กระทู้ที่เขียนในตอนนี้จะเป็นเรื่องราวการเดินทางในวันที่ 3 ที่ผมเดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และวันที่ 4 เป็นการเที่ยวเมืองพุกามเต็มวันเป็นวันแรกตั้งแต่เช้าจรดเย็นย่ำจนพระอาทิตย์ลาลับจากขอบฟ้า โดยเที่ยวดะแวะไปเรื่อย ๆ ตามสไตล์คนชอบดูของเก่าอย่างผม ตะลุยดูโบราณสถานในย่านนยองอูและทางตอนใต้ของเมืองพุกาม ซึ่งโบราณสถานที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองพุกามนี้จะไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมกันมากนัก อาจเพราะอยู่ห่างไกลจากย่าน Old Bagan และโรงแรมที่พักมาก แต่ผมกลับชื่นชอบโบราณสถานในกลุ่มนี้มากที่สุดนะครับเพราะให้อารมณ์ดิบ ๆ ยังคงเป็นสภาพเดิมอยู่มาก และที่สำคัญผู้คนไม่พลุกพล่านให้รำคาญสายตาเราอีกด้วย โดยผมต้องลุยเดินหรือขี่รถฝ่าพงหญ้าและป่าละเมาะเข้าไปชมโบราณสถานกันเลยนะครับ เรียกว่าเห็นเจดีย์หรือวิหารเก่า ๆ เป็นไม่ได้ต้องแวะดูเกือบทุกที่ไป ถ้าใครชอบเที่ยวสไตล์ลุย ๆ ไปดูโบราณสถานที่เขาปล่อยทิ้งร้างให้เปลี่ยวเหงาและผู้คนมักมองข้ามก็แสดงว่าคุณมาถูกกระทู้แล้วนะครับ เพราะผมจะเปิดเผยให้เห็นโบราณสถานในเมืองพุกามหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกันหรือเพื่อน ๆ ชาวพันทิปไม่เคยลงในห้องบลูแพลนเนตให้ชมอย่างจุใจเลยนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับทริปของผมก่อนนะครับ
สำหรับทริปการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองพิลอูลวินและเมืองพุกาม 9 วัน (วันที่ 19 - 27 ต.ค. 59) ของผมมีดังนี้ครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ และเดินทางต่อไปเมืองพิลอูลวิน เที่ยวยามเย็นที่เมืองพิลอูลวิน
วันที่ 2 : เที่ยวพิลอูลวิน
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันที่ 4 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านนยองอู และทางตอนใต้ของเมืองพุกาม
วันที่ 5 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านเมืองเก่าพุกาม (Old Bagan)
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันที่ 7 : เที่ยวภูเขาไฟโปปา และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานที่เหลือในเมืองพุกาม
วันที่ 8 : เดินทางจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานในเมืองสกาย
วันที่ 9 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันนี้ผมตื่นสายหน่อยครับเพราะภารกิจเราก็แค่เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวิน และนั่งรถไปเที่ยวต่อที่เมืองพุกามอีก 5 วัน ผมจองตั๋วรถตู้ของบริษัท OK Expess ไว้กับโรงแรมที่พักตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าแล้ว ให้ทางโรงแรมช่วยติดต่อจองที่นั่งของรถตู้บริษัทนี้ให้ทีในรอบเช้าของวันนี้ ซึ่งรถตู้บริษัทนี้จะสะดวกตรงที่เขามารับเราที่โรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวินและส่งเราไปถึงโรงแรมที่พักในเมืองพุกามเลย ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถหลายต่อจ้างไปส่งโรงแรมที่พัก และรถตู้ของบริษัท OK Expess ก็สะดวกต่อการเดินทางของผมมากเพราะผมเป็นคนไม่ชอบนั่งรถนาน ๆ ไปเที่ยวหรือต้องจอดแวะเปลี่ยนรถขึ้นลงรถหลายเที่ยว เพราะรถที่ผมนั่งไปนี้จะวิ่งตรงจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกามเลย ไม่เข้าไปสถานีขนส่งเมืองมัณฑะเลย์ ผมจ่ายเงินค่าตั๋วรถครั้งนี้ไปเป็นเงิน 13,000 จ๊าต หรือ 390 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากเพราะรถวิ่งไปต้อง 220 ก.ม. กว่าจะถึงเมืองพุกาม
ไปดูโฉมหน้ารถตู้คันที่ผมนั่งจากโรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวินไปยังโรงแรมที่พักในเมืองพุกามกันครับ ภาพนี้ผมถ่ายตอนรถมาจอดที่หน้าโรงแรมเพื่อรอผมขึ้นรถ กับภาพตั๋วจองรถของบริษัท OK Expess
ไม่รู้เป็นดวงสมพงษ์ของผมกับรถคันนี้ของบริษัท OK Expess หรืออย่างไรเพราะตอนที่นั่งรถจากเมืองพิลอูลวินไปพุกาม และตอนกลับจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ ผมกลับได้นั่งรถคันเดิม เด็กรถคนเดิม (คนที่ใส่เสื้อลายสก็อตสีขาวดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดติดกับคนขับรถตามภาพข้างล่าง) จำผมได้ก็เข้ามาทักทายพูดคุยและหัวเราะอย่างคุ้นเคยว่าดวงเราสองคนต้องกันเลยต้องมาพบกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ
9 โมงเช้ารถตู้ของบริษัท OK Expess มารับผมที่โรงแรมรอยัลกรีนในเมืองพิลอูลวิน และแวะไปรับผู้โดยสารอีก 3 คนใน 2 จุด จุดแรกไปรับในซอยใกล้ ๆ กับโรงแรมที่ผมพักตามภาพข้างล่างนี้ เป็นผู้โดยสารชาวพม่า
ส่วนอีก 2 คนเป็นฝรั่ง 2 คนผัวเมียที่พักในโรงแรมออคิด นัน มยาเนียง (Orchicd Nan Myaning Hotel) สรุปแล้วรถคันนี้ผู้โดยสารเต็มคัน 19 ที่นั่ง สัมภาระเต็มจนต้องวางเป้กันบนพื้นรถแล้วเดินเหยียบเป้กันเข้าที่นั่งกันเลย และรถเที่ยวนี้วิ่งไกลถึงพุกาม จึงมีแม่ค้าชาวพม่าฝากดอกไม้เมืองหนาวและสินค้าที่ขายไปยังร้านค้าในเมืองพุกามด้วย ผู้โดยสารบนรถคันนี้เกือบทั้งหมดเป็นชาวพม่า จะมีก็แค่ 3 คนที่เป็นฝรั่ง ส่วนผมเป็นคนไทยคนเดียวบนรถคันนี้ครับ
เมื่อผู้โดยสารครบรถก็ออกเดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปยังเมืองพุกาม รถใช้เวลาวิ่ง 6 ชั่วโมงจึงจะมาถึงเมืองพุกาม โดยระหว่างทางก็จอดรับส่งผู้โดยสารและสิ่งของสัมภาระอยู่ตลอดตามรายทาง
วิวข้างทางที่รถวิ่งผ่านจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม ถ่ายภาพตอนรถเพิ่งลงจากเขาที่เมืองพิลอูลวินเข้าสู่เขตเมืองมัณฑะเลย์
รถวิ่งผ่านทางแยกเข้าสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ไปยังทางแยกที่จะไปเมืองพุกาม
รถวิ่งมาได้ครึ่งทางก็มาจอดแวะพักให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำและซื้อหาอาหารรับประทานที่จุดจอดรถ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางแยกของถนนสายย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ และเป็นจุดที่รถโดยสารต่าง ๆ ก็แวะมาจอดอยู่เสมอ
จุดจอดรถนี้มีแม่ค้ามาขายของกินต่าง ๆ จำพวกของทอดและขนมมากมาย พอมีรถโดยสารมาจอดริมถนนหรือที่หน้าร้านปุ๊บ แม่ค้าเขาก็รีบเดินมารุมล้อมที่รถกันเลยนะครับ ขนาดรถตู้ที่ผมนั่งมีหน้าต่างที่เป็นกระจกที่ปิดสนิท พี่แกยังอุตส่าห์เคาะกระจกเรียกลูกค้าให้ฝรั่งในรถที่ผมนั่งให้สนใจซื้อสินค้าของแกกันเลย เรียกว่าต่างเข้ามารุมกันเป็นแถวจริง ๆ
