เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะไม่มีภาพปกขึ้นหน้า
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่อยู่ๆ มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักแต่ท่าทางเอาเรื่องมาบอกให้เลิกมายุ่งกับพ่อตัวเอง
- เด็กคนนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อ
"มิกิโมโตะ ฮิบิกิ" เป็นลูกสาวคนปัจจุบันของ
"มิกิโมโตะ โจ" พ่อของคนน้อง (อ่านจากตรงนี้พอจะสรุปได้ว่าแม่ของคนพี่คนน้องพอแยกทางกับพ่อก็เลิกใช้นามสกุลพ่อมาใช้นามสกุลเดิมตัวเอง ทั้งคนพี่คนน้องเลยเปลี่ยนมาใช้ตามแม่ ไม่ได้ใช้นามสกุลตามพ่อ)
- ปรากฏว่าแทนที่คนน้องจะตกใจหรือแสดงอาการหวั่นไหว กลับแค่แค่นเสียงเบาๆ อย่างประหลาดใจคำเดียว ฝ่ายอีหนูเห็นคนน้องไม่สนใจก็โมโหทำท่าจะแว้ดขึ้นมา แต่โดนคนน้องเบ่งพลังข่มจนเป็นฝ่ายถอยกรูดซะเอง
- พระเอกเห็นท่าไม่ดีเลยพยายามปรามๆ ให้ต่างฝ่ายต่างใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน อีหนูเลยหันมาแว้ดใส่พระเอกอีกคนว่าเป็นคนนอกมายุ่งอะไรด้วย พระเอกก็อธิบายว่าตัวเองเป็นญาติกับคนน้องต่างหากล่ะ
- จังหวะนั้นเองที่อีหนูเกิดจำได้ว่าพระเอกเป็นคนเดียวกับที่เคยเจอกันตอนไปไหว้พระปีใหม่ (ในตอน 67) แต่พระเอกกลับลืมอีหนูซะสนิท (เอาตรงๆ นะ...ขนาดคนอ่านยังลืมเลย
) ทำเอาอีหนูเสียเซลฟ์ยกสองไปเลย ต้องกระตุ้นความทรงจำกันอยู่หลายช่องกว่าพระเอกจะจำได้ว่าอีหนูเป็นใคร พระเอกก็ร้องลั่นว่ายัยเด็กจอมต้มตุ๋นที่หลอกว่าจะให้ยืมมือถือคนนั้นน่ะเอง
- โดนพระเอกเรียกแบบนั้นอีหนูก็ปรี๊ดแตก ทำท่าจะแว้ดใส่อีกรอบ แต่ยังไม่ทันได้แว้ด พ่อของคนน้องก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาเสียก่อน อีหนูเลยหันไปแว้ดเอากับคนพ่อแทนว่านี่มันหมายความว่ายังไง ไหนว่าตัดขาดกับครอบครัวเก่าไปแล้วไง ฝ่ายตาพ่อโดนจับได้คาหนังคาเขาแบบนั้นก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เลยบึ่งแมงกะไซหนีไปดื้อๆ เลย คนน้องเห็นดังนั้นก็บอกว่าจะไปถามให้รู้เรื่องว่ามันเรื่องอะไรกัน ว่าจบก็วิ่งตามมอเตอร์ไซค์พ่อไป ทิ้งให้พระเอกกับอีหนูยืนเอ๋ออยู่ข้างหลัง
ภาพอีหนูฮิบิกิเกือบเต็มตัว
- สุดท้ายพอไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยชวนกันเข้าไปรอในร้าน ระหว่างอยู่ในร้านอีหนูก็แสดงอาการไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังที่เห็นพ่อยังคงติดต่อกับลูกสาวที่เกิดกับภรรยาคนก่อนทั้งที่เคยบอกว่าตัดขาดกันไปแล้ว แถมยังถึงขั้นให้มากินนอนอยู่ที่ร้านอีก
