“แปดปีของประธานาธิบดีผิวสี โอเคเรา [อดทน] จนผ่านมันมาแล้ว ตอนนี้มันจะเป็นเวลาแปดปีของประธานาธิบดีหญิงเหรอ ? ไม่นะ ไม่ ! แล้วรู้มั้ยว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ? มันจะเป็นแปดปีของเกย์ เราจะมีประธานาธิบดีที่เป็นเกย์ ไม่นะไม่ ไม่ ! แล้วรู้มั้ยว่าจะมีอะไรตามมาหลังจากนั้นก็พวกกระเทยยังไงละ ประธานาธิบดีที่แต่งหญิง แต่งชาย แปดปีของประธานาธิบดีกระเทยในทำเนียบขาว พวกนายจะไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะให้ห้องน้ำอันไหน !”
ใครที่สนใจเรื่องผลการเลือกตั้งในอเมริกาและไม่มีความรู้เรื่องการเมืองในอเมริกามาก (แบบผมที่ไม่รู้เลยว่าทำไมคนถึงไม่ชอบทรัมป์กันจริงจัง) สารคดีที่บันทึกการพูดของ ไมเคิล มัวร์ เรื่อง “Michael Moore In TrumpLand” น่าจะเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าเพื่อให้เห็นมุมมองของผู้คนส่วนใหญ่ของอเมริกาที่ทำไมเลือกทรัมป์ และสื่อสารออกมาในรูปแบบคล้ายๆ เดี่ยวไมโครโฟนที่ดูไปตลกไป
ในช่วงแรก มัวร์ ได้พูดเรื่องความไม่จำเป็นของผู้ชายในชีวิตของผู้หญิงอเมริกันอีกแล้วเพราะว่า ในปัจจุบันผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แตกต่างจากเมื่อร้อยปีที่แล้วที่ผู้หญิงต้องพึ่งพาผู้ชายในการเปิดบัญชีธนาคาร ครอบครองเป็นเจ้าของที่ดิน รวมไปถึงการมีความสุขทางเพศ เพราะว่าในปัจจุบันกฏหมายให้สิทธิ์ของผู้หญิงไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นการเลือกทรัมป์จากชายผิวขาวส่วนหนึ่งก็คือ ความกลัวในการสูญเสีย อำนาจ หรือความสลักสำคัญของตัวเองไป และยิ่งถ้าได้ผู้หญิงขึ้นเป็นประธานาธิบดีแล้ว จะเป็นยังไง
หลังจากนั้นมัวร์เริ่มพูดประเด็นเกี่ยวกับ การทำความเข้าใจของผู้ที่สนับสนุนทรัมป์ที่จริงๆ แล้วหลายคนไม่ได้เป็นคนเหยียดผิว เหยียดเพศ และไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดกับที่ ทรัมป์พูด แต่สิ่งที่โดนใจผู้ที่ลงคะแนนให้ทรัมป์คือ การพยายามเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องงาน ที่ทั้ง Democrat และ Republican ไม่เคยพูดถึงมาก่อน (หรือไม่สนใจ) มาก่อนในการเลือกตั้ง
“ทรัมป์ได้พูดสิ่งที่มีความหมายแก่ผู้คนที่กำลังทุกยากลำบาก ทรัมป์เป็นเสมือน มนุษย์ระเบิดที่ผู้คนที่กำลังทุกข์ยากในอเมริกาได้ใช้โยนเข้าไปในระบบการเมือง การปกครอง (และแน่นอนว่าควบคุมระบบเศรษฐกิจ) ที่ถูกสร้างขึ้น ผู้คนหวังถึงการเปลี่ยนแปลง ผู้คนเหล่านี้สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างของชีวิตไปก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะเป็นคนถูกทำให้กลายเป็นคนที่ล้มเหลว กลายเป็นคนไร้บ้าน แต่เมื่อวันเลือกตั้งมาถึง สิ่งหนึ่งที่พวกเขายังมี เป็นสิ่งที่ประชาธิปไตยให้คือความเสมอภาคของสิทธิในการเลือกตั้ง มันคือสิทธิที่จะโหวต และมันก็แน่นอนว่า ผู้คนที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางลงมา มีจำนวนมากกว่า พวกเศรษฐีมากมายนัก”
มัวร์พูดได้น่าสนใจมากว่าสังเกตุมั้ยว่า กลุ่มคนที่เกลียดทรัมป์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในอเมริกา กลุ่มบริษัท กลุ่มการเงิน กลุ่มนักการเมือง สื่อ และกลุ่มดารา (อันนี้ผมเติมเอง จริง ๆ ดารานี่น่าจะนับเป็นกลุ่มชนชั้นนำได้นะครับ เพราะว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าปกติ และมีการเข้าถึงสื่อได้ง่ายกว่าคนทั่วไปมาก) และกลุ่มเหล่านี้คือกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์เกลียด และจะใช้ทรัมป์เป็นเครื่องมือในการเอาคืน
“ศัตรูของศัตรูจะเป็นคนที่ฉันโหวตให้ในการเลือกตั้ง วันที่แปดพฤศจิกายน มันจะเป็นวันที่คนธรรมดา บ้านๆ อย่างฉันเข้าไประเบิดระบบที่ถูกสร้างมา เพราะว่ามันเป็นสิทธิ์ของฉัน การเลือกทรัมป์เป็นประธานาธิบดีจะเป็นด่าพ่อ ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ”
มัวร์บอกว่าแน่นอนว่ามันจะต้องรู้สึกสะใจสุดๆ (ตอนนี้ก็เกิดขึ้นแล้วคือทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี) มันอาจรู้สึกดีเป็นวัน เป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน แต่หลังจากนั้นแล้วไง ?
