ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
เรื่องเล่าเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยาย"บันทึกคุณหญิงไอรีน" ของคุณกุลธิดา และเรื่อง "รักในรอยฝัน" ของคุณแอนนี่ ฮาร์โมนิก้า ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลิรักดอกจึงหยอกเล่น
ผู้เสียสละ
โดย...ลายลิ
นุ่นนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ จ้องมองตัวตึกแห่งหนึ่งอย่างพิศวงงงงวยว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ไงหว่า ข้างหน้านุ่นคือตัวตึกสองชั้นทรงยุโรป สร้างต้นรัชกาลที่หก มีมุขยื่นออกมาด้านหน้าเป็นรูปครึ่งวงกลมแล้วขยายเป็นปีกออกไปทั้งสองข้าง หลังคาปั้นหยาปูกระเบื้อง หน้าต่างชั้นบนก่อซุ้มยื่นออกมาเป็นกันสาด ฉลุไม้เป็นครีบไว้โดยรอบ ลายหยดน้ำฝนใต้ชายคาละเอียดยิบ รอบตัวตึกก่อรูปบัวหงายคาดระหว่างชั้น หน้าต่างบานเกล็ดมีทรงสูงและกว้าง มีช่องลมเหนือหน้าต่างเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม กรุกระจกหลากสี ส่งประกายแวววาวยามสะท้อนแสงแดด
...แต่เดี๋ยวก่อน ทั่วอาณาบริเวณกว้างใหญ่ นอกจากเรือนหลังเล็กหลายหลังซึ่งเป็นเรือนของคนรับใช้แล้ว รอบ ๆ ยังมีโรงนา และมีต้นองุ่นปลูกทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา โอ้โฮ ที่นี่เป็นไร่องุ่นอีกด้วย ป้ายหน้าปากทางเข้าบอกว่าชื่อไร่พระรามทิวอลลี่
ขณะกำลังนั่งคิดก็มีผู้หญิงสูงวัยนุ่งซิ่นกับสวมเสื้อคอกระเช้าเดินเข้ามาหา เธอชื่อไว เป็นคนรับใช้อยู่ที่ตึกใหญ่หลังนี้
“วันนี้เป็นไงมั่ง จำอะไรได้บ้างหรือยัง”
ต้องส่ายศีรษะปฏิเสธไป พยายามนึกแล้วแต่มันนึกไม่ออกนี่นา จำได้แค่ว่าตัวเองชื่ออินุ่น นอกเหนือจากนั้นมึนตึ้บ ไวเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้ว่า
“ที่นี่คือไร่องุ่นของคุณพระราม แบรด จูเนียร์ คุณท่านไปพบเธอนอนคุดคู้อยู่ตรงปากทางเข้าไร่เลยเอาใส่รถพามาที่นี่ โชคดีจริง ๆ ที่ไม่โดนคนร้ายมาพบเข้าก่อน ไม่งั้นคงกลายเป็นเนื้อแดดเดียวไปแล้ว ตอนนี้คุณท่านเข้าไปในกรมทหาร อีกสักพักคงมาดูเธอ ว่าแต่ไปไงมาไงถึงมานอนหลับอยู่ตรงนั้นได้ เรียกก็ไม่ยอมตื่น หล่อนนึกไม่ออกจริง ๆ เหรอ”
นุ่นไม่มีคำตอบให้หรอก นั่นสิ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ยังจำไม่ได้จริง ๆ จ้ะป้า”ก้มลงมองตัวเองแล้วให้สมเพช มีติดตัวมาแค่เสื้อผ้าชุดเดียว เงินทองก็ไม่มี กำลังจะเอ่ยปากขอยืมสาวรุ่นพี่ให้อุ่นใจก็เผอิญได้ยินเสียงถาม