- ฝ่ายพระเอกเห็นอีหนูไม่พอใจขนาดนั้นก็คุกเข่าก้มหัวขอร้องให้ยอมให้คนน้องอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ พร้อมเล่าให้อีหนูฟังว่าคนน้องแค่มาขออยู่ด้วยเพราะอยากเรียนรู้เรื่องการทำอาหารจากพ่อ อยากทำอาหารให้ได้เหมือนพ่อเท่านั้น ไม่ได้คิดจะมาก่อความเดือดร้อนให้อีหนูกับแม่เลย
- เห็นพระเอกก้มหัวขอร้องแบบนี้ อีหนูก็อึกอักเหมือนลำบากใจ แต่ก็ทำใจแข็งพูดต่อว่าถึงปากคนน้องจะบอกแบบนั้น แต่ที่จริงอาจแค่ใช้เรื่องเรียนทำอาหารเป็นข้ออ้างมาอยู่กับพ่อก็ได้นี่นา แถมยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นลูกเมียเก่าที่ตัดขาดไปแล้ว แต่กลับมาหาเรื่องเข้าใกล้พ่อทั้งที่ตัวพ่อก็มีครอบครัวใหม่เป็นตัวเป็นตนแล้ว แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับหาเรื่องสร้างความร้าวฉานในครอบครัวคนอื่นเลยไม่ใช่เหรอ แถมยังพูดจาดูถูกว่าที่ว่าความฝันอะไรนั่นก็แค่ข้ออ้างมากกว่ามั้ง
- ได้ยินอีหนูว่าคนน้องขนาดนี้ พระเอกก็ทนไม่ไหว ขยับตัวลุกขึ้นตะคอกใส่หน้าอีหนูว่าอย่าเที่ยวมาว่าความฝันคนอื่นแบบนั้นนะ
- แต่ดันลุกเร็วไปหน่อย แถมยังกะตำแหน่งลุกผิดอีกต่างหาก เพราะงั้นแทนที่จะกลายเป็นตะโกนใส่หน้า เลยกลายเป็นตะโกนใส่ใต้กระโปรงของอีหนูไปแทน (เผยให้เห็นว่าอีหนูใส่ถุงน่องติดการ์เตอร์เบลต์แบบผู้ใหญ่สุดกู่ซะด้วย) เลยยื้อกันไปยื้อกันมาจนขาพันกันไปชนหม้อซุปที่คนน้องเคี่ยวไว้แล้วทิ้งให้เย็นจนหกเลอะเต็มตัว
- จังหวะนั้นคนน้องที่ไล่ตามพ่อไปไม่ทันก็เหนื่อยกลับมาพอดี เลยเข้ามาเห็นภาพดังกล่าวเข้า...
- แต่คนน้องมีเหตุผล เลยฟังคำอธิบายจากพระเอกกับอีหนูจนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เลยไล่ให้ทั้งสองคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อซะ ส่วนตัวเองจะจัดการทำความสะอาดครัวกับเตรียมน้ำซุปใหม่เอง
- ระหว่างอีหนูอาบน้ำส่วนพระเอกนั่งรออยู่ข้างนอกก็นั่งคุยพลางแขวะพลางกันต่อ โดยตรงนี้จะได้รู้ด้วยว่าอีหนูไม่ใช่เด็กม.ต้น แต่เป็นเด็กม.ปลายปี 2 แล้ว ห่างกับพระเอกแค่ปีเดียวเท่านั้น
- นอกจากนี้จะได้รู้ว่าที่อีหนูไปพูดแบบนั้นใส่คนน้องก็ไม่ใช่เพราะหวงพ่อ แต่เพราะอยากปกป้องแม่ต่างหาก เนื่องจากพ่อแท้ๆ ของอีหนูทิ้งแม่หนีไปกับกิ๊กที่อายุน้อยกว่า แม่ของอีหนูเลยจิตตก คิดแต่ว่าถ้าตัวเองสาวกว่านี้สวยกว่านี้เหมือนอย่างกิ๊กของพ่อ พ่อก็คงไม่หนีไปแบบนั้น เอาแต่จมอยู่กับเหล้าจนสภาพจิตใจตกต่ำขนาดหนัก จนกระทั่งได้มาเจอกับพ่อของคนน้อง