เดินป่า เขาหลวงประจวบ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์



#เขาหลวงประจวบ  อยู่ที่ ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
:
#คลิปvdo
https://youtu.be/_G_fQCa7jIg
#คลิปTrail3D
https://youtu.be/2-P1m_XE92k
:
:
ทริปนี้..เราทำการโทรจองไว้ล่วงหน้า ราว2เดือน ซึ่งที่นี้ จะให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเขาหลวง ได้เพียงเดือนละ2กรุ๊ปเท่านั้น

ช่วงที่เราโทรจอง มีเพียงเราคณะเดียวเท่านั้น ซึ่งเราจองไว้เพื่อขึ้นเขาหลวงประจวบ กันแค่3คน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ที่นี้ จะมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย2นาย/คณะ แม้เราจะมาไม่ถึง 10คน ก็ตาม ซึ่งพวกเราก็โอเคร

***เบอร์โทรติดต่อ อช.น้ำตกห้วยยาง
Tel. 084-7012795 , 098-3126808

ก่อนวันเดินทาง ประมาณ2สัปดาห์ เจ้าหน้าที่โทรมาคอนเฟริมพวกเราอีกครั้ง โดยแจ้งว่าจะไม่มีคณะอื่น มีเพียงเรา3คนเท่านั้น พวกเราแอบดีใจ เพราะ จะได้เป็นทริปPrivate แบบส่วนตัว
:
:
การเดินทางครั้งนี้  เราใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเราวางแผนว่า จะไปนอนกางเต๊นท์ที่ อช.น้ำตกห้วยยาง ก่อนคืนหนึ่ง เพื่อที่พรุ่งนี้เช้าจะได้พร้อมเดินเลย


ข้างหน้าเรา คือ เขาหลวงประจวบ

พวกเราเดินทางถึง อช.น้ำตกห้วยยาง ราวบ่าย3 ตอนมาถึงที่นี้ มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก  เราเลยไปติดต่อที่ทำการ พร้อมแจ้งลงทะเบียน รวมถึงชำระค่าธรรมเนียม และ ค่ากางเต๊นท์นอน 2คืน

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งพวกเราว่า  พรุ่งนี้จะมีอีกกลุ่ม ที่มาร่วมเดินขึ้นเขาหลวง อีกราว17คน ซึ่งที่แรกวางแผนไว้ว่า ครั้งนี้ยอดเขาหลวงจะมีแค่กลุ่มเรา แต่ไม่เป็นไรแม้จะมีกลุ่มอื่นก็ตาม

ที่นี้..จะมีร้านอาหารสวัสดิการไว้บริการด้วย แต่ร้านที่นี้ จะเปิด 8:00-16:30 เราจึงสั่งอาหาร เพื่อกินมื้อเย็นที่นี้เลย รวมถึงได้สั่ง มื้อเช้า กับ มื้ออาหารกลางวันสำหรับพรุ่งนี้ไว้ด้วยเลย

ตอนนี้ยังพอมีเวลา  พวกเราจึงไปเดินเล่นน้ำตกกันก่อน  ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้เราก็ต้องเดินผ่านเส้นนี้อยู่ดี














หลังจากเดินเล่น ถ่ายภาพเรียบร้อย ก็เดินกลับมาหาที่พักแคมป์แถวที่ทำการ




ซึ่งมีศาลาอยู่หลังหนึ่ง เหมาะสำหรับใช้เป็นที่หลับนอนพอดี เลยเอาตรงนี้เป็นที่กางเต๊นท์ อีกอย่างจุดนี้ ไม่ไกลจากห้องน้ำด้วย  คืนนี้อากาศไม่เย็นเท่าไร
:
:

ถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อย

#เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราเตรียมตัวกันแต่เช้า เก็บแคมป์ แล้วนั่งกินอาหารเช้าที่ร้านสวัสดิการ พร้อมสั่งข้าวห่อมื้อเที่ยงระหว่างทาง

จนราว8:30 เจ้าหน้าที่ให้พวกเราไปลงทะเบียน สำหรับขึ้นเขาหลวง โดยทางอช. ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้สำหรับนำทาง 4คน สำหรับดูแล กลุ่ม17+3=20คน  ค่าเจ้าหน้าที่ ที่นี้จะคิด วันละ600บ./คน  จนเวลาเกือบจะ9โมง อีกกลุ่มจำนวน17คน ก็ยังไม่มา

ผมจึงเดินเข้าไปคุยกับพี่เจ้าหน้าที่ ว่าตอนนี้ก็สายแล้ว ผมขอเจ้าหน้าที่1คน เพื่อนำทางได้ไหม โดยพวกเราจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองเลย

จากปกติเจ้าหน้าที่ 4คนx600บ.x2วัน=4,800บ. หารด้วยคนจำนวน20คน จะตกเฉลี่ยจ่ายแค่ คนละ240บ.  แต่พวกเราเลือกขอรับผิดชอบค่าเจ้าหน้าที่1คน แม้ค่าใช้จ่ายจะมากกว่า คือ1,200บ. หาร3คน ตกเฉลี่ย คนละ400บ. เพราะ ขี้เกียจรอ  แต่จริงๆก็ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยแหละ


ถ่ายรูปกับ พี่เต่า เจ้าหน้าที่อช. ที่ดูแลกลุ่มเรา

โดยเราได้ พี่เต่า เป็นเจ้าหน้าที่นำทางให้ทีมเรา พวกเราเริ่มออกเดินกัน ราว9โมงเช้า ซึ่งครั้งนี้แม้จะไปกันแค่3คน แต่ของส่วนใหญ่ ที่มีน้ำหนักจะอยู่ที่เป้ผม ซึ่งชั่งน้ำหนักดูแล้ว หนักราว23kg. พี่เจ้าหน้าที่เห็นตัวผมเล็ก แต่เป้ผมใหญ่ เลยขอยกดู  พี่เจ้าหน้าที่ถึงกับร้อง แล้วพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง ว่าทางมันชันนะ แต่ผมก็ยืนยันว่าแบกเป้หนักประจำอยู่แล้วครับ ไม่มีปัญหา ยังไงก็ถึงแคมป์ด้านบนทันมืดครับ555
:
:


ช่วงแรกเดินตามทางน้ำตกไปราว800ม.  แค่เริ่มต้นเดิน อากาศก็ร้อนอบอ้าวซะแล้ว




น้ำตกชั้นที่4




จนถึงจุดที่จะเริ่มเดินเข้าป่า บริเวณน้ำตกชั้นที่5  พี่เต่า บอกว่า ”นั่งพักกันก่อน”  เพราะ จากจุดนี้ทางจะเริ่มชัน

บริเวณจุดเดินตัดเข้าป่า บริเวณน้ำตกชั้นที่5 ถ้าไม่สังเกตุดีๆ จะมองไม่ออกเลยว่า ตรงนี้เป็นจุดทางแยกตัดขึ้นเขาหลวง

หลังจากพักดื่มน้ำ พอให้หายเหนื่อย เราก็ลุยกันต่อ ทางช่วงนี้ จะเป็นร่องหินแคบๆ ที่เราต้องเดินขึ้นไป โดยมีกองใบไม้แห้งอยู่เต็มทางเดิน ทำให้เวลาเหยียบต้องคอยระวัง เพราะอาจลื่นได้






อันนี้ น่าจะเป็นอุจจาระของลิง

เส้นทางเดินเป็นแบบsingleloop ไม่ได้กว้างมากนัก จนเราเดินขึ้นมาได้ราวชั่วโมง ก็ถึงจุดพักที่ห้วยน้ำตกระหว่างทาง ที่ความสูงราว350ม. ตอนนี้เดินมาได้ราว2.3km. นั่งพักล้างหน้าล้างตาให้พอคลายร้อนกันสักหน่อย












จากจุดนี้ เราเดินไต่ระดับความชันขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ทามกลางอากาศอันร้อนอบอ้าว โชคดีที่พวกเราเตรียมการมาดี คือ เราพกพัดติดตัวกันมา จึงพอช่วยได้




แล้วเดินต่อมาอีกราวชั่วโมง ก็ถึงจุดต้นไทรใหญ่ ที่ความสูงราว460ม.  ตอนนี้เดินมาได้ ราว3.6km.  





พี่เต่า บอกพวกเรา ว่า “ตอนนี้เดินมาได้ครึ่งทางแล้ว เดินขึ้นไปอีกสัก1km.  ก็จะเจอจุดพักกินข้าว”

พวกเราจึงเดินไต่ระดับกันต่อไป โดยหยุดพักกินน้ำเป็นระยะๆ เพราะ อากาศร้อนอบอ้าวมาก จนเดินมาถึงที่ ความสูงราว890ม.  




ที่นี้เป็นลานโล่งนั่งพักได้ และ เป็นจุดที่ นักท่องเที่ยวที่มา มักจะนิยม นั่งพักกินมื้อเที่ยงกันที่นี้

พวกเราจึงนั่งพักกินมื้อเที่ยงที่นี้เลย เพราะตอนนี้ก็ 12:30 อีกอย่างตอนนี้เดินมา เกือบ 5km.แล้ว  หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย ก็ลุยกันต่อ ตอนบ่ายโมง

เดินต่อมาได้ราวครึ่งชั่วโมง ก็ถึงจุดชมวิวผา1




จุดชมวิวนี้ เราจะมองเห็น ผา2  ซึ่งคือจุดที่เราจะไปพักแคมป์กัน  

:
:
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่