“มาอยู่ที่นี่เอง เป็นไงมั่งล่ะเรา”
เสียงห้าวทุ้มของชายหนุ่มที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้ต้องเหลียวมองดู นุ่นเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ล่ำสัน สง่าผ่าเผย ผมตัดสั้นดูเหมือนสะบัดปลายน้อย ๆ ตาสีน้ำเงินเข้มคมปลาบ และมีผิวขาวอย่างชาวยุโรป อยู่ในชุดเครื่องแบบของทหารชั้นสัญญาบัตรสุดเท่ ว้าว...หล่อโก้ สมเป็นพระเอกทุกกระเบียดนิ้ว
เคียงข้างด้วยสาวน้อยร่างอรชร ใบหน้าขาวผ่องเจิดจรัสนั้นเรียวยาวไปจบที่ปลายคางมน หน้าผากนวลเนียน จมูกเล็ก ๆโด่งงาม ปากอวบอิ่มเรื่อชมพู แก้มบางราวแพรเนื้อดี นัยน์ตาสีน้ำตาลใส แวววาวราวมีหยาดน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ที่เด่นสุดคงไม่มีอะไรเกินผมสีแดงอมส้มเป็นประกายอยู่ในแสงแดดยามสาย หญิงชายทั้งคู่เป็นสายเลือดผสมระหว่างตะวันตกกับตะวันออกเป็นแน่
ท่าทียืนเคียงกันเหมาะสมแบบที่เรียกว่ากิ่งทองใบหยก คุณพระราม แบรด จูเนียร์ผู้สามี กับคุณหญิงไอแอชลี่ย์ ภรรยาของท่านนั่นเอง นุ่นเผลอจ้องมองคนสวยคนหล่อจนลืมสวัสดี แต่พอรู้ตัวก็รีบพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ทำนองขอฝากเนื้อฝากตัวทันที เพราะตอนนี้ตัวเองไม่รู้สี่รู้แปดอะไรเลย แถมยังไม่มีแก้วแหวนเงินทองติดตัว
“ไม่เจ็บปวดตรงไหนเลยค่ะ แต่จำอะไรไม่ได้ เอ้อ นุ่นขอตรง ๆ เลยนะคะ ขอพักอยู่ด้วยสักระยะ อีกสักพักคงจำอะไรได้บ้าง”
“ให้คุณพระรามตามหาญาติให้ดีไหมจ๊ะ”เสียงระฆังเงินดังขึ้น โอ้ย เสียงช่างใสหวานก้องกังวาน รอยยิ้มอ่อน ๆ น่าประทับใจ นุ่นมอง ๆ แล้วแสนอิจฉา อยากเป็นได้สักปลายนิ้วก้อยของเธอจริง ๆ
“ไม่ดีหรอกค่ะ เอ้อ หมายถึง นุ่นรู้สึกว่าอยู่ที่นี่อบอุ่นปลอดภัย ขออยู่ต่อสักสองสามวันนะคะ”
รีบพูดอ้อนเพราะรู้สึกว่าเธอต้องเป็นคนใจดี ก็มันจำอะไรไม่ได้เลย ขืนโผล่ออกไปข้างนอกทั้งเป็นแบบนี้จึงยังไม่แน่ใจในความปลอดภัย รอให้จำได้บ้างดีกว่า ที่สำคัญนุ่นไม่อยากเจอตำรวจ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“อย่ายอมให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านง่าย ๆ เลยค่ะ อาจเป็นสายโจรหรือหัวขโมย”
