เที่ยวภูฏาน...แบบไม่ง้อทัวร์ เพราะเพื่อนพาเที่ยว! part II

จากพาร์ท 1 ผมได้มีโอกาสเยือนราชอาณาจักรภูฏาน อันเป็นจุดหมายใหม่ของคนไทยหลายคน แต่ในมุมที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสและอยากนำมาแบ่งปันครับ สำหรับพาร์ทแรกติดตามได้จากลิ้งค์ครับ

เที่ยวภูฏาน...แบบไม่ง้อทัวร์ เพราะเพื่อนพาเที่ยว! part I    http://ppantip.com/topic/35691020
เที่ยวภูฏาน...แบบไม่ง้อทัวร์ เพราะเพื่อนพาเที่ยว! part III  http://ppantip.com/topic/35753914
เที่ยวภูฏาน...แบบไม่ง้อทัวร์ เพราะเพื่อนพาเที่ยว! part IV http://ppantip.com/topic/35875227

เมื่ออิ่มหนำ เติมพลังในมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อย เราเดินลงจากร้านพอพ้นตัวตึก หันซ้ายก็จะพบกับสนามกีฬาแห่งชาติของภูฏานตั้งอยู่แค่ตรงข้ามฝั่งถนน ผมและภรรยาเดินไปข้ามถนนไปโดยต้องฝ่าฝูงน้องหมามากมายที่นอนหลับพักผ่อนกันเต็มฟุตบาท


ที่ทิมพูหรือเมืองไหนๆในภูฏานจะมีหมาอยู่เต็มไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหมาจรไม่มีเจ้าของ เคยมีคนเล่าให้ฟังว่านักท่องเที่ยวหลายคนหลับนอนกันไม่ได้เกือบทั้งคืน เพราะเหล่าน้องหมาจะพร้อมใจกันบรรเลงเพลงเห่าหอน และบางครั้งก็ทำสงครามกลางเมืองกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทำไมกิจกรรมเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นเฉพาะตอนกลางคืนที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้าจะหลับนอนกัน จนผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ผู้เขียนกล่าวเอาไว้ว่า หมาภูฏานนั้นเป็นหมาพลังแสงอาทิตย์ ตอนกลางวันจะมานอนหลับตากแดดเพื่อชาร์จพลังเอาไว้เห่าหอนในตอนกลางคืน ก็ดูท่าจะจริงตามที่เค้าว่า

สนามกีฬาแห่งชาติของภูฏานนั้น ยังคงออกแบบตกแต่งตัวอาคารตามแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่นทั้งซุ้มที่นั่งประธานและอัฒจันทร์ ซึ่งมีเอกลักษณ์และสวยงามแปลกตาดี อัฒจันทร์ของสนามจะยาวกว่าสนามกีฬาทั่วไปมาก คือกะด้วยสายตาผมนี่น่าจะยาวกว่าสนามฟุตบอลมาตรฐานไปถึงอีกเกือบๆครึ่งสนามฟุตบอลเลยทีเดียว ตัวสนามตั้งขนานกับสวน Centenary Park และแม่น้ำทิมพูมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง ดูขลังและมีเสน่ห์ทีเดียว

ในสนามขณะนี้กำลังมีทีมลงมาใช้สนามซ้อมกันพอดี มีเด็กๆวัยรุ่นทั้งชายและหญิงแวะมาชมการซ้อมอยู่พอสมควร ฟุตบอลอาจเป็นอีกชนิดกีฬาที่เด็กรุ่นใหม่ที่นี่ให้ความสนใจนอกเหนือจากกีฬาประจำชาติอย่างยิงธนู เพราะมีการแข่งฟุตบอลอาชีพกันในประเทศ รวมถึงผมทราบมาว่ามีนักฟุตบอลชาวภูฏานมาเล่นอาชีพอยู่ในประเทศไทยด้วย แต่ถามคนที่นี่กลับไม่มีใครบอกได้ว่าอยู่กับสโมสรอะไร (ใครทราบบอกกันบ้างนะครับ)


เดินย้อนออกจากสนามกีฬา ข้ามถนนย้อนกลับไปเพื่อจะเดินต่อไปที่จัตุรัสกลางเมือง (Clock Tower Square) ทางเดินคราวนี้เราเดินขึ้นเนินที่ลาดชันหน่อยๆ แค่ระยะทางสั้นๆยังทำเอาหายใจแรงได้เหมือนกัน

