ขอระบายความในใจ
ประชาชนส่วนใหญ่เกือบครึ่งประเทศ หาเลี้ยงชีพด้วยการเกษตร ในหลวงจึงไปดูรายละเอียดในทุกสาขาการเกษตร วิทยาศาสตร์ การค้า สหกรณ์ ท่านคิดเพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น คนต้องเรียนรู้พัฒนาตัวเอง ความพอเพียงท่านไม่ได้หมายถึงหยุดพัฒนา การทำให้ชีวิตดีขึ้น
โครงสร้างเศรษฐกิจแบบวันนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนอยู่ได้ แต่ปัจจุบันคนหากิน บริโภคแบบเดียวกับคนกรุง เค้าขึ้นเครื่องบิน มีทีวี มีตู้เย็น ใช้รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ นี่คือชีวิตเกษตรกรในปัจจุบัน
แต่ราคาผลิตผล ขึ้นกับตลาดโลก เช่นข้าว ยาง เราบริโภคข้าวประมาณ10 ล้านดัน เราต้องขายข้าว 10 ล้านตัน
สมัยก่อนเพื่อนบ้านขัดแย้งกันเค้าก็มีผลผลิตไม่พอ แต่ตอนนี้เพื่อนบ้านเราได้เปรียบเรา
เราจึงมีปัญหาเรื่องราคาผลิตผลการเกษตร
เช่นชาวนา มีนา 15 ไร่ ทำได้ 8 เกวียน สมมุติเกวียนละ 10000 บาท (แต่จริงๆ 5000-6000บาท จากตลาดโลก) อิสานทำนาได้ปีละ 1 ครั้ง สมมุติว่าไม่มีต้นทุนเลย ปีนึงจะมีรายได้เท่าไหร่ จะเลี้ยงครอบครัวอย่างไร
โครงสร้างเกษตรของไทย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรล้าหลัง 500 กิโล ต่อไร่ แต่ญี่ปุ่น 800 กิโลต่อไร่ ค่าใช้จ่ายเราสูงกว่า
2.0 ภาคการผลิต
3.0 ภาคเอกชนขนาดใหญ่ เราก็ต่อต้าน เพราะบริษัทไทยขนาดใหญ่ต้องไปแข่งกับต่างประเทศ แต่เราบอก 3.0 มาแข่งกับ 1.0 ซึ่งจริงๆมันต้องมีหมด เล็ก กลาง ใหญ่
ดังนั้นใหญ่ กลาง เล็กช่วยกัน ให้เกษตรอยู่ได้ แทนที่จะให้ปลูกข้าวแล้วล้นตลาด ราคาต้นทุนสูง มีความเสี่ยง โดยเฉพาะนาปรัง ภาครัฐต้องเลือก ว่าจะจำนำข้าวอีก หรือจะดึงเอกชนมาช่วยรับซื้อ แต่ต้องเลือกผลิตภัฑณ์ที่มีตลาด ไม่ใช่ผลิตโดยไม่แคร์ Supply demand ไม่งั้นก็มีปัญหา มาประท้วงกันอีก
ดังนั้นมันต้องเริ่มที่ตลาด ดูว่าเอกชนรายใหญ่มาช่วย ใครมาช่วยรับซื้ออะไรบ้าง เกษตรกรจะได้กล้าเปลี่ยนไปปลูกอะไรที่ตลาดต้องการ
ตราบใดที่ข้าวโพด เอกชนยังนำเข้า แถมราคาถูกมากกว่าปลูกในประเทศ แสดงว่าความต้องการข้าวโพดยังมีสูง เพราะยังมีการนำเข้า แต่ถ้าให้เค้าซื้อราคาแพงกว่า คือซื้อในประเทศ ให้คนเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดแทนนาปรัง เอกชนก็ต้นทุนสูงขึ้น แทนการนำเข้าที่ถูกกว่า แต่ถือเป็นการช่วยเกษตรกร รัฐขอมาเพื่อเกษตรกร เอกชนต้องสนับสนุน เพื่อเกษตรกรเอง ที่รับภาระขาดทุนจากการปลูกข้าว หากต่อต้านเพื่อบอกให้เกษตรกรปลูกนาปรัง แล้วเวลาเค้าขาดทุน มีใครลงไปรับผิดชอบ เราจะไม่หลุดจากวงจรจำนำข้าวไม่มีคุณภาพ เป็นบ่วงตลอดไป"
ฟังผมสิครับ!!! เสียงจาก ลูกชาวนา ทำไมผมปลูกข้าวโพดแทนข้าวนาปรัง ผมไม่ได้โง่ นะครับ!!