คราวนี้เป็นเสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงดังสอดขึ้นมา แม่เจ้าโว้ย ร่างอวบอัดอยู่ในชุดผ้าแถบรัดอกกับนุ่งซิ่น ช่างแต่งตัวประเจิดประเจ้อเหมือนนางอิจฉาในนิยาย หล่อนก้าวเดินมาใกล้ นุ่นจำเธอได้ แอบเห็นเธอทำท่ายั่วยวนคุณพระรามของนุ่น เอ้ย ของคุณหญิงไอแอชลี่ย์ผู้งดงามเมื่อวานนี้ด้วย เธอสั่งให้เรียกเธอว่าเออร์ซูล่าทั้ง ๆ ที่ชื่อจริงคือแว่นแก้ว ซึ่งไวเป็นคนช่วยเล่าให้ฟัง ได้ยินมาว่าหล่อนบังอาจขอมาอาศัยอยู่ด้วยกับคุณพระรามหน้าตาเฉย ซึ่งท่านก็ยอมตามประสาคนมีน้ำใจ แน่ะ พูดแล้วทำตาเหลือกตาคว่ำค้อนฉับ ๆ เข้าใส่นุ่นอีกด้วย เกลียดยัยนี่เสียจริง เจ้าของบ้านก็ไม่ใช่
“เรือนเราออกกว้างขวางใหญ่โต เธอคนนี้ก็พึ่งรู้สึกตัว แถมยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ น่าสงสารเธอนะคะคุณพระราม” พูดกับนุ่นแต่ดวงตาน้ำตาลใสจ้องมองหญิงในชุดผ้าแถบอย่างเหนื่อยหน่าย แน่ล่ะสิ คุณหญิงต้องรู้ว่ามีคนจ้องจะยกตำแหน่งภรรยาหลวงให้ นุ่นดีใจแทบร้องไชโย คุณหญิงมีเมตตาไม่ผลักไสไล่ส่ง นุ่นชักรักเธอกับรักคุณพระรามสามีเธอเสียแล้วล่ะ ซึ่งมันเป็นความรักอันบริสุทธิ์งดงามประดุจน้ำค้างบนปลายยอดหญ้าหน้าหนาวที่กลายเป็นแม่คะนิ้ง ไม่ได้อยากครอบครอง ขอแค่ได้อ่าน...เอิ่ม ได้มองก็พอ
“อืม ดู ๆ ไปก็ไม่น่ามีผิดมีภัยอะไร ท่าทางบ๊อง ๆ เอ้อ ท่าทางยังงง ๆ ให้อยู่ต่ออีกสองสามวันแล้วค่อยพาไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ทางนั้นช่วยตามหาญาติก็แล้วกัน” ท่านผู้เป็นประธานในบ้านบอกด้วยเสียงทรงอำนาจ แม่เออร์ซูล่าแว่นแก้วเลยเงียบไป
“โฮ่ง ๆ”
โอะโย๊ะโย๋ สุนัขสีน้ำตาลไหม้พันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดตัวโตหูตั้ง ลิ้นยาว หางเป็นพวง เห่าอยู่ในรถโฟล์วิลสีดำคันใหญ่
“อ้าว ลืมแม็กซ์เสียสนิท ไวไปเปิดประตูเอาเขาลงมาที แล้วพวกเราเข้าบ้านไปดื่มกาแฟกันก่อนเถอะ วันนี้แม่ครัวทำอาหารฝรั่งขึ้นโต๊ะ”
พอคุณพระรามพูดจบ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นปนกับกลิ่นเบคอนทอดกรอบ รวมทั้งกลิ่นครัวซองท์อบใหม่และกลิ่นเนยลอยมาเข้าจมูก นุ่นดมฟุดฟิดท้องร้องโครกครากขึ้นมาทันที รีบพนมมือแต้พร้อมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง นึกสงสัยว่าตัวเองอาจมาจากประเทศทางตะวันตกก็ได้ แต่ทำไมหน้าออกแบน ๆ ซึ่งเป็นข้อขัดแย้งในใจ แต่ช่างมันเถอะ ถ้ายังจำอะไรไม่ได้ก็จะขออาศัยอยู่ที่นี่ไปก่อน นุ่นคงเป็นโรคแพ้ความสวยความหล่อ ถึงไม่อยากจากเจ้าของบ้านที่นี่ไปไหน
