กาลครั้งหนึ่ง เดินป่า ณ “ม่อนทูเล” ค้นพบน้ำตกแห่งใหม่ไร้นาม

[CR] กาลครั้งหนึ่ง เดินป่า ณ “ม่อนทูเล” ค้นพบน้ำตกแห่งใหม่ไร้นาม

กระทู้รีวิว

เดินป่า เที่ยวภูเขา เที่ยวไทย ภาพถ่ายทิวทัศน์ เที่ยวน้ำตก

หากเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่านักผจญภัย ขาถึก ต่างอยากไปพิสูจน์พละกำลังขา คงมีหลากหลายที่ตามแต่ระดับขององศาความชัน “ดอยทูเล” หรือ “ม่อนทูเล” หรือชาวปกาเกอะญอ เรียกกันว่า “ทูเลโค๊ะ” ที่แปลว่า "ทุ่งหญ้าสีทอง" เนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม เป็นช่วงฤดูเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เราจะมองเห็นทุ่งหญ้าตามแนวทิวเขาเป็นสีทองอร่าม งดงามท่ามกลางทะเลหมอกและอากาศอันหนาวเย็น สถานที่แม้จะสวยงาม แต่แอบแฝงไว้ด้วยความโหดจากระดับความชันที่เริ่มตั้งแต่30 องศา ไปเรื่อย ๆ จนถึง 70 องศา และชันไปเกือบตลอดเส้นทางของการเดิน ที่ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวต่างอยากมาพิสูจน์บนยอดความสูง 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล กับระยะทางราว 7 กิโลเมตร ณ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก จนได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “ดอยทุลักทุเล" กว่าจะได้ชมความงามของทะเลหมอก ต้องแลกมาด้วยการเดินขึ้นเขาไปหามัน เราเองก็ไม่รู้ว่า ที่นี้จะสวยจริงไหม? อย่างที่เค้าว่ากันว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น"

ทริปนี้ STORY TRIPPER by HD เราสองคนเลยอดไมได้ที่จะต้องไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตา ถึงความโหดที่หลายคนได้เอ่ยถึง โดยเราเดินทางไปพร้อมกับ “น้อยหลงทาง ตลุยดงหอย” และยังได้พาไปพบกับน้ำตกไม่มีชื่อที่หากเดินไประหว่างทางขึ้นเราจะมองเห็นน้ำตกสูงแห่งนี้อยู่ไกล ๆ โดยครั้งนี้เราจะพาไปพบกับความงามอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก และ เราถือเป็นนักท่องเที่ยวคนแรกที่ได้เข้าไปสัมผัส

ติดตามทริปอื่น ๆ ของเราได้ที่

“เปิดตำนานนิราศ 3 ภู สู่เขาเจ็ดยอด” http://ppantip.com/topic/35644067
เดินป่า มุ่งหน้า "ดอยเวียงผา" สู่ความสูง 1,834 เมตร http://ppantip.com/topic/35750242/comment2
ทริปสำรวจเทือกเขาบรรทัด #2 http://ppantip.com/topic/35791696
ติดตามได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/Story-Tripper-487150531467554/?fref=ts

(วันแรก) เช้าที่จ.ตาก อบต.ท่าสองยาง ราว 6:30 ล้างหน้าแปรงฟัน เก็บบรรยากาศริมแม่น้ำเมย หลังสถานีตำรวจท่าสองยาง กินมื้อเช้า แล้วออกจาก อบต.ท่าสองยาง ราว8โมง นั่งรถกะบะมายังจุดเริ่มเดินที่"บ้านแม่จวาง" อีกราว20นาที ที่นี้จะมีลูกหาบมารอสแตนบายเลย ครั้งนี้ทีมผม พี่น้อยได้จ้างลูกหาบ4คน ส่วนตัวผมเองยังคงคอนเซปเดิมคือ พยายามแบกเอง ซึ่งเป้ผมครั้งนี้หนักไม่มาก ราว15kg.