รถแวะพักให้คนขับและเด็กรถนั่งรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ส่วนผู้โดยสารอย่างเราจะร่วมวงรับประทานอาหารด้วยก็ได้นะครับ แต่เราต้องเสียเงินซื้อทานนะครับ รถจอดพักอยู่ที่นี่สัก 15 นาทีได้ก็ขับต่อไป ระหว่างทางก็มีผู้โดยสารชาวพม่าขึ้นลงตลอดเลยนะครับ จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงเมืองมยินจานก็เข้าไปจอดที่สถานีขนส่งภายในเมืองมยินจาน ซึ่งรถโดยสารทุกคันจะต้องแวะเข้าไปที่สถานีขนส่งนี้นะครับทั้งขาไปและขากลับ
สภาพภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจานที่ถนนเป็นทางดินเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่เต็มไปหมด แถมมีน้ำขังอยู่ในหลุมด้วย รถเข้าไปทีก็เป็นโคลนและแทะกันเลย
รถมาจอดหน้าบริษัท OK Expess ที่อยู่ภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจาน คนขับรถก็เข้าไปส่งเอกสารการเดินรถให้กับบริษัท ส่วนผู้โดยสารก็แยกย้ายกันลงไปนั่งพักที่นอกรถหรือเดินไปเข้าห้องน้ำที่มีบริการอยู่ด้านหลังของบริษัทกันครับ รถจอดที่นี่เพียง 10 นาทีก็ขับไปต่อยังเมืองพุกาม
ป้ายโฆษณาของบริษัท OK Expess ที่ให้บริการเดินรถระหว่างเมืองต่าง ๆ ของพม่า พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อในการสำรองที่นั่งรถในแต่ละเมือง
ตั้งโชว์อยู่หน้าบริษัทภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจาน
จากสถานีขนส่งเมืองมยินจาน รถก็วิ่งตรงไปยังเมืองพุกามโดยไม่จอดแวะที่ไหนอีกแล้วครับ พอรถวิ่งใกล้ถึงเมืองพุกามสภาพดินที่เห็นก็เริ่มกลายเป็นดินปนทรายที่ดูแห้งแล้งกว้างขวาง และมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไหลผ่านไปบรรจบกับแม่น้ำอิระวดีที่ไหลอยู่เบื้องหน้า
รถใช้เวลาวิ่งจากโรงแรมรอยัลกรีนในเมืองพิลอูลวินมาถึงโรงแรมอินวะโมเต็ลที่ผมพักในย่านนยองอูของเมืองพุกามก็ราว ๆ 6 ชั่วโมง มองดูเวลาตอนนี้ก็ 3 โมงเย็นกว่า ๆ แล้ว
ผมพักห้อง 312 ชั้น 3 ของโรงแรม และสภาพถนนหน้าโรงแรมที่พักในยามหัวค่ำ
ผมเช็คอินเข้าพักโรงแรมเสร็จก็บอกพนักงานให้จัดการหารถจักรยานไฟฟ้า (E-bike) ให้ผมเช่าขี่คันหนึ่งด้วย พนักงานแกก็ถามกลับว่าวันนี้เลยหรือเพราะนี่ก็ 3 โมงเย็นแล้ว ผมตอบตกลงเพราะต้องการไปดูพระอาทิตย์ตกที่เจดีย์สักแห่งในเมืองพุกาม จึงจ่ายค่าเช่ารถครึ่งวันเป็นเงิน 3,000 จ๊าต หรือ 90 บาท
รถจักรยานไฟฟ้า (E - bike) คันสีฟ้า คันแรกที่ใช้ขี่รถเที่ยวในเมืองพุกามยามเย็น
ที่นี่ถ้านักท่องเที่ยวไม่อยากขี่รถจักรยานไฟฟ้าก็สามารถจ้างรถแท๊กซี่พาเที่ยวได้แต่ราคาจะสูงหน่อยเป็นวันละพันนะครับ หรือถ้าชอบสไตล์วินเทจเข้ากับบรรยากาศทุ่งเจดีย์ 4 พันองค์ก็จะลองนั่งรถม้าดูก็ได้นะครับ ราคาก็จะซอฟ ๆ กว่ารถแท๊กซี่ลงมาหน่อย
เมื่อได้รถขี่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้แค่ 3 โมงครึ่งเองยังพอมีเวลาเที่ยวสัก 2 - 3 แห่งก่อนไปหาสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ผมเลือกขี่รถไปยังเจดีย์บูเลตี (ฺBuledi Pagoda) เป็นจุดหมายของวันนี้ที่ใช้เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดิน ระหว่างทางเห็นเจดีย์องค์เล็กองค์น้อยเรียงรายไปหมดจนอดใจไม่ไหวแวะดูสักหน่อยก่อนดีกว่า