ตอนสาย ๆ ของวันรุ่งขึ้น นุ่นแอบย่องมาฟังเสียงซุบซิบที่ดังลอดมาจากในห้องของแม่สาวทรงโต ผู้ที่นุ่นพึ่งรู้จุดประสงค์ร้ายกาจว่าอยากแย่งสามีคนอื่น แหม แม่ตัวดีกำลังวางแผนจะหลอกมอมเหล้าคุณราม แบรด จูเนียร์ แล้วทำให้คุณหญิงไอแอชลี่ย์เข้าใจผิด เจ้าหล่อนอาจทำถึงขั้นแกล้งท้องกับเขา โดยลงทุนมีอะไรกับผู้ชายที่นัดมาถึงห้องคนนี้
แต่ช้าก่อน มีนุ่นอยู่นี่ทั้งคน จะไม่ให้แผนชั่วสำเร็จเป็นอันขาด นุ่นบีบจมูกตัวเองกลั้นหายใจนับหนึ่งถึงสามแล้วหมุนตัวคว้าง
พรึ่บ! ทันใดนั้นร่างกายนุ่นก็กลายเป็น ออลันโด้ บรูม จากเรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง หากนึกภาพไม่ออกสามารถดูภาพประกอบข้างบนได้ เพราะนุ่นพึ่งจำขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่า ตัวเองคือมนุษย์พันธุ์พิเศษ X- men คนล่าสุด ที่สามารถกลายร่างเป็นใครก็ได้ ความสามารถพิเศษนี้แลกกับความทรงจำของนุ่นทั้งหมด
สาวเท้าเข้าไปในห้องแม่สาวทรงสะบึมหลังจากเจ้าผู้ชายคนนั้นกลับไป สาวทรงโตตะลึงมองอย่างประหลาดใจ ก่อนเปลี่ยนสายตาเป็นปลื้มปริ่ม อ้อ แม่ตัวดีคงคลั่งเดอะ ลอร์ด เหมือนกัน
“อย่าเสียเวลากับคุณราม แบรด เลยคนสวย ไปกับผมเถอะ ผมจะแนะนำให้รู้จักผู้กำกับระดับโลก แล้วคุณอาจได้แสดงหนังเดอะ ลอร์ด ภาคล่าสุด”
หล่อนยักไหล่ ประกายตาสาวเออร์ซูล่าแว่นแก้วเต้นระยับ แน่ล่ะ สาวคนไหนก็อยากเป็นดารากันทั้งนั้น โดยไม่ถามต่อให้มากความและไม่ลังเลรีรอเลยสักนิด เธอคว้าเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเป็นชุดหนังรัดรูปสีดำฟิตเปรี๊ยะ
“จริงรึ”
“จริงสิ”
“แน่นะ”
“อ๋อ แน่สิ”
ถูกต้องค่ะ นุ่นจะพาเธอไปเสียจากชีวิตสุขสงบของสองสามีภรรยาผู้ที่นุ่นซาบซึ้งใจในความมีเมตตา ขอตอบแทนบุญคุณของคุณราม แบรด และคุณหญิงไอแอชลี่ย์ด้วยการพาแม่สาวไฟแรงสูงคนนี้ไปเสียให้พ้น เธอควรไปแคตติ้งเป็นดาราดาวยั่วดวงใหม่ให้สมกับความร้อนแรงของเธอ ซึ่งเป็นการดีกับทุกฝ่าย ได้หรือไม่ได้สุดแท้แต่วาสนา หลังจากนั้นนุ่นจะออกตามหามนุษย์พันธุ์พิเศษพวกเดียวกัน ให้เขาช่วยฟื้นความจำส่วนอื่นว่านุ่นเป็นใครและมาจากไหน
นุ่นยอมตัดใจไปจากที่นี่ทั้ง ๆ ที่ได้มอบหัวใจให้คุณราม แบรด จูเนียร์ ไปเสียแล้ว แต่รักแท้คือการเสียสละ เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข
...นุ่นยอมเสียสละค่ะ...