ม่อนทูเล_01 บรรยากาศยามเช้า ที่ อบต.ท่าสองยาง

ม่อนทูเล_02 แม่น้ำเมย กั้นระหว่าง ไทย-พม่า

ม่อนทูเล_03 ขึ้นกะบะไป"บ้านจวาง"

ก่อนเดินทราบข้อมูลมาว่า จะใช้เวลาเดินขึ้นกันราว6ชม. พวกเราเริ่มเดินราว8:30 ที่ความสูงราว180ม. เริ่มต้นจะเดินผ่านทุ่งนาข้าว

ม่อนทูเล_04 เริ่มเดินราว8:30 จุดสตาร์ทสูงราว180ม....ผ่านนาข้าว

ม่อนทูเล_05 ผ่านนาข้าว...สภาพแดดตอน8:30

หลังจากเดินพ้นทุ่งนา จึงเริ่มเดินชันกันเลย แต่ความชันไม่ไช่ปัญหา แต่ปัญหาคืออากาศร้อนอบอ้าว แต่ยังดีที่มีร่มเงาของต้นไม้ เราเดินไต่ระดับความชันขึ้นมาเรื่อยๆ ราว2km. จนถึงความสูงราว400ม. ตอนนี้เพื่อน ๆ เริ่มแตกกลุ่มกันไป ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงเราสองคน พร้อมเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน พร้อมลูกหาบ ชื่อ น้องอดิกรณ์ อายุแค่13ปีเท่านั้น จากช่วงความสูงราว400-500ม. ก็จะเป็นช่วงที่เดินไม่ชัน จึงทำให้เดินสบายขึ้น

ม่อนทูเล_06 พ้นนาข้าว...ก็ค่อยไต่ระดับความชันกันเลย

ม่อนทูเล_07 ยางนา

จากความสูงราว500-800ม. ช่วงนี้จะชันขึ้นมาอีกพอสมควร จนเดินมาถึงที่ความสูงราว800ม. เดินลงมาอีกนิดหน่อย จะเจอลำธารเล็กๆ พอให้ได้ล้างหน้าล้างตาคลายร้อนกัน ตอนนี้เดินกันมาราว4km.กว่า เรานั่งแวะพักเหนื่อยกันสักพักหนึ่ง ตอนนั้นราว10โมงกว่า ซึ่งจริงๆจุดนี้จะเป็นจุดพักกินมื้อเที่ยง แต่พวกเรายังไม่หิวจึงไม่ได้กิน ก่อนจะเดินขึ้นชันอีกนิดหน่อย

ม่อนทูเล_8 ไต่ระดับความชัน ราว50องศา

ม่อนทูเล_09 เดินมาที่ความสูงราว800ม. เห็น"ยอดทูเล"อยู่ไกลๆ

ม่อนทูเล_010 สภาพแดด

ม่อนทูเล_011 จากความสูง800ม....ก็เดินไต่ระดับลงมานิดหนึ่ง

ม่อนทูเล_012 ลูกหาบ ชื่อ น้องอดิกรณ์ อายุ13ปี ช่วยเดินนำทางให้

ม่อนทูเล_013 พักล้างหน้า...คลายร้อน

ช่วงนี้จะเป็นดง"ต้นค้อ" (โลหล่า ภาษากระเหรี่ยง) ลักษณะเหมือนต้นปาล์ม จนมาถึงความสูงราว 900 ม. เราจะเห็น "ยอดทูเล" อยู่ไม่ไกลแล้ว จุดนี้ความชันจะเริ่มชันมากขึ้น ตอนนี้ลูกหาบไม่ตามเรามาแล้วบอกให้เราเดินไปเลย พวกเราจึงค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ กับ 3 ชีวิต ตอนนี้แดดเริ่มแรงขึ้น เพราะเป็นเวลาราว11โมง แถมบริเวณนี้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงาซะด้วย