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 3
กระทู้ที่เขียนในตอนนี้จะเป็นเรื่องราวการเดินทางในวันที่ 3 ที่ผมเดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และวันที่ 4 เป็นการเที่ยวเมืองพุกามเต็มวันเป็นวันแรกตั้งแต่เช้าจรดเย็นย่ำจนพระอาทิตย์ลาลับจากขอบฟ้า โดยเที่ยวดะแวะไปเรื่อย ๆ ตามสไตล์คนชอบดูของเก่าอย่างผม ตะลุยดูโบราณสถานในย่านนยองอูและทางตอนใต้ของเมืองพุกาม ซึ่งโบราณสถานที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองพุกามนี้จะไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมกันมากนัก อาจเพราะอยู่ห่างไกลจากย่าน Old Bagan และโรงแรมที่พักมาก แต่ผมกลับชื่นชอบโบราณสถานในกลุ่มนี้มากที่สุดนะครับเพราะให้อารมณ์ดิบ ๆ ยังคงเป็นสภาพเดิมอยู่มาก และที่สำคัญผู้คนไม่พลุกพล่านให้รำคาญสายตาเราอีกด้วย โดยผมต้องลุยเดินหรือขี่รถฝ่าพงหญ้าและป่าละเมาะเข้าไปชมโบราณสถานกันเลยนะครับ เรียกว่าเห็นเจดีย์หรือวิหารเก่า ๆ เป็นไม่ได้ต้องแวะดูเกือบทุกที่ไป ถ้าใครชอบเที่ยวสไตล์ลุย ๆ ไปดูโบราณสถานที่เขาปล่อยทิ้งร้างให้เปลี่ยวเหงาและผู้คนมักมองข้ามก็แสดงว่าคุณมาถูกกระทู้แล้วนะครับ เพราะผมจะเปิดเผยให้เห็นโบราณสถานในเมืองพุกามหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกันหรือเพื่อน ๆ ชาวพันทิปไม่เคยลงในห้องบลูแพลนเนตให้ชมอย่างจุใจเลยนะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับทริปของผมก่อนนะครับ
สำหรับทริปการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองพิลอูลวินและเมืองพุกาม 9 วัน (วันที่ 19 - 27 ต.ค. 59) ของผมมีดังนี้ครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ และเดินทางต่อไปเมืองพิลอูลวิน เที่ยวยามเย็นที่เมืองพิลอูลวิน
วันที่ 2 : เที่ยวพิลอูลวิน
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันที่ 4 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านนยองอู และทางตอนใต้ของเมืองพุกาม
วันที่ 5 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านเมืองเก่าพุกาม (Old Bagan)
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันที่ 7 : เที่ยวภูเขาไฟโปปา และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานที่เหลือในเมืองพุกาม
วันที่ 8 : เดินทางจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานในเมืองสกาย
วันที่ 9 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันนี้ผมตื่นสายหน่อยครับเพราะภารกิจเราก็แค่เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวิน และนั่งรถไปเที่ยวต่อที่เมืองพุกามอีก 5 วัน ผมจองตั๋วรถตู้ของบริษัท OK Expess ไว้กับโรงแรมที่พักตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าแล้ว ให้ทางโรงแรมช่วยติดต่อจองที่นั่งของรถตู้บริษัทนี้ให้ทีในรอบเช้าของวันนี้ ซึ่งรถตู้บริษัทนี้จะสะดวกตรงที่เขามารับเราที่โรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวินและส่งเราไปถึงโรงแรมที่พักในเมืองพุกามเลย ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถหลายต่อจ้างไปส่งโรงแรมที่พัก และรถตู้ของบริษัท OK Expess ก็สะดวกต่อการเดินทางของผมมากเพราะผมเป็นคนไม่ชอบนั่งรถนาน ๆ ไปเที่ยวหรือต้องจอดแวะเปลี่ยนรถขึ้นลงรถหลายเที่ยว เพราะรถที่ผมนั่งไปนี้จะวิ่งตรงจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกามเลย ไม่เข้าไปสถานีขนส่งเมืองมัณฑะเลย์ ผมจ่ายเงินค่าตั๋วรถครั้งนี้ไปเป็นเงิน 13,000 จ๊าต หรือ 390 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากเพราะรถวิ่งไปต้อง 220 ก.ม. กว่าจะถึงเมืองพุกาม
