มรสุมชีวิตทำไมมาเร็วจังเลยคะ เหนื่อย ท้อ ไม่ไหวแล้ว

กระทู้คำถาม
มองไปทางไหนก็ดูไม่มีหนทางเลย มันเครียด เครียดมาก เครียดจนอยากจะตายให้รู้ไปเลย

จขกทเป็นเด็กมอปลาย ตอนนี้เจอมรสุมชีวิตอย่างหนัก ไม่คิดว่าด้วยอายุตอนนี้จะรับไหว

บ้านจขกทฐานะปานกลาง มีพอกินพออยู่ แต่รู้สึกว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบสุขสบายเกินตัวมาตลอดด้วยซ้ำ จขกทก็รู้ว่าครอบครัวลำบากการเงิน เพราะแม่ก็ด่าให้ฟังตั้งแต่เด็กว่าบ้านเราไม่มีเงิน แต่จขกทก็ไม่เคยคิดหนักใจ ช่วงสองสามปีมานี้แม่มักจะด่าแรงขึ้นอีก ขึ้นอีขึ้นขึ้นกูกับจขกทตลอด ด้วยความเราเจอมาตั้งแต่เด็กก็ชิน ก็ไม่สนใจ จนมาถึงจุดที่ถึงว่าย่ำแย่ที่สุดในชีวิต คือการที่แม่หาคู่ผู้ชายเศรษฐีชาวต่างชาติรุ่นพ่อมาให้คุย บอกตรงๆว่าไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย

พูดตรงๆว่าเราใช้ชีวิตสบายมาตลอดไม่เคยลำบากทำอะไรเลย งานบ้านช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยเท่าที่ควรทำ จนเพื่อนบ้านพากันนินทาว่าลูกสาวบ้านนี้มันไม่ทำงานบ้าน ถูกค่ะ เราไม่ได้ทำจริงๆ ก็สมควรแล้วที่ผู้ใหญ่เขาจะติ แต่เราก็พยายามเอาดีด้านการเรียนอย่างหนักเพื่อให้พ่อแม่รู้สึกภูมิใจขึ้นมาบ้าง เราลงเรียนพิเศษ พยายามตั้งใจเรียนแบบสุดๆ ถ่อตัวไปเรียนที่พญาไท เราเรียนเยอะและหนักมากตั้งแต่มอหนึ่ง พยายามทุกอย่างเพื่อให้เกรดดี ให้พ่อแม่ภูมิใจ และเกรดก็ออกมาดีตามที่ตั้งใจ โอเคเราภูมิใจ พ่อแม่ภูมิใจ

แต่ที่ทำมาทั้งหมดรู้สึกมันฝันสลายเลยค่ะ อนาคตที่ฝันไว้ว่าจะทำอะไรจะเป็นอะไร จะเลี้ยงพ่อแม่ยังไง เพราะบ้านเราเจอปัญหาหนี้ ทั้งในธนาคารเฉียดล้าน ทั้งหนี้นอกระบบเกือบห้าแสน และเงินลงทุนธุรกิจส่วนตัวเล็กๆของที่บ้านอีกแสน เราเข้าใจแม่ เรารู้ว่าแม่คงจะไม่มีทางที่จะหาเงินมาใช้ได้ทันแน่ๆ เรารู้ว่าแม่พยายามหาผชต่างชาติตามเว็บต่างๆที่เป็นเศรษฐี เรารู้ แต่ไม่คิดว่ามันจะถึงตาเราเลย ค่ะ ตามที่กล่าวไว้ตอนแรก แม่เอารูปเราไปลงในเว็บ ซึ่งก่อนนั้นแม่มาขอเราก่อน ตอนนั้นด้วยความที่แม่เซ้าซี้เยอะมากเลยบอกปัดๆแม่ไปว่าจะทำอะไรก็ทำ