สภาพจิตใจก็ดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ แต่ถึงอย่างนั้นพอได้ยินพ่อคนน้องพูดถึงครอบครัวเก่าทีไรก็จะออกอาการทุกทีเพราะกลัวว่าพ่อคนน้องจะกลับไปหาครอบครัวเก่า ดังนั้นตัวอีหนูจึงไม่อยากให้พ่อของคนน้องกลับไปยุ่งกับครอบครัวเก่าอีก เพราะถ้าแม่รู้เข้าอาจออกอาการจนครอบครัวที่เพิ่งค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิมต้องพังทลายอีกก็ได้
- พระเอกได้ยินแบบนั้นก็ค่อยลดทีท่าแข็งกร้าวลงบ้าง แต่ก็ยังอดพูดไม่ได้อยู่ดีว่าที่อีหนูพูดมานั่นไม่เอาแต่พวกตัวเองมากไปหน่อยเหรอ และถามอีหนูกลับว่า ถ้าสมมติว่าพ่อแท้ๆ ของอีหนูไปมีครอบครัวใหม่ แล้วอีหนูได้ไปเจอพ่อตัวเองโดยบังเอิญ แล้วลูกของครอบครัวใหม่พ่อมาชี้นิ้วบอกว่า
"นี่พ่อชั้น หล่อนอย่ายุ่ง" บ้าง อีหนูจะรู้สึกยังไง
- เจอพระเอกพูดเข้าแบบนี้ อีหนูก็ได้แต่เงียบเถียงอะไรไม่ออก เพราะสำนึกว่าตัวเองก็พูดจาแรงไปจริงๆ พระเอกก็บอกกับอีหนูว่าคนน้องน่ะไม่ได้คิดจะมาทำลายครอบครัวของอีหนูหรอกนะ
- คุยได้พักนึง อีหนูก็ทำท่าจะอาบน้ำเสร็จ เลยขอ (แกมสั่ง) ให้พระเอกหยิบผ้าเช็ดตัวให้ พระเอกก็หยิบให้ แต่ดันกลายเป็นผ้าผืนจิ๋วเดียวเพราะไม่ทันดู อีหนูเลยร้องดังลั่นจนพระเอกเข้าใจผิดนึกว่ามีอะไร เลยเปิดพรวดเข้าไปในห้องน้ำ กลายเป็นฉากเซอร์วิสอีกรอบ พระเอกเลยโดนซัดเอาอีกรอบเช่นกัน
- ระหว่างนั้นคนน้องก็เข้ามาเห็นอีกรอบพอดี แน่นอนคนน้องก็มีเหตุผลเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (อีกแล้ว) เลยไม่ได้ว่าอะไรพระเอก กลับหันไปคุยกับอีหนูต่อเฉย
อันนี้ไม่มีอะไร เห็นคนน้องโพสท่าน่ารักเลยเอามาลงเฉยๆ
- คนน้องขอโทษอีหนูที่ทำให้กังวลเรื่องครอบครัวอาจพังทลายได้ และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตัวเองมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากพบพ่อ แค่มารับการสั่งสอนในฐานะศิษย์อาจารย์จากพ่อเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องครอบครัวฝั่งนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว และบอกต่อว่าซุปที่อีหนูกับพระเอกทำหกนั้นเป็นของที่คนน้องฝึกทำตอนฝึกเมื่อเช้านี้ ดังนั้นขออยู่ที่นี่เพื่อการนั้นได้มั้ย
- เจอคนน้องแสดงทีท่าเป็นผู้ใหญ่ให้เห็นอย่างชัดเจนแบบนั้น อีหนูก็พูดอะไรไม่ออก นอกจากยอมรับแต่โดยดีเท่านั้น
- หลังจากนั้นพระเอกก็กลับมาบ้านตัวเอง กลับมาถึงก็เจอพ่อนั่งรออยู่แล้ว พ่อก็ถามว่าวันนี้กลับช้าจังนะ พระเอกก็บอกตามตรงว่าไปหาคนน้องมา