จัตุรัสกลางเมือง (Clock Tower Square) เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองทิมพู เป็นที่จัดกิจกรรมต่างๆของเมืองและเป็นจุดนัดพบของวัยรุ่นชาวภูฏาน เนื่องจากรอบๆจัตุรัสรายล้อมไปด้วยห้างร้านมากมายที่เหล่าวัยรุ่นนิยมมาช้อปปิ้ง ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์ IT เช่นโทรศัพท์มือถือและแผ่น dvd เปรียบได้กับย่านสยามมิกซ์รวมกับMBKในที่เดียว

ตรงกลางลานจะมีหอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของจัตุรัส ในวันนั้นที่ผมและภรรยาไปเดินเล่น มีกิจกรรมที่จัดโดยสถานทูตญี่ปุ่นประจำภูฏานเนื่องจากโอกาสฉลแงความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ มีการแสดงการละเล่นพื้นบ้านของญี่ปุ่น และการร่วมขับร้องเพลงญี่ปุ่นโดยนักเรียนชาวภูฏาน  การแสดงในวันนี้มีผู้ชมค่อนข้างหนาตา และน้องหมาเจ้าถื่นที่คงไม่ค่อยพอใจนัก ที่มีคนมาทำกิจกรรมในที่นอนของมัน มันก็เลยนอนซะหน้าเวทีตรงนั้นแหละ แทบจะนอนทับเท้าของผู้ดำเนินรายการเลย แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครมาไล่มันไปไหน



หนุ่มสาวยุคใหม่ชาวภูฏานนิยมและคลั่งไคล้ในวัฒนธรรมเกาหลีมากคล้ายๆกับวัยรุ่นไทยครับ แต่การแต่งกายนั้นจะแฟชั่นกว่าทางเรามาก อาจจะเพราะสภาพอากาศที่เย็นเหมือนกัน เลยทำให้แฟชั่นเสื้อผ้าแนวกิมจิเป็นที่นิยมมาก

ไม่นานนัก Choki ก็ติดต่อมาและสอบถามสถานที่นัดเจอ เพื่อจะรับผมและภรรยาไปดูตัวทาคิน สัตว์ประจำชาติของประเทศภูฏานซึ่งถูกเลี้ยงเอาไว้ในสวนสัตว์ของเมืองทิมพู เรานัดพบกันข้างๆลานจัตุรัสนั้นเอง เมื่อเจอกันและทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ผมเพิ่งเหลือบไปเห็นแบงค์ยืนหน้าซีดขาสั่นอยู่ข้างๆ ยังไม่ทันถามก็ได้พบคำตอบ พ.ข.ร. Damdem เจ้าเก่าที่พาผมและภรรยามาส่งเมื่อคืนนี้ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ ‘นี่กูต้องนั่งรถกับ Drift King อีกแล้วหรือนี่?’ สอบถามได้ความว่าเพื่อนอีกคนที่ตั้งใจจะมาในวันนี้ติดงานด่วน จึงสลับวันให้ Damdem มาพาพวกเราเที่ยวแทนในวันนี้

รถมินิแวนพาเราไต่ขึ้นเนินชันเพื่อไปสู่สวนสัตว์นครทิมพู ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Motitang ซึ่งเป็นบริเวณที่พำนักของเหล่าราชวงศ์ภูฏานหลายพระองค์ ตำหนักหลายแห่งจะมีป้ายบอกชื่อตำหนักและมีป้อมรักษาการตั้งอยู่ด้านหน้า ไต่เนินกันไม่นานรถก็มาจอดอยู่ที่หน้าซุ้มประตูทางเข้าสวนสัตว์ มีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ดูจะเป็นอินเดียแวะมาเที่ยวกันน่าจะมากกว่าชาติอื่น