ไปดูโฉมหน้ารถตู้คันที่ผมนั่งจากโรงแรมที่พักในเมืองพิลอูลวินไปยังโรงแรมที่พักในเมืองพุกามกันครับ ภาพนี้ผมถ่ายตอนรถมาจอดที่หน้าโรงแรมเพื่อรอผมขึ้นรถ กับภาพตั๋วจองรถของบริษัท OK Expess
ไม่รู้เป็นดวงสมพงษ์ของผมกับรถคันนี้ของบริษัท OK Expess หรืออย่างไรเพราะตอนที่นั่งรถจากเมืองพิลอูลวินไปพุกาม และตอนกลับจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ ผมกลับได้นั่งรถคันเดิม เด็กรถคนเดิม (คนที่ใส่เสื้อลายสก็อตสีขาวดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดติดกับคนขับรถตามภาพข้างล่าง) จำผมได้ก็เข้ามาทักทายพูดคุยและหัวเราะอย่างคุ้นเคยว่าดวงเราสองคนต้องกันเลยต้องมาพบกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ
9 โมงเช้ารถตู้ของบริษัท OK Expess มารับผมที่โรงแรมรอยัลกรีนในเมืองพิลอูลวิน และแวะไปรับผู้โดยสารอีก 3 คนใน 2 จุด จุดแรกไปรับในซอยใกล้ ๆ กับโรงแรมที่ผมพักตามภาพข้างล่างนี้ เป็นผู้โดยสารชาวพม่า
ส่วนอีก 2 คนเป็นฝรั่ง 2 คนผัวเมียที่พักในโรงแรมออคิด นัน มยาเนียง (Orchicd Nan Myaning Hotel) สรุปแล้วรถคันนี้ผู้โดยสารเต็มคัน 19 ที่นั่ง สัมภาระเต็มจนต้องวางเป้กันบนพื้นรถแล้วเดินเหยียบเป้กันเข้าที่นั่งกันเลย และรถเที่ยวนี้วิ่งไกลถึงพุกาม จึงมีแม่ค้าชาวพม่าฝากดอกไม้เมืองหนาวและสินค้าที่ขายไปยังร้านค้าในเมืองพุกามด้วย ผู้โดยสารบนรถคันนี้เกือบทั้งหมดเป็นชาวพม่า จะมีก็แค่ 3 คนที่เป็นฝรั่ง ส่วนผมเป็นคนไทยคนเดียวบนรถคันนี้ครับ
เมื่อผู้โดยสารครบรถก็ออกเดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปยังเมืองพุกาม รถใช้เวลาวิ่ง 6 ชั่วโมงจึงจะมาถึงเมืองพุกาม โดยระหว่างทางก็จอดรับส่งผู้โดยสารและสิ่งของสัมภาระอยู่ตลอดตามรายทาง
วิวข้างทางที่รถวิ่งผ่านจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม ถ่ายภาพตอนรถเพิ่งลงจากเขาที่เมืองพิลอูลวินเข้าสู่เขตเมืองมัณฑะเลย์
รถวิ่งผ่านทางแยกเข้าสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ไปยังทางแยกที่จะไปเมืองพุกาม
รถวิ่งมาได้ครึ่งทางก็มาจอดแวะพักให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำและซื้อหาอาหารรับประทานที่จุดจอดรถ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางแยกของถนนสายย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ และเป็นจุดที่รถโดยสารต่าง ๆ ก็แวะมาจอดอยู่เสมอ
จุดจอดรถนี้มีแม่ค้ามาขายของกินต่าง ๆ จำพวกของทอดและขนมมากมาย พอมีรถโดยสารมาจอดริมถนนหรือที่หน้าร้านปุ๊บ แม่ค้าเขาก็รีบเดินมารุมล้อมที่รถกันเลยนะครับ ขนาดรถตู้ที่ผมนั่งมีหน้าต่างที่เป็นกระจกที่ปิดสนิท พี่แกยังอุตส่าห์เคาะกระจกเรียกลูกค้าให้ฝรั่งในรถที่ผมนั่งให้สนใจซื้อสินค้าของแกกันเลย เรียกว่าต่างเข้ามารุมกันเป็นแถวจริง ๆ
