Fahrenheit 11/9 ... ใครจะไปดูบ้าง

English is Fun เบื้องหลังภาษาคือถ้อยคำ เบื้องหลังถ้อยคำคือชีวิต ภาษาอังกฤษมันสนุกตรงนี้ล่ะ

ออกแขก

      อาทิตย์นี้ มีหนังลุง Michael  Moore เข้าฉายโรงในไทย เรื่อง Farenheit 11/9 ซึ่งมาจาก November 9 2016 วันหายนะของสหรัฐอเมริกา ทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานธิบดีคนที่ 45 หรือที่ลุงมัวร์ล้อว่าคนสุดท้ายนั่นแหละ และหนังยังตั้งชื่อล้อไปกับหนังเก่าของลุง ฉายเมื่อปี 2004 เรื่อง Farenheit 9/11 โดยมาจาก September 11 2001 วันหายนะของอเมริกา ตึกเวิร์ลดเทรดโดนถล่ม ลุงตั้งชื่อหนังสองเรื่องล้อกันเอง แสดงนัยยะว่า จะ 9/11 หรือ 11/9  ก็เรือ(ship) หายพอๆกัน

      ในหนังใหม่ Farenheit 11/9 ลุงมัวร์เปรียบเทียบ โยงนโยบายพรากลูกจากอกพ่อแม่ผู้อพยพเข้าอเมริกาของทรัมป์ กับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฮิตเลอร์ส่งนาซีมากวาดจับชาวยิวเข้าค่ายกักกัน และที่สำคัญลุงตั้งคำถามว่า ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 ทำไมประเทศที่ก้าวหน้าทันสมัยอย่างเยอรมันถึงยอมให้ฮิตเลอร์และพรรคนาซีครองประเทศ ดังข้อเขียนบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Jews Weekly ตอนที่ฮิตเลอร์ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆว่า “แม้เค้า (ฮิตเลอร์) จะบ้าอำนาจ ทำอะไรบ้าๆ แต่เรา (ประเทศเยอรมัน) ก็มีรัฐธรรมนูญคอยคุ้มครอง” อืมมมมมมม .... คุ้มครองได้แค่ไหน ผลเป็นยังไงคงไม่ต้องบอกนะ ลุงมัวร์บอกว่า รัฐธรรมนูญเป็นแค่กระดาษ ไม่มีกลไกซ่อมแซมแก้ไขตัวเอง มีแต่เราประชาชนตาดำๆนี่แหละ คุ้นๆไม๊ ประเทศไหนเห่อประชาธิปไตย อยากได้รัฐธรรมนูญกันจัง เหมือนเป็นยาวิเศษแก้ได้ทุกโรค

    ขณะเราค้นตัวอย่างหนังใหม่ลุงมัวร์ ก็เลยไปเจอคลิปที่โหสต์ไว้ข้างล่างนี้แหละ ดุแล้วมันส์มาก อินสุดๆ เลยเอามาให้ดู ช่วยกันโปรโมทหนังให้ลุง แชร์คลิปนี้ออกแขกเรียกคนก่อนหนังใหม่ลุงฉายอาทิตย์หน้า คลิปนี้คนทำภาพประกอบ เอาเสียงลุงมัวร์จากหนังสารคดีของลุงอีกเรื่อง ชื่อ Michael  Moore in Trumpland ทั้งที่ออกฉายตุลาคม 2016 ก่อนวันเลือกตั้ง November 8 (11/8) 2016 แล้วแท้ๆ แต่ไอ้ทรัมป์ดันยิ้มชนะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาซะได้ ในสารคดี ลุงโชว์พูดเดี่ยวในหอประชุมต่อหน้าแฟนคลับทรัมป์และฮิลลารี่อย่างละครึ่ง เรียกว่า ชำแหละไอดอลสุดโปรดกันต่อหน้าต่อตาเลย ใครจะรอดใครจะจอด ไปหาดูในคลิปต้นฉบับเต็มเอาเอง

     ส่วนในคลิปที่ตัดมาข้างล่าง เล่าถึงสาเหตุที่ผู้คนเลือกทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ทั้งที่ไม่ได้ชอบทรัมป์มาก่อน หรือเป็นพวกเหยียดสีผิวแต่ประการใด ไอ้ทรัมป์มันเก่งน่ะ ในคลิปเสียงของลุงมัวร์ทั้ง “ห้าวหาญ” “ดุดัน” “พรูควั่ง” “ถั่งโถม” “ถล่มทลาย” ฟังแล้วแบบ “เฮ้ยยย ยิ้มได้ว่ะ ลุงยิ้มเจ๋ง ยิ้มๆ” ทั้งถ้อยคำ ข้อความ แก้วเสียง น้ำเสียง ได้หมดเลย ส่งอารมณ์มาครบเลย เห็นภาพคนยากคนจน คนตกงาน อดีตคนชั้นกลางในอเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ(ของใคร?) คำหยาบคาย ภาษาชาวบ้านมะกัน ผักผลไม้ มากันทั้งสวน  shitty!, !,  over!,  up!, ing! แล้วก็โคตรพ่อโคตรแม่ผักผลไม้ “ youuuuuu!”  

        ดนตรีประกอบในคลิปก็สุดอลังการ์ มาแบบเรียบๆ มีเสียงกดเปียโนทีละติ๊งๆ แล้วค่อยๆดังขึ้น ดังขึ้น กระหึ่มๆ ฮึ่มห่ามมมมตรงกลาง แล้วก็เบาลง เบาลง จนติ๊ง ติ๊งๆ ติ๊งสุดท้าย จบ ... ดูเครดิตคนทำ score แล้วก็ไม่แปลกใจเลย น้า Hans Zimmer มือทำ score รางวัล Oscar นี่เอง

     ตอนจบคลิปลุงทิ้งท้ายว่า “แล้วคุณจะรู้สึกดี”  แล้วก็จบไปเลย จริงๆ ถ้าไปดูในสารดี  Michael Moore in Trumpland ที่ต่อมาก็คือ คุณจะรู้สึกดีเหมือนตอนคนอังกฤษฝ่าย Brexit รู้สึกสะใจชนะโหวตออกจาก EU ได้แก้แค้นระบบเศรษฐกิจหรืออะไรก็ตามที่คิดว่าทำลายชีวิตตน แต่อนิจจา สะใจได้ไม่กี่เดือน ก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิด จะกลับไปโหวตใหม่ก็ไม่ได้แล้ว แห้ว- โหวตไปแล้ว เรียกว่าโหวตเอามันส์ เอาสะใจแท้ๆ เฮ้อออออ ดูบ้านเค้า ดูหนังดูละคร แล้วอย่าลืมย้อนดูตัวเองล่ะ บ้านเราก็เศรษฐกิจแย่มานานแล้ว รวยเป็นหย่อมๆ แบบกระจุกๆ แต่จนกระจาย คลิปนี้ใครดูแล้วชอบ คงไม่ต้องบอกนะว่าควรทำอะไรต่อ

       เฮียเอง

   อหังการ์หมาป่าโดดเดี่ยว

อ่านโพสต์เก่าๆ ได้ที่เพจล่ามวิศวะเฮียครับ https://goo.gl/Lrpydu

https://youtu.be/wxDRqeuLNag

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่