- ได้ยินดังนั้น พ่อพระเอกก็ทำท่าตกใจที่พระเอกรู้ว่าคนน้องอยู่ไหน ก่อนจะลุกพรวดขึ้นบอกพระเอกว่าให้ช่วยพาพ่อไปหาคนน้องที
อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงกระทู้ห้องปัญหาชีวิตที่เพิ่งอ่านมาหยกๆ เรื่องผู้หญิงคนนึงมาเล่าเรื่องสามียังรักแฟนเก่าอยู่ยังไงชอบกลแฮะ เพราะเรื่องมีส่วนคล้ายกันอยู่นิดหน่อยในเรื่องความกังวลของคนปัจจุบันที่มีต่อความรักที่แฟนตัวเองมีให้คนเก่า จนกลายเป็นความกลัว ความน้อยใจ ความแปลกแยกที่ไม่มีวันเหมือนเดิมไป
เห็นแบบนี้แล้วมีความรู้สึกว่าระเบิดลูกสำคัญในตอนนี้ก็คือแม่ๆ ของทั้งสองฝั่งนี่แหละ ฝั่งนึงก็กลัวผัวโดนแย่งกลับไป อีกฝั่งก็เกลียดผัวหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มียอมให้ไปเกี่ยวข้องด้วย (ขนาดไล่ลูกออกจากบ้านเลย)
รอดูละครับว่าพ่อพระเอกจะปลดสลักระเบิดยังไงให้ระเบิดไม่ตูมตามขึ้นมาจนเจ็บไปตามๆ กัน
[Spoil] Domestic na Kanojo #88 - ครอบครัวใหม่ของพ่อ
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่อยู่ๆ มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักแต่ท่าทางเอาเรื่องมาบอกให้เลิกมายุ่งกับพ่อตัวเอง
- เด็กคนนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อ "มิกิโมโตะ ฮิบิกิ" เป็นลูกสาวคนปัจจุบันของ "มิกิโมโตะ โจ" พ่อของคนน้อง (อ่านจากตรงนี้พอจะสรุปได้ว่าแม่ของคนพี่คนน้องพอแยกทางกับพ่อก็เลิกใช้นามสกุลพ่อมาใช้นามสกุลเดิมตัวเอง ทั้งคนพี่คนน้องเลยเปลี่ยนมาใช้ตามแม่ ไม่ได้ใช้นามสกุลตามพ่อ)
- ปรากฏว่าแทนที่คนน้องจะตกใจหรือแสดงอาการหวั่นไหว กลับแค่แค่นเสียงเบาๆ อย่างประหลาดใจคำเดียว ฝ่ายอีหนูเห็นคนน้องไม่สนใจก็โมโหทำท่าจะแว้ดขึ้นมา แต่โดนคนน้องเบ่งพลังข่มจนเป็นฝ่ายถอยกรูดซะเอง
- พระเอกเห็นท่าไม่ดีเลยพยายามปรามๆ ให้ต่างฝ่ายต่างใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน อีหนูเลยหันมาแว้ดใส่พระเอกอีกคนว่าเป็นคนนอกมายุ่งอะไรด้วย พระเอกก็อธิบายว่าตัวเองเป็นญาติกับคนน้องต่างหากล่ะ
- จังหวะนั้นเองที่อีหนูเกิดจำได้ว่าพระเอกเป็นคนเดียวกับที่เคยเจอกันตอนไปไหว้พระปีใหม่ (ในตอน 67) แต่พระเอกกลับลืมอีหนูซะสนิท (เอาตรงๆ นะ...ขนาดคนอ่านยังลืมเลย ) ทำเอาอีหนูเสียเซลฟ์ยกสองไปเลย ต้องกระตุ้นความทรงจำกันอยู่หลายช่องกว่าพระเอกจะจำได้ว่าอีหนูเป็นใคร พระเอกก็ร้องลั่นว่ายัยเด็กจอมต้มตุ๋นที่หลอกว่าจะให้ยืมมือถือคนนั้นน่ะเอง