รถแวะพักให้คนขับและเด็กรถนั่งรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ส่วนผู้โดยสารอย่างเราจะร่วมวงรับประทานอาหารด้วยก็ได้นะครับ แต่เราต้องเสียเงินซื้อทานนะครับ รถจอดพักอยู่ที่นี่สัก 15 นาทีได้ก็ขับต่อไป ระหว่างทางก็มีผู้โดยสารชาวพม่าขึ้นลงตลอดเลยนะครับ จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงเมืองมยินจานก็เข้าไปจอดที่สถานีขนส่งภายในเมืองมยินจาน ซึ่งรถโดยสารทุกคันจะต้องแวะเข้าไปที่สถานีขนส่งนี้นะครับทั้งขาไปและขากลับ
สภาพภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจานที่ถนนเป็นทางดินเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่เต็มไปหมด แถมมีน้ำขังอยู่ในหลุมด้วย รถเข้าไปทีก็เป็นโคลนและแทะกันเลย
รถมาจอดหน้าบริษัท OK Expess ที่อยู่ภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจาน คนขับรถก็เข้าไปส่งเอกสารการเดินรถให้กับบริษัท ส่วนผู้โดยสารก็แยกย้ายกันลงไปนั่งพักที่นอกรถหรือเดินไปเข้าห้องน้ำที่มีบริการอยู่ด้านหลังของบริษัทกันครับ รถจอดที่นี่เพียง 10 นาทีก็ขับไปต่อยังเมืองพุกาม
ป้ายโฆษณาของบริษัท OK Expess ที่ให้บริการเดินรถระหว่างเมืองต่าง ๆ ของพม่า พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อในการสำรองที่นั่งรถในแต่ละเมือง
ตั้งโชว์อยู่หน้าบริษัทภายในสถานีขนส่งเมืองมยินจาน
จากสถานีขนส่งเมืองมยินจาน รถก็วิ่งตรงไปยังเมืองพุกามโดยไม่จอดแวะที่ไหนอีกแล้วครับ พอรถวิ่งใกล้ถึงเมืองพุกามสภาพดินที่เห็นก็เริ่มกลายเป็นดินปนทรายที่ดูแห้งแล้งกว้างขวาง และมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไหลผ่านไปบรรจบกับแม่น้ำอิระวดีที่ไหลอยู่เบื้องหน้า
รถใช้เวลาวิ่งจากโรงแรมรอยัลกรีนในเมืองพิลอูลวินมาถึงโรงแรมอินวะโมเต็ลที่ผมพักในย่านนยองอูของเมืองพุกามก็ราว ๆ 6 ชั่วโมง มองดูเวลาตอนนี้ก็ 3 โมงเย็นกว่า ๆ แล้ว
ผมพักห้อง 312 ชั้น 3 ของโรงแรม และสภาพถนนหน้าโรงแรมที่พักในยามหัวค่ำ
ผมเช็คอินเข้าพักโรงแรมเสร็จก็บอกพนักงานให้จัดการหารถจักรยานไฟฟ้า (E-bike) ให้ผมเช่าขี่คันหนึ่งด้วย พนักงานแกก็ถามกลับว่าวันนี้เลยหรือเพราะนี่ก็ 3 โมงเย็นแล้ว ผมตอบตกลงเพราะต้องการไปดูพระอาทิตย์ตกที่เจดีย์สักแห่งในเมืองพุกาม จึงจ่ายค่าเช่ารถครึ่งวันเป็นเงิน 3,000 จ๊าต หรือ 90 บาท
รถจักรยานไฟฟ้า (E - bike) คันสีฟ้า คันแรกที่ใช้ขี่รถเที่ยวในเมืองพุกามยามเย็น
ที่นี่ถ้านักท่องเที่ยวไม่อยากขี่รถจักรยานไฟฟ้าก็สามารถจ้างรถแท๊กซี่พาเที่ยวได้แต่ราคาจะสูงหน่อยเป็นวันละพันนะครับ หรือถ้าชอบสไตล์วินเทจเข้ากับบรรยากาศทุ่งเจดีย์ 4 พันองค์ก็จะลองนั่งรถม้าดูก็ได้นะครับ ราคาก็จะซอฟ ๆ กว่ารถแท๊กซี่ลงมาหน่อย
เมื่อได้รถขี่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้แค่ 3 โมงครึ่งเองยังพอมีเวลาเที่ยวสัก 2 - 3 แห่งก่อนไปหาสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ผมเลือกขี่รถไปยังเจดีย์บูเลตี (ฺBuledi Pagoda) เป็นจุดหมายของวันนี้ที่ใช้เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดิน ระหว่างทางเห็นเจดีย์องค์เล็กองค์น้อยเรียงรายไปหมดจนอดใจไม่ไหวแวะดูสักหน่อยก่อนดีกว่า