จบ อิอิ
ผู้เสียสละ...(เรื่องเล่าจากแรงรักและคิดถึง)
เรื่องเล่าเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยาย"บันทึกคุณหญิงไอรีน" ของคุณกุลธิดา และเรื่อง "รักในรอยฝัน" ของคุณแอนนี่ ฮาร์โมนิก้า ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดย...ลายลิ
นุ่นนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ จ้องมองตัวตึกแห่งหนึ่งอย่างพิศวงงงงวยว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ไงหว่า ข้างหน้านุ่นคือตัวตึกสองชั้นทรงยุโรป สร้างต้นรัชกาลที่หก มีมุขยื่นออกมาด้านหน้าเป็นรูปครึ่งวงกลมแล้วขยายเป็นปีกออกไปทั้งสองข้าง หลังคาปั้นหยาปูกระเบื้อง หน้าต่างชั้นบนก่อซุ้มยื่นออกมาเป็นกันสาด ฉลุไม้เป็นครีบไว้โดยรอบ ลายหยดน้ำฝนใต้ชายคาละเอียดยิบ รอบตัวตึกก่อรูปบัวหงายคาดระหว่างชั้น หน้าต่างบานเกล็ดมีทรงสูงและกว้าง มีช่องลมเหนือหน้าต่างเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม กรุกระจกหลากสี ส่งประกายแวววาวยามสะท้อนแสงแดด
...แต่เดี๋ยวก่อน ทั่วอาณาบริเวณกว้างใหญ่ นอกจากเรือนหลังเล็กหลายหลังซึ่งเป็นเรือนของคนรับใช้แล้ว รอบ ๆ ยังมีโรงนา และมีต้นองุ่นปลูกทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา โอ้โฮ ที่นี่เป็นไร่องุ่นอีกด้วย ป้ายหน้าปากทางเข้าบอกว่าชื่อไร่พระรามทิวอลลี่
ขณะกำลังนั่งคิดก็มีผู้หญิงสูงวัยนุ่งซิ่นกับสวมเสื้อคอกระเช้าเดินเข้ามาหา เธอชื่อไว เป็นคนรับใช้อยู่ที่ตึกใหญ่หลังนี้
“วันนี้เป็นไงมั่ง จำอะไรได้บ้างหรือยัง”
ต้องส่ายศีรษะปฏิเสธไป พยายามนึกแล้วแต่มันนึกไม่ออกนี่นา จำได้แค่ว่าตัวเองชื่ออินุ่น นอกเหนือจากนั้นมึนตึ้บ ไวเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้ว่า
“ที่นี่คือไร่องุ่นของคุณพระราม แบรด จูเนียร์ คุณท่านไปพบเธอนอนคุดคู้อยู่ตรงปากทางเข้าไร่เลยเอาใส่รถพามาที่นี่ โชคดีจริง ๆ ที่ไม่โดนคนร้ายมาพบเข้าก่อน ไม่งั้นคงกลายเป็นเนื้อแดดเดียวไปแล้ว ตอนนี้คุณท่านเข้าไปในกรมทหาร อีกสักพักคงมาดูเธอ ว่าแต่ไปไงมาไงถึงมานอนหลับอยู่ตรงนั้นได้ เรียกก็ไม่ยอมตื่น หล่อนนึกไม่ออกจริง ๆ เหรอ”
นุ่นไม่มีคำตอบให้หรอก นั่นสิ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ยังจำไม่ได้จริง ๆ จ้ะป้า”ก้มลงมองตัวเองแล้วให้สมเพช มีติดตัวมาแค่เสื้อผ้าชุดเดียว เงินทองก็ไม่มี กำลังจะเอ่ยปากขอยืมสาวรุ่นพี่ให้อุ่นใจก็เผอิญได้ยินเสียงถาม