ซึ่งทุกอย่างแม่จัดการแม่คุย วันหนึ่งแม่บอกวิดีโอคอลคุยกับคนนี้ให้หน่อยนาทีเดียว เราช็อค เรางง เราโกรธ แต่แม่ก็เซ้าซี้ จนเราก็ยอมค่ะ เราจะขัดแม่ได้ไง ก็เขาเลี้ยงเรามา เราคอลแค่ยิ้มและฮัลโหลใส่เขาและวาง ไม่ถึงสิบวิด้วยมั้ง จากนั้นเราโกรธแม่มากไม่คิดว่าแม่จะเอาจริง ก็ตามสเตปเดิมค่ะ คิดว่าเดี๋ยวแม่ก็เลิกคุย แต่ความจริงมันไม่นะสิ ถึงขั้นเขาจะบินมาไทย มากินข้าวกับเรา คราวนี้แหละเรารู้ถึงความพังของชีวิตแบบจริงๆ

ถ้ามองเราในมุมมองของคนอื่นเราคงเป็นเด็กมอปลายธรรมดาคนนึงที่ว่างก็เอาแต่เรียนพิเศษ ไม่นอกลู่นอกทาง ร่าเริง ชีวิตดี ใช่ค่ะ เราชีวิตดีมากถ้าทุกคนไม่รู้ถึงว่าเรากลับบ้านมาเราต้องโดนด่าทุกวัน เราต้องไปกินข้าวกับผู้ชายรุ่นพ่อ แม่พูดถึงความยากลำบากในการเงินให้ฟังทุกวัน เราเครียด เครียดมาก ไปโรงเรียนเราก็ต้องทำตัวปกติได้แค่นั้น เราอยากร้องไห้ ตะโกนออกไปว่าเราเครียด เราเครียดมาก เราอยากให้มีใครรู้ว่าตอนนี้เราเครียดขนาดไหน เราอยากมีใครให้คำปรึกษา แต่แน่นอนอยู่แล้วใครจะกล้าเล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครฟัง

เราขอแม่อ่านแชทที่แม่คุยกับผู้ชายคนนั่นแทนเรา เราก็คิดว่าเขาดูเป็นคนดี แต่เข้าใจใช่ไหมคะว่าเราอายุเท่านี้ เขาอายุมากกว่าพ่อเราซะอีก ลูกสาวเขาก็โตกว่าเรา คิดแค่นี้เราก็อยากจะตายเต็มแก่แล้วละค่ะ แต่อีกใจก็สงสารแม่อยู่เหมือนกัน แม่ก็พร่ำบอกเราซ้ำๆว่าช่วยแม่เถอะ แม่ไม่มีทางแล้ว อีกอย่างเขาจะรอจนกว่าเราจะเรียนจบ แต่ความรู้สึกเรามันขัดแย้งกัน เราไม่เอา เราไม่อยากได้ ทั้งที่อีกซักสองสามปีเราจะเลี้ยงแม่เองได้อยู่แล้ว แต่สองสามปีคงจะนานไปสำหรับแม่และหนี้ของเรา

อีกอย่างหนึ่งเรากำลังจะก้าวสู่ชีวิตมหาลัย เราเตรียมตัวไว้แล้วว่าเราจะเข้าอะไร แค่เรื่องเรียนเราก็เครียดมากๆแล้วเพราะเราเป็นคนหัวช้า ตั้งพยายามมากสักหน่อยถึงจะตามคนอื่นเขาทัน โดยปกติเรามีเรื่องปัญหาการเงินครอบครัวให้เครียดเพิ่มอยู่แล้ว ไหนตอนนี้เราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก พูดได้เลยว่าตอนนี้เราไม่มีกำลังใจจะอยู่ต่อเลยสักนิด เราไม่เข้าใจทำไมเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ อายุเราต้องเป็นช่วงนี้มีแต่ความสนุกไม่ใช่หรอ เราน้อยใจ เหนื่อยใจ ท้อใจ ไม่รู้จะปรึกษาใคร เหนื่อยค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาฟังชีวิตของเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่