ผมว่าเดี๋ยวจะยาวเกินไปเดี๋ยวเรามาต่อกันครับ แต่เชื่อว่าเพียงที่โควท์มาก็มีหลายคนอยากหาดูกันแล้ว ลองหาดูได้ใน iFlix ครับ ดูฟรีหนึ่งเดือนมีซับไทยด้วยนะครับ
Blog
http://maewnoon.com/
แนะนำ Michael Moore in TrumpLand การตะโกนด่าพ่อที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
ใครที่สนใจเรื่องผลการเลือกตั้งในอเมริกาและไม่มีความรู้เรื่องการเมืองในอเมริกามาก (แบบผมที่ไม่รู้เลยว่าทำไมคนถึงไม่ชอบทรัมป์กันจริงจัง) สารคดีที่บันทึกการพูดของ ไมเคิล มัวร์ เรื่อง “Michael Moore In TrumpLand” น่าจะเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ ที่ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าเพื่อให้เห็นมุมมองของผู้คนส่วนใหญ่ของอเมริกาที่ทำไมเลือกทรัมป์ และสื่อสารออกมาในรูปแบบคล้ายๆ เดี่ยวไมโครโฟนที่ดูไปตลกไป
ในช่วงแรก มัวร์ ได้พูดเรื่องความไม่จำเป็นของผู้ชายในชีวิตของผู้หญิงอเมริกันอีกแล้วเพราะว่า ในปัจจุบันผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แตกต่างจากเมื่อร้อยปีที่แล้วที่ผู้หญิงต้องพึ่งพาผู้ชายในการเปิดบัญชีธนาคาร ครอบครองเป็นเจ้าของที่ดิน รวมไปถึงการมีความสุขทางเพศ เพราะว่าในปัจจุบันกฏหมายให้สิทธิ์ของผู้หญิงไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นการเลือกทรัมป์จากชายผิวขาวส่วนหนึ่งก็คือ ความกลัวในการสูญเสีย อำนาจ หรือความสลักสำคัญของตัวเองไป และยิ่งถ้าได้ผู้หญิงขึ้นเป็นประธานาธิบดีแล้ว จะเป็นยังไง
หลังจากนั้นมัวร์เริ่มพูดประเด็นเกี่ยวกับ การทำความเข้าใจของผู้ที่สนับสนุนทรัมป์ที่จริงๆ แล้วหลายคนไม่ได้เป็นคนเหยียดผิว เหยียดเพศ และไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดกับที่ ทรัมป์พูด แต่สิ่งที่โดนใจผู้ที่ลงคะแนนให้ทรัมป์คือ การพยายามเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องงาน ที่ทั้ง Democrat และ Republican ไม่เคยพูดถึงมาก่อน (หรือไม่สนใจ) มาก่อนในการเลือกตั้ง
“ทรัมป์ได้พูดสิ่งที่มีความหมายแก่ผู้คนที่กำลังทุกยากลำบาก ทรัมป์เป็นเสมือน มนุษย์ระเบิดที่ผู้คนที่กำลังทุกข์ยากในอเมริกาได้ใช้โยนเข้าไปในระบบการเมือง การปกครอง (และแน่นอนว่าควบคุมระบบเศรษฐกิจ) ที่ถูกสร้างขึ้น ผู้คนหวังถึงการเปลี่ยนแปลง ผู้คนเหล่านี้สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างของชีวิตไปก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะเป็นคนถูกทำให้กลายเป็นคนที่ล้มเหลว กลายเป็นคนไร้บ้าน แต่เมื่อวันเลือกตั้งมาถึง สิ่งหนึ่งที่พวกเขายังมี เป็นสิ่งที่ประชาธิปไตยให้คือความเสมอภาคของสิทธิในการเลือกตั้ง มันคือสิทธิที่จะโหวต และมันก็แน่นอนว่า ผู้คนที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางลงมา มีจำนวนมากกว่า พวกเศรษฐีมากมายนัก”
มัวร์พูดได้น่าสนใจมากว่าสังเกตุมั้ยว่า กลุ่มคนที่เกลียดทรัมป์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในอเมริกา กลุ่มบริษัท กลุ่มการเงิน กลุ่มนักการเมือง สื่อ และกลุ่มดารา (อันนี้ผมเติมเอง จริง ๆ ดารานี่น่าจะนับเป็นกลุ่มชนชั้นนำได้นะครับ เพราะว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าปกติ และมีการเข้าถึงสื่อได้ง่ายกว่าคนทั่วไปมาก) และกลุ่มเหล่านี้คือกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์เกลียด และจะใช้ทรัมป์เป็นเครื่องมือในการเอาคืน
“ศัตรูของศัตรูจะเป็นคนที่ฉันโหวตให้ในการเลือกตั้ง วันที่แปดพฤศจิกายน มันจะเป็นวันที่คนธรรมดา บ้านๆ อย่างฉันเข้าไประเบิดระบบที่ถูกสร้างมา เพราะว่ามันเป็นสิทธิ์ของฉัน การเลือกทรัมป์เป็นประธานาธิบดีจะเป็นด่าพ่อ ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ”
มัวร์บอกว่าแน่นอนว่ามันจะต้องรู้สึกสะใจสุดๆ (ตอนนี้ก็เกิดขึ้นแล้วคือทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี) มันอาจรู้สึกดีเป็นวัน เป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน แต่หลังจากนั้นแล้วไง ?
ผมว่าเดี๋ยวจะยาวเกินไปเดี๋ยวเรามาต่อกันครับ แต่เชื่อว่าเพียงที่โควท์มาก็มีหลายคนอยากหาดูกันแล้ว ลองหาดูได้ใน iFlix ครับ ดูฟรีหนึ่งเดือนมีซับไทยด้วยนะครับ
Blog http://maewnoon.com/