ม่อนทูเล_014 "ต้นค้อ" ลักษณะเหมือนต้นปาล์ม

ม่อนทูเล_015 มองขึ้นฟ้า...ที่ความสูงราว900ม

ม่อนทูเล_016 พ้นจากความสูงราว900ม. ก็จะเห็น"ต้นค้อ"สูงเด่นเลย

ม่อนทูเล_014 พักชิลๆ 3 ชีวิตที่เหลือ ลูกหาบไม่ตามมาแล้ว

ม่อนทูเล_015 วิว...เวลาตอน11โมง

แต่ช่วงนี้จะดีหน่อย คือได้เห็นวิวภูเขาชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้พวกเราเดินไปพักถ่ายรูปไปตลอดทาง แต่เดินได้ไม่นาน เราก็เจอกับทางราบ ซึ่งมีป้ายไวนิล ติดว่า "ยินดีต้อนรับ ดอยทูเล" ซึ่งชำรุดอยู่

ม่อนทูเล_16

ระหว่างทางก่อนถึงจุดแคมป์ เราจะเห็นน้ำตกซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร อยู่ไกลๆทางด้านขวามือ ระหว่างทาง แต่ไม่ได้แวะ เพราะก่อนเดินขึ้นทาง อบต.บอกว่าน้ำตกที่นี้ยังไม่เปิด ทางยังรกอยู่อาจอันตราย แต่สุดท้ายที่นี่แหละที่เราจะพาไป ติดตามกันอ่านกันต่อไปนะครับ

ม่อนทูเล_17

แล้วเดินมาอีกหน่อย ก็จะเจอจุดแคมป์แรกซึ่งติดลำธาร เรารอลูกหาบตรงนี้นานพอสมควร น่าจะราว20นาที จนผมเกือบจะทำแคมป์ที่นี้แล้ว ลูกหาบจึงมาพอดี และบอกให้เดินไปต่อ เพราะจะใกล้ทางเดินขึ้นจุดชมวิวมากกว่า

ม่อนทูเล_18 พวกเรานั่งรอ...ลูกหาบนานเลยกว่าจะเดินตามมา...จนผมเกือบจะทำแคมป์ที่นี้แล้ว

เราเดินถึงจุดแคมป์ 1,200ม. กันราว 12:15 กับระยะทางราว7km. ใช้เวลาเดินราว 3 ชม.50นาที แบบไม่รีบสบายๆ จึงทำให้มีเวลาว่าง พวกเราจึงอาบน้ำสระผม แล้วนอนพักกลางวัน ตอนนี้อุณหภูมิบริเวณแคมป์ราว36องศา ส่วนเพื่อน ๆ ตามกันมาจนครบราว14:30 น.

ม่อนทูเล_19 กางเต๊นท์...รอนอนกลางวันเลย

ราว4โมงเย็น เราสองคน จึงไปเดินเล่นที่"เนินธง"ก่อน ซึ่งเดินราว5นาที หรือราว100ม. ได้จากแคมป์

ม่อนทูเล_20 บนยอดธง เค้าว่าเมื่อก่อนตรงนี้ปักธงไว้

ม่อนทูเล_21 วิวบนยอดธง

หลังจากนั้นจึงไปเดินเล่นต่อบนยอด "ดอยทูเล" 1,350ม. ซึ่งทางชันพอสมควร แนะนำถ้ามีไม้เท้าควรพกมาด้วย ซึ่งใช้เวลาเดินขึ้นราว20นาที หรือราว500ม. แบบชิลๆเรื่อยๆ ก็ถึง ด้านบนเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น

ม่อนทูเล_22 วิวด้านทิศตะวันออก...บนดอยทูเล

ม่อนทูเล_23 วิวด้านทิศตะวันตก...บนดอยทูเล

ม่อนทูเล_24 แคมป์อยู่นู้น

แต่โดยรวมผมว่า วิวที่"เนินธง" เป็นลานโล่งดูสวยกว่านะ นั่งเล่นอยู่ข้างบนสักพัก จึงเดินลงมาชมพระอาทิตย์ตก หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า อากาศเริ่มเย็นลง ราว24องศา แล้วจึงเดินกลับมากินมื้อค่ำ เข้านอน