“มาอยู่ที่นี่เอง เป็นไงมั่งล่ะเรา”
เสียงห้าวทุ้มของชายหนุ่มที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้ต้องเหลียวมองดู นุ่นเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ล่ำสัน สง่าผ่าเผย ผมตัดสั้นดูเหมือนสะบัดปลายน้อย ๆ ตาสีน้ำเงินเข้มคมปลาบ และมีผิวขาวอย่างชาวยุโรป อยู่ในชุดเครื่องแบบของทหารชั้นสัญญาบัตรสุดเท่ ว้าว...หล่อโก้ สมเป็นพระเอกทุกกระเบียดนิ้ว
เคียงข้างด้วยสาวน้อยร่างอรชร ใบหน้าขาวผ่องเจิดจรัสนั้นเรียวยาวไปจบที่ปลายคางมน หน้าผากนวลเนียน จมูกเล็ก ๆโด่งงาม ปากอวบอิ่มเรื่อชมพู แก้มบางราวแพรเนื้อดี นัยน์ตาสีน้ำตาลใส แวววาวราวมีหยาดน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ที่เด่นสุดคงไม่มีอะไรเกินผมสีแดงอมส้มเป็นประกายอยู่ในแสงแดดยามสาย หญิงชายทั้งคู่เป็นสายเลือดผสมระหว่างตะวันตกกับตะวันออกเป็นแน่
ท่าทียืนเคียงกันเหมาะสมแบบที่เรียกว่ากิ่งทองใบหยก คุณพระราม แบรด จูเนียร์ผู้สามี กับคุณหญิงไอแอชลี่ย์ ภรรยาของท่านนั่นเอง นุ่นเผลอจ้องมองคนสวยคนหล่อจนลืมสวัสดี แต่พอรู้ตัวก็รีบพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ทำนองขอฝากเนื้อฝากตัวทันที เพราะตอนนี้ตัวเองไม่รู้สี่รู้แปดอะไรเลย แถมยังไม่มีแก้วแหวนเงินทองติดตัว
“ไม่เจ็บปวดตรงไหนเลยค่ะ แต่จำอะไรไม่ได้ เอ้อ นุ่นขอตรง ๆ เลยนะคะ ขอพักอยู่ด้วยสักระยะ อีกสักพักคงจำอะไรได้บ้าง”
“ให้คุณพระรามตามหาญาติให้ดีไหมจ๊ะ”เสียงระฆังเงินดังขึ้น โอ้ย เสียงช่างใสหวานก้องกังวาน รอยยิ้มอ่อน ๆ น่าประทับใจ นุ่นมอง ๆ แล้วแสนอิจฉา อยากเป็นได้สักปลายนิ้วก้อยของเธอจริง ๆ
“ไม่ดีหรอกค่ะ เอ้อ หมายถึง นุ่นรู้สึกว่าอยู่ที่นี่อบอุ่นปลอดภัย ขออยู่ต่อสักสองสามวันนะคะ”
รีบพูดอ้อนเพราะรู้สึกว่าเธอต้องเป็นคนใจดี ก็มันจำอะไรไม่ได้เลย ขืนโผล่ออกไปข้างนอกทั้งเป็นแบบนี้จึงยังไม่แน่ใจในความปลอดภัย รอให้จำได้บ้างดีกว่า ที่สำคัญนุ่นไม่อยากเจอตำรวจ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“อย่ายอมให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านง่าย ๆ เลยค่ะ อาจเป็นสายโจรหรือหัวขโมย”
