยู่คนเดียว ไม่เข้าไปร่วมกับนักเรียนกลุ่มอื่นที่นั่งจับกลุ่มกินข้าวคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่เลย
- เห็นแบบนั้น พระเอกก็นึกอยากผูกมิตรกับอีกฝ่ายขึ้นมา เลยเข้าไปจะช่วยสอนจุดที่ยัยบู่ไม่เข้าใจให้
- ปรากฏว่าแทนที่ยัยบู่จะยอมพูดดีด้วยที่เห็นพระเอกมีน้ำใจ กลับด่าส่งใส่ตามเคย หาว่าพระเอกทำดีเอาหน้าแต่ในใจนึกดูถูกตัวเองอยู่ แล้วสำทับทิ้งท้ายว่าผู้ชายมันก็คบหญิงที่หน้าตากันทั้งนั้นแหละ (ฟังจากคำพูดตอนนี้จะเห็นได้ชัดว่ายัยบู่คนนี้ไม่ใช่แค่ไม่สนใจเฉยๆ แล้ว แต่แสดงอาการว่า
"เกลียดผู้ชายเข้ากระดูกดำ" เต็มที่เลย)
- โดนด่างวดนี้ทำเอาพระเอกช็อค ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจแท้ๆ ไหงโดนด่าเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ เลิกเรียนกลับถึงบ้านแล้วก็นั่งเหม่อตลอดจนคนน้องออกปากทักว่าเป็นอะไรไป พระเอกเลยสะดุ้งตื่นจากภวังค์ หันขวับไปถามคนน้องแบบปุบปับว่าตัวเองเป็นคนมองผู้หญิงแต่หน้าตาจริงรึเปล่า
- คนน้องงง แต่ก็ตอบไปว่าตัวเองไม่คิดว่าพระเอกเป็นคนอย่างนั้นนะ ทำเอาพระเอกซึ้งสุดขีดหลุดปากพรรณนาความรักของตัวเองที่มีต่อคนน้อง (ประมาณไม่ได้รักกันที่หน้าตา แต่รักทุกอย่างที่เป็นคนน้อง) เล่นเอาคนน้องถึงกับเขินจนลงไปกองคาโซฟาไปเลย
- วันรุ่งขึ้น พระเอกก็แวะไปซดกาแฟที่ร้านของเจ้าของร้านกะเทยควายยากูซ่า แล้วเล่าเรื่องยัยบู่ที่เรียนพิเศษให้ฟังเป็นเชิงปรับทุกข์ เจ้าของร้านก็ออกความเห็นทำนองว่าเด็กช่วงวัยสิบกว่าปีน่ะเป็นวัยที่คิดมากเรื่องรูปร่างหน้าตาตัวเอง ว่าคนอื่นจะมองตัวเองอย่างไร และในกรณีของยัยบู่คนนี้นั้นอาจเป็นไปได้ว่ามีผู้ชายสักคนหรือหลายๆ คนทำอะไรสักอย่างเป็นการตอกย้ำปมด้อยนั้นอย่างแรง ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นคนเกลียดผู้ชายไป นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าอาจถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่หน้าตาดีกว่าอยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นปมฝังใจไปเช่นกัน
- ได้ยินแบบนั้น พระเอกก็เลยเริ่มนึกเห็นใจยัยบู่ขึ้นมาบ้าง และรู้สึกว่าจะปล่อยให้กลายเป็นคนเกลียดทั้งตัวเองเกลียดทั้งผู้ชายคนอื่นดะไปทั่วแบบนี้ (บวกกับไม่ชอบให้ใครมาเที่ยวชี้นิ้วด่าว่าเป็นคนอย่างโน้นอย่างนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นด้วย)
- ด้วยเหตุนี้หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง พระเอกเลยเรียกตัวยัยบู่ไว้ พร้อมประกาศเสียงกึกก้องจะทุบดัดสันดานให้ยัยบู่เอง
อ่านตอนนี้แล้วแอบคิดแฮะ ว่าประเด็นในเรื่องคั่นฉากช่วงหลังๆ มานี้แอบเฉยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจยังไงไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเขียนต้องให้ตัวเอกเสนอหน้าไปหาเหาใส่หัวกับเรื่องคนอื่นแทนที่จะไปเคลียร์ประเด็นชีวิตตัวเองให้จบๆ ยิ่งไม่นับว่าทำไปก็โปรดสัตว์ได้บาปเปล่าๆ อีก (จะว่าผมไม่มีน้ำใจก็ยอมละ เจอหน้ากันแล้วโดนด่าใส่ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้ติดกันสามครั้ง (แถมเราพยายามพูดดีด้วย) นี่ เป็นผมคงเลิกเสนอหน้าไปยุ่งแล้วปล่อยให้เน่าตายไปเลย)
รอดูตอนหน้าละครับว่าผลของการทำตัวเป็นเสือใส่รองเท้าของพระเอกครั้งนี้จะเป็นอีท่าไหน
[Spoil] Domestic na Kanojo #120
- ต่อจากตอน 119.5 ที่พระเอกกับคนน้องทำกิจกรรมเข้าจังหวะด้วยกันรอบสองเพื่อปลอบใจคนน้องจากความเหงาที่ไม่ได้เจอกันเพราะพระเอกยุ่งตลอดเวลา
- ผลของกิจกรรมเข้าจังหวะในคืนนั้น...พระเอกตื่นมาตอนเช้าก็โดนพ่อลากคอไปแอบคุยกันอย่างลูกผู้ชายสองต่อสองว่า "จะเปิด AV ดูก็เกรงใจผู้หญิงในบ้านหน่อย" เล่นเอาพระเอกใจหายแว้บเพราะนึกว่าความแตกแล้ว