- โดนพระเอกเรียกแบบนั้นอีหนูก็ปรี๊ดแตก ทำท่าจะแว้ดใส่อีกรอบ แต่ยังไม่ทันได้แว้ด พ่อของคนน้องก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาเสียก่อน อีหนูเลยหันไปแว้ดเอากับคนพ่อแทนว่านี่มันหมายความว่ายังไง ไหนว่าตัดขาดกับครอบครัวเก่าไปแล้วไง ฝ่ายตาพ่อโดนจับได้คาหนังคาเขาแบบนั้นก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เลยบึ่งแมงกะไซหนีไปดื้อๆ เลย คนน้องเห็นดังนั้นก็บอกว่าจะไปถามให้รู้เรื่องว่ามันเรื่องอะไรกัน ว่าจบก็วิ่งตามมอเตอร์ไซค์พ่อไป ทิ้งให้พระเอกกับอีหนูยืนเอ๋ออยู่ข้างหลัง
ภาพอีหนูฮิบิกิเกือบเต็มตัว
- สุดท้ายพอไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยชวนกันเข้าไปรอในร้าน ระหว่างอยู่ในร้านอีหนูก็แสดงอาการไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังที่เห็นพ่อยังคงติดต่อกับลูกสาวที่เกิดกับภรรยาคนก่อนทั้งที่เคยบอกว่าตัดขาดกันไปแล้ว แถมยังถึงขั้นให้มากินนอนอยู่ที่ร้านอีก
- ฝ่ายพระเอกเห็นอีหนูไม่พอใจขนาดนั้นก็คุกเข่าก้มหัวขอร้องให้ยอมให้คนน้องอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ พร้อมเล่าให้อีหนูฟังว่าคนน้องแค่มาขออยู่ด้วยเพราะอยากเรียนรู้เรื่องการทำอาหารจากพ่อ อยากทำอาหารให้ได้เหมือนพ่อเท่านั้น ไม่ได้คิดจะมาก่อความเดือดร้อนให้อีหนูกับแม่เลย
- เห็นพระเอกก้มหัวขอร้องแบบนี้ อีหนูก็อึกอักเหมือนลำบากใจ แต่ก็ทำใจแข็งพูดต่อว่าถึงปากคนน้องจะบอกแบบนั้น แต่ที่จริงอาจแค่ใช้เรื่องเรียนทำอาหารเป็นข้ออ้างมาอยู่กับพ่อก็ได้นี่นา แถมยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นลูกเมียเก่าที่ตัดขาดไปแล้ว แต่กลับมาหาเรื่องเข้าใกล้พ่อทั้งที่ตัวพ่อก็มีครอบครัวใหม่เป็นตัวเป็นตนแล้ว แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับหาเรื่องสร้างความร้าวฉานในครอบครัวคนอื่นเลยไม่ใช่เหรอ แถมยังพูดจาดูถูกว่าที่ว่าความฝันอะไรนั่นก็แค่ข้ออ้างมากกว่ามั้ง
- ได้ยินอีหนูว่าคนน้องขนาดนี้ พระเอกก็ทนไม่ไหว ขยับตัวลุกขึ้นตะคอกใส่หน้าอีหนูว่าอย่าเที่ยวมาว่าความฝันคนอื่นแบบนั้นนะ
- แต่ดันลุกเร็วไปหน่อย แถมยังกะตำแหน่งลุกผิดอีกต่างหาก เพราะงั้นแทนที่จะกลายเป็นตะโกนใส่หน้า เลยกลายเป็นตะโกนใส่ใต้กระโปรงของอีหนูไปแทน (เผยให้เห็นว่าอีหนูใส่ถุงน่องติดการ์เตอร์เบลต์แบบผู้ใหญ่สุดกู่ซะด้วย) เลยยื้อกันไปยื้อกันมาจนขาพันกันไปชนหม้อซุปที่คนน้องเคี่ยวไว้แล้วทิ้งให้เย็นจนหกเลอะเต็มตัว
- จังหวะนั้นคนน้องที่ไล่ตามพ่อไปไม่ทันก็เหนื่อยกลับมาพอดี เลยเข้ามาเห็นภาพดังกล่าวเข้า...