คราวนี้เป็นเสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงดังสอดขึ้นมา แม่เจ้าโว้ย ร่างอวบอัดอยู่ในชุดผ้าแถบรัดอกกับนุ่งซิ่น ช่างแต่งตัวประเจิดประเจ้อเหมือนนางอิจฉาในนิยาย หล่อนก้าวเดินมาใกล้ นุ่นจำเธอได้ แอบเห็นเธอทำท่ายั่วยวนคุณพระรามของนุ่น เอ้ย ของคุณหญิงไอแอชลี่ย์ผู้งดงามเมื่อวานนี้ด้วย เธอสั่งให้เรียกเธอว่าเออร์ซูล่าทั้ง ๆ ที่ชื่อจริงคือแว่นแก้ว ซึ่งไวเป็นคนช่วยเล่าให้ฟัง ได้ยินมาว่าหล่อนบังอาจขอมาอาศัยอยู่ด้วยกับคุณพระรามหน้าตาเฉย ซึ่งท่านก็ยอมตามประสาคนมีน้ำใจ แน่ะ พูดแล้วทำตาเหลือกตาคว่ำค้อนฉับ ๆ เข้าใส่นุ่นอีกด้วย เกลียดยัยนี่เสียจริง เจ้าของบ้านก็ไม่ใช่
“เรือนเราออกกว้างขวางใหญ่โต เธอคนนี้ก็พึ่งรู้สึกตัว แถมยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ น่าสงสารเธอนะคะคุณพระราม” พูดกับนุ่นแต่ดวงตาน้ำตาลใสจ้องมองหญิงในชุดผ้าแถบอย่างเหนื่อยหน่าย แน่ล่ะสิ คุณหญิงต้องรู้ว่ามีคนจ้องจะยกตำแหน่งภรรยาหลวงให้ นุ่นดีใจแทบร้องไชโย คุณหญิงมีเมตตาไม่ผลักไสไล่ส่ง นุ่นชักรักเธอกับรักคุณพระรามสามีเธอเสียแล้วล่ะ ซึ่งมันเป็นความรักอันบริสุทธิ์งดงามประดุจน้ำค้างบนปลายยอดหญ้าหน้าหนาวที่กลายเป็นแม่คะนิ้ง ไม่ได้อยากครอบครอง ขอแค่ได้อ่าน...เอิ่ม ได้มองก็พอ
“อืม ดู ๆ ไปก็ไม่น่ามีผิดมีภัยอะไร ท่าทางบ๊อง ๆ เอ้อ ท่าทางยังงง ๆ ให้อยู่ต่ออีกสองสามวันแล้วค่อยพาไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ทางนั้นช่วยตามหาญาติก็แล้วกัน” ท่านผู้เป็นประธานในบ้านบอกด้วยเสียงทรงอำนาจ แม่เออร์ซูล่าแว่นแก้วเลยเงียบไป
“โฮ่ง ๆ”
โอะโย๊ะโย๋ สุนัขสีน้ำตาลไหม้พันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดตัวโตหูตั้ง ลิ้นยาว หางเป็นพวง เห่าอยู่ในรถโฟล์วิลสีดำคันใหญ่
“อ้าว ลืมแม็กซ์เสียสนิท ไวไปเปิดประตูเอาเขาลงมาที แล้วพวกเราเข้าบ้านไปดื่มกาแฟกันก่อนเถอะ วันนี้แม่ครัวทำอาหารฝรั่งขึ้นโต๊ะ”
พอคุณพระรามพูดจบ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นปนกับกลิ่นเบคอนทอดกรอบ รวมทั้งกลิ่นครัวซองท์อบใหม่และกลิ่นเนยลอยมาเข้าจมูก นุ่นดมฟุดฟิดท้องร้องโครกครากขึ้นมาทันที รีบพนมมือแต้พร้อมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง นึกสงสัยว่าตัวเองอาจมาจากประเทศทางตะวันตกก็ได้ แต่ทำไมหน้าออกแบน ๆ ซึ่งเป็นข้อขัดแย้งในใจ แต่ช่างมันเถอะ ถ้ายังจำอะไรไม่ได้ก็จะขออาศัยอยู่ที่นี่ไปก่อน นุ่นคงเป็นโรคแพ้ความสวยความหล่อ ถึงไม่อยากจากเจ้าของบ้านที่นี่ไปไหน