- เย็นนั้นพระเอกก็ไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาตามปกติ งวดนี้คนน้องทำแซนด์วิชกับคุ้กกี้อวยพรไปให้เป็นของว่างระหว่างพักด้วย เล่นเอาพระเอกแทบฟินตัวแตกกับชีวิตดี๊ดีมีแฟนให้อ้อนของตัวเอง
- ระหว่างกินๆ ข้าวอยู่ พระเอกก็หันไปเห็นยัยบู่โรงเรียนกวดวิชาเดียวกันกำลังนั่งท่องหนังสือพลางกินข้าวพลางอยู่คนเดียว ไม่เข้าไปร่วมกับนักเรียนกลุ่มอื่นที่นั่งจับกลุ่มกินข้าวคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่เลย
- เห็นแบบนั้น พระเอกก็นึกอยากผูกมิตรกับอีกฝ่ายขึ้นมา เลยเข้าไปจะช่วยสอนจุดที่ยัยบู่ไม่เข้าใจให้
- ปรากฏว่าแทนที่ยัยบู่จะยอมพูดดีด้วยที่เห็นพระเอกมีน้ำใจ กลับด่าส่งใส่ตามเคย หาว่าพระเอกทำดีเอาหน้าแต่ในใจนึกดูถูกตัวเองอยู่ แล้วสำทับทิ้งท้ายว่าผู้ชายมันก็คบหญิงที่หน้าตากันทั้งนั้นแหละ (ฟังจากคำพูดตอนนี้จะเห็นได้ชัดว่ายัยบู่คนนี้ไม่ใช่แค่ไม่สนใจเฉยๆ แล้ว แต่แสดงอาการว่า "เกลียดผู้ชายเข้ากระดูกดำ" เต็มที่เลย)
- โดนด่างวดนี้ทำเอาพระเอกช็อค ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจแท้ๆ ไหงโดนด่าเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ เลิกเรียนกลับถึงบ้านแล้วก็นั่งเหม่อตลอดจนคนน้องออกปากทักว่าเป็นอะไรไป พระเอกเลยสะดุ้งตื่นจากภวังค์ หันขวับไปถามคนน้องแบบปุบปับว่าตัวเองเป็นคนมองผู้หญิงแต่หน้าตาจริงรึเปล่า
- คนน้องงง แต่ก็ตอบไปว่าตัวเองไม่คิดว่าพระเอกเป็นคนอย่างนั้นนะ ทำเอาพระเอกซึ้งสุดขีดหลุดปากพรรณนาความรักของตัวเองที่มีต่อคนน้อง (ประมาณไม่ได้รักกันที่หน้าตา แต่รักทุกอย่างที่เป็นคนน้อง) เล่นเอาคนน้องถึงกับเขินจนลงไปกองคาโซฟาไปเลย
- วันรุ่งขึ้น พระเอกก็แวะไปซดกาแฟที่ร้านของเจ้าของร้านกะเทยควายยากูซ่า แล้วเล่าเรื่องยัยบู่ที่เรียนพิเศษให้ฟังเป็นเชิงปรับทุกข์ เจ้าของร้านก็ออกความเห็นทำนองว่าเด็กช่วงวัยสิบกว่าปีน่ะเป็นวัยที่คิดมากเรื่องรูปร่างหน้าตาตัวเอง ว่าคนอื่นจะมองตัวเองอย่างไร และในกรณีของยัยบู่คนนี้นั้นอาจเป็นไปได้ว่ามีผู้ชายสักคนหรือหลายๆ คนทำอะไรสักอย่างเป็นการตอกย้ำปมด้อยนั้นอย่างแรง ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นคนเกลียดผู้ชายไป นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าอาจถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่หน้าตาดีกว่าอยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นปมฝังใจไปเช่นกัน
- ได้ยินแบบนั้น พระเอกก็เลยเริ่มนึกเห็นใจยัยบู่ขึ้นมาบ้าง และรู้สึกว่าจะปล่อยให้กลายเป็นคนเกลียดทั้งตัวเองเกลียดทั้งผู้ชายคนอื่นดะไปทั่วแบบนี้ (บวกกับไม่ชอบให้ใครมาเที่ยวชี้นิ้วด่าว่าเป็นคนอย่างโน้นอย่างนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นด้วย)
- ด้วยเหตุนี้หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง พระเอกเลยเรียกตัวยัยบู่ไว้ พร้อมประกาศเสียงกึกก้องจะทุบดัดสันดานให้ยัยบู่เอง
อ่านตอนนี้แล้วแอบคิดแฮะ ว่าประเด็นในเรื่องคั่นฉากช่วงหลังๆ มานี้แอบเฉยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจยังไงไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเขียนต้องให้ตัวเอกเสนอหน้าไปหาเหาใส่หัวกับเรื่องคนอื่นแทนที่จะไปเคลียร์ประเด็นชีวิตตัวเองให้จบๆ ยิ่งไม่นับว่าทำไปก็โปรดสัตว์ได้บาปเปล่าๆ อีก (จะว่าผมไม่มีน้ำใจก็ยอมละ เจอหน้ากันแล้วโดนด่าใส่ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้ติดกันสามครั้ง (แถมเราพยายามพูดดีด้วย) นี่ เป็นผมคงเลิกเสนอหน้าไปยุ่งแล้วปล่อยให้เน่าตายไปเลย)
รอดูตอนหน้าละครับว่าผลของการทำตัวเป็นเสือใส่รองเท้าของพระเอกครั้งนี้จะเป็นอีท่าไหน