ประชาชนส่วนใหญ่เกือบครึ่งประเทศ หาเลี้ยงชีพด้วยการเกษตร ในหลวงจึงไปดูรายละเอียดในทุกสาขาการเกษตร วิทยาศาสตร์ การค้า สหกรณ์ ท่านคิดเพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น คนต้องเรียนรู้พัฒนาตัวเอง ความพอเพียงท่านไม่ได้หมายถึงหยุดพัฒนา การทำให้ชีวิตดีขึ้น
โครงสร้างเศรษฐกิจแบบวันนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนอยู่ได้ แต่ปัจจุบันคนหากิน บริโภคแบบเดียวกับคนกรุง เค้าขึ้นเครื่องบิน มีทีวี มีตู้เย็น ใช้รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ นี่คือชีวิตเกษตรกรในปัจจุบัน
แต่ราคาผลิตผล ขึ้นกับตลาดโลก เช่นข้าว ยาง เราบริโภคข้าวประมาณ10 ล้านดัน เราต้องขายข้าว 10 ล้านตัน
สมัยก่อนเพื่อนบ้านขัดแย้งกันเค้าก็มีผลผลิตไม่พอ แต่ตอนนี้เพื่อนบ้านเราได้เปรียบเรา
เราจึงมีปัญหาเรื่องราคาผลิตผลการเกษตร
เช่นชาวนา มีนา 15 ไร่ ทำได้ 8 เกวียน สมมุติเกวียนละ 10000 บาท (แต่จริงๆ 5000-6000บาท จากตลาดโลก) อิสานทำนาได้ปีละ 1 ครั้ง สมมุติว่าไม่มีต้นทุนเลย ปีนึงจะมีรายได้เท่าไหร่ จะเลี้ยงครอบครัวอย่างไร
โครงสร้างเกษตรของไทย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรล้าหลัง 500 กิโล ต่อไร่ แต่ญี่ปุ่น 800 กิโลต่อไร่ ค่าใช้จ่ายเราสูงกว่า
2.0 ภาคการผลิต
3.0 ภาคเอกชนขนาดใหญ่ เราก็ต่อต้าน เพราะบริษัทไทยขนาดใหญ่ต้องไปแข่งกับต่างประเทศ แต่เราบอก 3.0 มาแข่งกับ 1.0 ซึ่งจริงๆมันต้องมีหมด เล็ก กลาง ใหญ่
ดังนั้นใหญ่ กลาง เล็กช่วยกัน ให้เกษตรอยู่ได้ แทนที่จะให้ปลูกข้าวแล้วล้นตลาด ราคาต้นทุนสูง มีความเสี่ยง โดยเฉพาะนาปรัง ภาครัฐต้องเลือก ว่าจะจำนำข้าวอีก หรือจะดึงเอกชนมาช่วยรับซื้อ แต่ต้องเลือกผลิตภัฑณ์ที่มีตลาด ไม่ใช่ผลิตโดยไม่แคร์ Supply demand ไม่งั้นก็มีปัญหา มาประท้วงกันอีก
ดังนั้นมันต้องเริ่มที่ตลาด ดูว่าเอกชนรายใหญ่มาช่วย ใครมาช่วยรับซื้ออะไรบ้าง เกษตรกรจะได้กล้าเปลี่ยนไปปลูกอะไรที่ตลาดต้องการ
ตราบใดที่ข้าวโพด เอกชนยังนำเข้า แถมราคาถูกมากกว่าปลูกในประเทศ แสดงว่าความต้องการข้าวโพดยังมีสูง เพราะยังมีการนำเข้า แต่ถ้าให้เค้าซื้อราคาแพงกว่า คือซื้อในประเทศ ให้คนเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดแทนนาปรัง เอกชนก็ต้นทุนสูงขึ้น แทนการนำเข้าที่ถูกกว่า แต่ถือเป็นการช่วยเกษตรกร รัฐขอมาเพื่อเกษตรกร เอกชนต้องสนับสนุน เพื่อเกษตรกรเอง ที่รับภาระขาดทุนจากการปลูกข้าว หากต่อต้านเพื่อบอกให้เกษตรกรปลูกนาปรัง แล้วเวลาเค้าขาดทุน มีใครลงไปรับผิดชอบ เราจะไม่หลุดจากวงจรจำนำข้าวไม่มีคุณภาพ เป็นบ่วงตลอดไป"