ตอนสาย ๆ ของวันรุ่งขึ้น นุ่นแอบย่องมาฟังเสียงซุบซิบที่ดังลอดมาจากในห้องของแม่สาวทรงโต ผู้ที่นุ่นพึ่งรู้จุดประสงค์ร้ายกาจว่าอยากแย่งสามีคนอื่น แหม แม่ตัวดีกำลังวางแผนจะหลอกมอมเหล้าคุณราม แบรด จูเนียร์ แล้วทำให้คุณหญิงไอแอชลี่ย์เข้าใจผิด เจ้าหล่อนอาจทำถึงขั้นแกล้งท้องกับเขา โดยลงทุนมีอะไรกับผู้ชายที่นัดมาถึงห้องคนนี้
แต่ช้าก่อน มีนุ่นอยู่นี่ทั้งคน จะไม่ให้แผนชั่วสำเร็จเป็นอันขาด นุ่นบีบจมูกตัวเองกลั้นหายใจนับหนึ่งถึงสามแล้วหมุนตัวคว้าง
พรึ่บ! ทันใดนั้นร่างกายนุ่นก็กลายเป็น ออลันโด้ บรูม จากเรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง หากนึกภาพไม่ออกสามารถดูภาพประกอบข้างบนได้ เพราะนุ่นพึ่งจำขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่า ตัวเองคือมนุษย์พันธุ์พิเศษ X- men คนล่าสุด ที่สามารถกลายร่างเป็นใครก็ได้ ความสามารถพิเศษนี้แลกกับความทรงจำของนุ่นทั้งหมด
สาวเท้าเข้าไปในห้องแม่สาวทรงสะบึมหลังจากเจ้าผู้ชายคนนั้นกลับไป สาวทรงโตตะลึงมองอย่างประหลาดใจ ก่อนเปลี่ยนสายตาเป็นปลื้มปริ่ม อ้อ แม่ตัวดีคงคลั่งเดอะ ลอร์ด เหมือนกัน
“อย่าเสียเวลากับคุณราม แบรด เลยคนสวย ไปกับผมเถอะ ผมจะแนะนำให้รู้จักผู้กำกับระดับโลก แล้วคุณอาจได้แสดงหนังเดอะ ลอร์ด ภาคล่าสุด”
หล่อนยักไหล่ ประกายตาสาวเออร์ซูล่าแว่นแก้วเต้นระยับ แน่ล่ะ สาวคนไหนก็อยากเป็นดารากันทั้งนั้น โดยไม่ถามต่อให้มากความและไม่ลังเลรีรอเลยสักนิด เธอคว้าเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเป็นชุดหนังรัดรูปสีดำฟิตเปรี๊ยะ
“จริงรึ”
“จริงสิ”
“แน่นะ”
“อ๋อ แน่สิ”
ถูกต้องค่ะ นุ่นจะพาเธอไปเสียจากชีวิตสุขสงบของสองสามีภรรยาผู้ที่นุ่นซาบซึ้งใจในความมีเมตตา ขอตอบแทนบุญคุณของคุณราม แบรด และคุณหญิงไอแอชลี่ย์ด้วยการพาแม่สาวไฟแรงสูงคนนี้ไปเสียให้พ้น เธอควรไปแคตติ้งเป็นดาราดาวยั่วดวงใหม่ให้สมกับความร้อนแรงของเธอ ซึ่งเป็นการดีกับทุกฝ่าย ได้หรือไม่ได้สุดแท้แต่วาสนา หลังจากนั้นนุ่นจะออกตามหามนุษย์พันธุ์พิเศษพวกเดียวกัน ให้เขาช่วยฟื้นความจำส่วนอื่นว่านุ่นเป็นใครและมาจากไหน
นุ่นยอมตัดใจไปจากที่นี่ทั้ง ๆ ที่ได้มอบหัวใจให้คุณราม แบรด จูเนียร์ ไปเสียแล้ว แต่รักแท้คือการเสียสละ เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข
...นุ่นยอมเสียสละค่ะ...