ปลัดแรงงานย้ำชัดมติค่าจ้างขึ้นตามกรอบปัจจัยทางเศรษฐกิจ ชี้แนวโน้มปรับเปลี่ยนยาก
http://www.matichon.co.th/news/335199
ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) กรณีปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ประจำปี 2560 ใน 69 จังหวัดทั่วประเทศ โดยปรับเป็นอัตรา 305 บาทต่อวันใน 49 จังหวัด และ 308 บาทต่อวันใน 13 จังหวัด และ 310 บาทต่อวันใน 7 จังหวัด และไม่ปรับขึ้นอีก 8 จังหวัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 นั้น ว่า เป็นมติไม่เหมาะสม เพราะข้อเท็จจริงควรปรับขึ้นให้เท่ากันทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ม.ล.
ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า บอร์ดค่าจ้างได้พิจารณาบนฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ทั้งจากพื้นที่ของจังหวัด และได้คิดตามสูตรที่กำหนด เป็นตัวเลขตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญได้พิจารณาร่วมกันระหว่างไตรภาคี คือ นายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ประกอบกับเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจถึง 10 รายการ ได้แก่
1.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับปัจจุบัน 2.ดัชนีค่าครองชีพ 3.อัตราค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2558-2559 4.มาตรฐานค่าเฉลี่ยการครองชีพ 5.ต้นทุนการผลิต 6.ราคาสินค้าและบริการ 7.ความสามารถของธุรกิจ 8.ผลิตภาพแรงงาน 9.ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ตั้งแต่ปี 2553-2557 และ 10.สภาพเศรษฐกิจและสังคม
“โดยการพิจารณาทั้งหมดยังตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น เพื่อศึกษาอย่างถี่ถ้วนหลายต่อหลายครั้ง แรกๆ ไม่มีการปรับขึ้น แต่ให้มีการทบทวนใหม่ เนื่องจากเดิมทีอัตราเงินเฟ้อของประเทศติดลบ แต่ได้ทบทวนและพบว่าปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อไม่ติดลบ จึงได้พิจารณาจนได้ตัวเลขและออกเป็นมติดังกล่าว ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องออกเป็นประกาศและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป ซึ่งการมาเรียกร้องครั้งนี้ ทางกระทรวงเข้าใจดี แต่การจะเปลี่ยนแปลงมติอาจจะค่อนข้างยาก แต่ไม่ใช่ไม่รับฟังก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการ เพื่อให้รับทราบเรื่องนี้” ม.ล.
ปุณฑริกกล่าว
...เอิ่ม...จะทันค่าครองชีพไหมครับเนี่ย...
JJNY : เศรษฐกิจดี๊ดี...ปลัดแรงงานย้ำชัดมติค่าจ้างขึ้นตามกรอบปัจจัยทางเศรษฐกิจ /“โค้ก”ปรับขึ้นราคาขวดแก้วเป็น 12 บ.
http://www.matichon.co.th/news/335199
ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) กรณีปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ประจำปี 2560 ใน 69 จังหวัดทั่วประเทศ โดยปรับเป็นอัตรา 305 บาทต่อวันใน 49 จังหวัด และ 308 บาทต่อวันใน 13 จังหวัด และ 310 บาทต่อวันใน 7 จังหวัด และไม่ปรับขึ้นอีก 8 จังหวัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 นั้น ว่า เป็นมติไม่เหมาะสม เพราะข้อเท็จจริงควรปรับขึ้นให้เท่ากันทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า บอร์ดค่าจ้างได้พิจารณาบนฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ทั้งจากพื้นที่ของจังหวัด และได้คิดตามสูตรที่กำหนด เป็นตัวเลขตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญได้พิจารณาร่วมกันระหว่างไตรภาคี คือ นายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ประกอบกับเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจถึง 10 รายการ ได้แก่
1.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับปัจจุบัน 2.ดัชนีค่าครองชีพ 3.อัตราค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2558-2559 4.มาตรฐานค่าเฉลี่ยการครองชีพ 5.ต้นทุนการผลิต 6.ราคาสินค้าและบริการ 7.ความสามารถของธุรกิจ 8.ผลิตภาพแรงงาน 9.ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ตั้งแต่ปี 2553-2557 และ 10.สภาพเศรษฐกิจและสังคม
“โดยการพิจารณาทั้งหมดยังตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น เพื่อศึกษาอย่างถี่ถ้วนหลายต่อหลายครั้ง แรกๆ ไม่มีการปรับขึ้น แต่ให้มีการทบทวนใหม่ เนื่องจากเดิมทีอัตราเงินเฟ้อของประเทศติดลบ แต่ได้ทบทวนและพบว่าปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อไม่ติดลบ จึงได้พิจารณาจนได้ตัวเลขและออกเป็นมติดังกล่าว ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องออกเป็นประกาศและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป ซึ่งการมาเรียกร้องครั้งนี้ ทางกระทรวงเข้าใจดี แต่การจะเปลี่ยนแปลงมติอาจจะค่อนข้างยาก แต่ไม่ใช่ไม่รับฟังก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการ เพื่อให้รับทราบเรื่องนี้” ม.ล.ปุณฑริกกล่าว
...เอิ่ม...จะทันค่าครองชีพไหมครับเนี่ย...