- แต่คนน้องมีเหตุผล เลยฟังคำอธิบายจากพระเอกกับอีหนูจนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เลยไล่ให้ทั้งสองคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อซะ ส่วนตัวเองจะจัดการทำความสะอาดครัวกับเตรียมน้ำซุปใหม่เอง
- ระหว่างอีหนูอาบน้ำส่วนพระเอกนั่งรออยู่ข้างนอกก็นั่งคุยพลางแขวะพลางกันต่อ โดยตรงนี้จะได้รู้ด้วยว่าอีหนูไม่ใช่เด็กม.ต้น แต่เป็นเด็กม.ปลายปี 2 แล้ว ห่างกับพระเอกแค่ปีเดียวเท่านั้น
- นอกจากนี้จะได้รู้ว่าที่อีหนูไปพูดแบบนั้นใส่คนน้องก็ไม่ใช่เพราะหวงพ่อ แต่เพราะอยากปกป้องแม่ต่างหาก เนื่องจากพ่อแท้ๆ ของอีหนูทิ้งแม่หนีไปกับกิ๊กที่อายุน้อยกว่า แม่ของอีหนูเลยจิตตก คิดแต่ว่าถ้าตัวเองสาวกว่านี้สวยกว่านี้เหมือนอย่างกิ๊กของพ่อ พ่อก็คงไม่หนีไปแบบนั้น เอาแต่จมอยู่กับเหล้าจนสภาพจิตใจตกต่ำขนาดหนัก จนกระทั่งได้มาเจอกับพ่อของคนน้อง สภาพจิตใจก็ดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ แต่ถึงอย่างนั้นพอได้ยินพ่อคนน้องพูดถึงครอบครัวเก่าทีไรก็จะออกอาการทุกทีเพราะกลัวว่าพ่อคนน้องจะกลับไปหาครอบครัวเก่า ดังนั้นตัวอีหนูจึงไม่อยากให้พ่อของคนน้องกลับไปยุ่งกับครอบครัวเก่าอีก เพราะถ้าแม่รู้เข้าอาจออกอาการจนครอบครัวที่เพิ่งค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิมต้องพังทลายอีกก็ได้
- พระเอกได้ยินแบบนั้นก็ค่อยลดทีท่าแข็งกร้าวลงบ้าง แต่ก็ยังอดพูดไม่ได้อยู่ดีว่าที่อีหนูพูดมานั่นไม่เอาแต่พวกตัวเองมากไปหน่อยเหรอ และถามอีหนูกลับว่า ถ้าสมมติว่าพ่อแท้ๆ ของอีหนูไปมีครอบครัวใหม่ แล้วอีหนูได้ไปเจอพ่อตัวเองโดยบังเอิญ แล้วลูกของครอบครัวใหม่พ่อมาชี้นิ้วบอกว่า "นี่พ่อชั้น หล่อนอย่ายุ่ง" บ้าง อีหนูจะรู้สึกยังไง
- เจอพระเอกพูดเข้าแบบนี้ อีหนูก็ได้แต่เงียบเถียงอะไรไม่ออก เพราะสำนึกว่าตัวเองก็พูดจาแรงไปจริงๆ พระเอกก็บอกกับอีหนูว่าคนน้องน่ะไม่ได้คิดจะมาทำลายครอบครัวของอีหนูหรอกนะ
- คุยได้พักนึง อีหนูก็ทำท่าจะอาบน้ำเสร็จ เลยขอ (แกมสั่ง) ให้พระเอกหยิบผ้าเช็ดตัวให้ พระเอกก็หยิบให้ แต่ดันกลายเป็นผ้าผืนจิ๋วเดียวเพราะไม่ทันดู อีหนูเลยร้องดังลั่นจนพระเอกเข้าใจผิดนึกว่ามีอะไร เลยเปิดพรวดเข้าไปในห้องน้ำ กลายเป็นฉากเซอร์วิสอีกรอบ พระเอกเลยโดนซัดเอาอีกรอบเช่นกัน