ภรรยาผมเมื่อมาเจอทางเดินขึ้นเนินชัน ก็เริ่มจะทำคิ้วขมวดหน้าซีด การมาเที่ยวครั้งที่แล้วเธอประสบปัญหาอย่างมากเกี่ยวกับอาการ altitude sickness หรืออาการแพ้ที่สูง ทำให้ไม่สามารถเดินขึ้นบันไดหรือเนินเขาได้เลย แม้แต่ทางราบๆก็ยังเดินได้แค่แป๊บเดียวก็ต้องพัก มาคราวนี้ถึงแม้เธอจะเตรียมตัวทานยามาอย่างดีแล้วก็ยังมิวายเหนื่อยง่ายอยู่เช่นเดิม ถึงแม้อาการจะไม่หนักเท่าครั้งก่อนก็ตาม เธอจึงบอกให้ผมเดินล่วงหน้าไปก่อนแล้วเธอจะค่อยๆเดินตามไปทีหลัง

สวนสัตว์ตั้งอยู่บนลาดเนินเขาริมนครทิมพู สูงจากระดับตัวเมืองขึ้นมาพอสมควร พื้นที่รวมๆเป็นป่าสนและมีธารน้ำไหลผ่ากลางกรงสัตว์ ตัวทาคินเดินเพ่นพ่านอยู่หลายตัว ทีแรกที่เห็นทำเอางงว่านี่มันวัวหรือแพะ? จะว่าเอาสัตว์ทั้งสองชนิดนี้มา mix & ไม่match กันก็น่าจะได้ ทาคินเป็นสัตว์หน้าตาประหลาดอีกชนิดที่ผมเคยพบ ลำตัวโตเต็มที่มีขนาดพอๆกับวัวตัวเล็กๆ คือไหล่ของทาคินสูงประมาณอกของผม เท้าเป็นกีบ ซึ่งกีบเท้าใหญ่มากกกก น่าจะเพื่อการเดินบนลาดเขาสูงชันในแถบหิมาลัย มีตำนานเล่าถึงตัวทาคินว่า ลามะอันเป็นเทพเจ้าของชาวภูฏานชื่อ ท่านดรุกปา คุนเลย์ ได้นำเอาหัวแพะมาเสียบกับกระดูกวัว และใช้อภินิหารชุบชีวิตขึ้นมากลายเป็นทาคิน ซึ่งกลายเป็นสัตว์พันธุ์ใหม่



ในอดีตก็เคยมีทาคินถูกเลี้ยงดูอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้ ต่อมาพระเจ้า Jigme Singye Namgyel Wangchuck ซึ่งเป็นกษัตริย์พระองค์ก่อนได้มีพระราชดำรัสให้ปล่อยทาคินทั้งหมดกลับสู่ผืนป่า แต่เพราะความเชื่องและติดมนุษย์ ทาคินเหล่านี้จึงยังคงวนเวียนอยู่ในกับเมืองทิมพูไม่ยอมไปไหนไกล จนสุดท้ายทาคินทั้งหมดจึงถูกนำกลับมาอยู่ในสวนสัตว์เช่นเดิม

นอกจากทาคินแล้ว ในสวนสัตว์แห่งนี้ก็มีเพียงสัตว์ประเภทกวางอยู่ด้วย แต่ไม่มากนัก Damdem บอกว่ากวางเหล่านี้ไม่ได้ถูกเลี้ยงเพื่อเอาไว้จัดแสดง แต่ทั้งหมดเป็นสัตว์ป่าที่ถูกกับดักของพรานป่าดักเอาจนได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งมารักษาตัวที่นี่ก่อนจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ จึงนับว่าสวนสัตว์แห่งนี้เป็นสถานพยาบาลให้แก่สัตว์ป่าผู้โชคร้าย ที่ทะเล่อทะล่าเดินมาติดกับดักไปในตัว

ในตอนกลับ ผมและแบงค์เกิดปวดเบาและแวะเข้าห้องน้ำกัน ผมได้พบว่า โถปัสสวะในภูฏานนั้นมีการออกแบบและติดก๊อกน้ำได้เป็นเอกลักษณ์ดีมาก เมื่อเสร็จธุระและต้องการจะเปิดน้ำ ผมต้องก้มลงไปเปิดน้ำจนหัวแทบจะมุดเข้าไปในโถ เนื่องจากก๊อกน้ำติดเอาไว้ข้างๆและต่ำกว่าตัวโถ กลิ่นสดชื่นดีจริงๆ


เดี๋ยวมาต่อครับ สักครู่
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่