- ระหว่างนั้นคนน้องก็เข้ามาเห็นอีกรอบพอดี แน่นอนคนน้องก็มีเหตุผลเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (อีกแล้ว) เลยไม่ได้ว่าอะไรพระเอก กลับหันไปคุยกับอีหนูต่อเฉย
อันนี้ไม่มีอะไร เห็นคนน้องโพสท่าน่ารักเลยเอามาลงเฉยๆ
- คนน้องขอโทษอีหนูที่ทำให้กังวลเรื่องครอบครัวอาจพังทลายได้ และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตัวเองมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากพบพ่อ แค่มารับการสั่งสอนในฐานะศิษย์อาจารย์จากพ่อเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องครอบครัวฝั่งนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว และบอกต่อว่าซุปที่อีหนูกับพระเอกทำหกนั้นเป็นของที่คนน้องฝึกทำตอนฝึกเมื่อเช้านี้ ดังนั้นขออยู่ที่นี่เพื่อการนั้นได้มั้ย
- เจอคนน้องแสดงทีท่าเป็นผู้ใหญ่ให้เห็นอย่างชัดเจนแบบนั้น อีหนูก็พูดอะไรไม่ออก นอกจากยอมรับแต่โดยดีเท่านั้น
- หลังจากนั้นพระเอกก็กลับมาบ้านตัวเอง กลับมาถึงก็เจอพ่อนั่งรออยู่แล้ว พ่อก็ถามว่าวันนี้กลับช้าจังนะ พระเอกก็บอกตามตรงว่าไปหาคนน้องมา
- ได้ยินดังนั้น พ่อพระเอกก็ทำท่าตกใจที่พระเอกรู้ว่าคนน้องอยู่ไหน ก่อนจะลุกพรวดขึ้นบอกพระเอกว่าให้ช่วยพาพ่อไปหาคนน้องที
อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงกระทู้ห้องปัญหาชีวิตที่เพิ่งอ่านมาหยกๆ เรื่องผู้หญิงคนนึงมาเล่าเรื่องสามียังรักแฟนเก่าอยู่ยังไงชอบกลแฮะ เพราะเรื่องมีส่วนคล้ายกันอยู่นิดหน่อยในเรื่องความกังวลของคนปัจจุบันที่มีต่อความรักที่แฟนตัวเองมีให้คนเก่า จนกลายเป็นความกลัว ความน้อยใจ ความแปลกแยกที่ไม่มีวันเหมือนเดิมไป
เห็นแบบนี้แล้วมีความรู้สึกว่าระเบิดลูกสำคัญในตอนนี้ก็คือแม่ๆ ของทั้งสองฝั่งนี่แหละ ฝั่งนึงก็กลัวผัวโดนแย่งกลับไป อีกฝั่งก็เกลียดผัวหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มียอมให้ไปเกี่ยวข้องด้วย (ขนาดไล่ลูกออกจากบ้านเลย)
รอดูละครับว่าพ่อพระเอกจะปลดสลักระเบิดยังไงให้ระเบิดไม่ตูมตามขึ้นมาจนเจ็บไปตามๆ กัน