ความรู้สึกเฝ้า พระราชพิธีขบวนเคลื่อนพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

เมื่อวันที่ 14 ต.ต. 59 ที่ผ่านมาผมได้ไปเฝ้าพระราชพิธีขบวนเคลื่อนพระบรมศพ
ผมออกจากบ้านแต่เช้าซึ่งระหว่างการเดินทางผมเห็นคนไทยทุกคนสวมใส่เสื้อสีดำ - ขาว ระหว่างขึ้นบนรถบีทีเอสเพื่อไปลงสะพานตากสิน บรรยากาศเงียบและหดหู่มากครับ ผมสังเกตุคุณป้าท่านนึงมองไปบนหน้าจอของรถไฟฟ้าแล้วร้องไห้คุณป้าที่นั่งข้างๆสวมแว่นและร้องไห้ตามซึ่งผมก็แน่ใจได้เลยว่าทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อผมลงมาถึงสะพานตากสินนั้นท่าเรือเต็มไปด้วยประชาชนจำนวนมากซึ่งทุกคนที่ลองถามก็มีจิตใจมุ่งไปที่บริเวณท้องสนามหลวงทั้งสิ้น และที่สำคัญผู้คนจากทั่วประเทศได้มาและพูดคุยกันบอกถึงความรู้สึกตัวเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อผมถึงท่ามหาราช เวลาประมาณ 8.30 น.ซึ่งเป็นเวลาที่เช้ามากแต่ผมมองไปรอบๆกับเห็นผู้คนจำนวนมากซึ่งผมคิดว่าผมมาเช้าแล้วแต่กับหลายคนมาเช้ากว่าผมและบางคนที่ผมถามพวกเค้า ได้คำตอบว่ายังไม่ได้กลับบ้านเลยมีคุณป้าท่านนึงอายุราวๆ 50-60ปี เล่าว่าเมื่อรู้ข่าวว่าในหลวงประชวรเค้ามาจากปทุมธานีตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาจนที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลยซึ่งป้าเค้ามีความมุ่งมั่นมาก และผมก็เห็นแถวยาวมาก ยาวแบบยาวจริงๆครับแถวยาวตั้งแต่หน้าพระบรมมหาราชวัง(วัดพระแก้ว)ยาวไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วก็ตัดแถวมาเข้าสนามหลวงแถววนเกือบรอบสนามหลวง แถวประมาณ4-5แถวนะครับผมก็ถามว่าเข้าแถวทำไมหรอครับ และก็ได้รู้ว่าเข้าแถวไปเพื่อสรงน้ำพระบรมศพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และผมก็ได้ไปเข้าแถวเพื่อรอครับตั้งแต่เช้ายันเกือบเที่ยงครับแดดร้อนมาก และมีคุณยายท่านนึงอายุราวๆ 80ปีท่านเดินก็ไม่ค่อยไหวนะครับแต่จิตใจสู้มากครับพี่ๆคนในแถวจึงบอกให้ท่านไปนั่งบริเวณต้นไม้ก่อนแล้วจะเฝ้าแถวให้พูดกล่อมจนคุณยายยอม พอแถวเดินเคลื่อนคุณยายก็รีบลุกและเดินไปอย่างรวดเร็วพี่ในแถวก็บอกคุณยายไม่ต้องรีบเดี๋ยวล้มเอาได้ ซึ่งผมเห็นผมภาพแบบนี้แล้วยิ่งตื้นตันใจครับ และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ปิดไม่ให้ผู้คนเข้าเวลา 11.50น. ซึ่งผมก็รู้สึกเสียดายนะครับแต่ไม่เป็นไรผมมาด้วยใจที่รักและภักดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอแถวสลายไปผู้คนก็เริ่มจับจองที่นั่งผมก็ไปหาที่นั่งบริเวณถนนราชดำเนินใน ในตอนแรกมีความวุ่นวายครับเพราะทุกๆคนก็อยากเห็นขบวน ผมนั่งบริเวณประตูเข้าออกรถฉุกเฉินครับแต่ผมนั่งบริเวณในแผงกั้นและผู้คนเริ่มมากขึ้นๆเลื่อยและเจ้าหน้าที่ก็มีน้อยครับ พอคนเริ่มมากก็มีคนเริ่มมายืนออบริเวณหน้าประตูครับเจ้าหน้าที่ก็เริ่มไล่เพราะเป็นประตูรถฉุกเฉินหลายคนให้ความร่วมมือครับแต่มีบางคนกับเถียงเจ้าหน้าที่ไป และเจ้าหน้าที่บอกถ้ามีคนป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลเค้าต้องใช้ทางนี้แต่เค้าก็ไม่ยอมไปและเถียงว่ารถออกได้ๆ พอคนเริ่มให้ความสนใจก็มีคนแถวนั้นบอกว่าให้เห็นแก่ส่วนรวมด้วยครับ คนที่มานั่งเค้ามากันแต่เช้าคุณพึงมาแล้วมานั่งบังทางเข้าออกรถฉุกเฉินแบบนี้ได้ไงคนไทยด้วยกันนะครับแล้วก็เริ่มมีคนพูดแบบนี้เลื่อยๆ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ฝั่งตรงข้ามสนามหลวงก็ให้คนเขยิบมานั่งบริเวณถนนได้และคนก็เริ่มไปนั่งจำนวนมากครับ และฝั่งสนามหลวงก็เช่นกันครับสามารถนั่งบริเวณถนนได้เพราะคนเยอะมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอนั่งรอเฝ้าขบวนพระบรมศพ ตอนนั้นเวลาบ่ายโมงครับแต่มีกำหนดการเลื่อยครับซึ่งทุกๆคนก็ไม่ยอมแพ้ครับ ทุกตารางนิ้วที่นั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่อัดแน่นนั่งรอด้วยใจที่รักยิ่งครับและแดดร้อนมากๆครับลมก็ไม่ค่อยมี แต่มีพยาบาล อาสา นักศึกษา รวมถึงเจ้าหน้าที่ช่วยบริการอย่างเต็มที่ครับ ทั้งน้ำดื่ม แอมโมเนีย ทอฟฟี่ และไม่ใช่แค่นั้นครับประชาชนก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างครับพอมีคนแจกน้ำผู้คนที่นั่งก็บอกว่ามีใครอยากได้น้ำดื่มไหมครับ บางคนก็มีพัดก็พัดให้ผู้คนรอบข้างครับ บางคนมีร่มก็ช่วยกางร่มให้กับคนอื่นๆครับ มีบางคนเป็นลมครับแต่คุณพี่ใจสู้มากครับไม่ยอมไปไหนเลย เจ้าหน้าที่พยาบาลก็มาช่วยเหลือครับและทุกคนในนั้นก็ช่วยพัดจนพี่เค้าเริ่มไหวก็นั่งรอต่อครับ เวลาเริ่มใกล้เข้ามาถึงเจ้าหน้าที่ได้ประกาศว่างดเปล่งเสียงออกมา ให้ประชาชนทุกคนพนมมือตั้งจิตครับ และทุกคนก็ทำตามเป็นอย่างดีเวลาประมาณ 4 โมงกว่าๆผมจำไม่ได้กี่นาทีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าให้ทุกคนหุบร่ม ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ งดถ่ายภาพ งดใช้เสียง ซึ่งทุกคนก็ทำตามเจ้าหน้าที่ครับทหารเริ่มมาตั้งแถวกับตำรวจ ก็เริ่มมีทหารมหาดเล็กเดินไปที่วัดพระแก้วครับ คือช่วงระหว่างนั้นมีรถติดธงประเทศต่างๆวิ่งไปมาจำนวนมากครับไม่แน่ใจใช่รถของเอกอัคราชทูตหรือป่าว จนเวลา 5โมงเย็นครับฟ้าเริ่มเย็นมีเมฆและแดดเริ่มหายไปครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าใกล้จะถึงเวลาที่บขวนเคลื่อนพระบรมศพจะผ่านมาแล้วทุกคนเงียบมากครับไม่มีใครพูดอะไรเลยใบหน้าของทุกคนแลดูเศร้าสลด บรรยากาศวังเวงและหดหู่มากครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (ภาพบรรยากาศก่อนนะครับ พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ไม่ให้ถ่ายรูปครับ)
พอขบวนพระบรมศพเริ่มเคลื่อนผ่านหน้า ทุกอย่างเงียบไปหมดครับเหมือนเวลาหยุดนิ่งไว้ตรงนั้น ทุกคนยกมือไหว้บ้างก็ก้มลงกราบลงไปกับพื้นครับ ได้ยินแต่เสียงรถที่เคลื่อนผ่าน นกที่กำลังร้อง และประชาชนที่กำลังร้องไห้รวมถึงผมครับเป็นเวลาที่ไม่อยากจะได้ยินหรือนึกคิดจริงๆครับ เศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก ทหารและตำรวจทุกนายนั่งชันเข่าพร้อมวันทยาหัตถ์ครับ เมื่อขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่านไปทุกคนก็เริ่มลุกครับแต่สิ่งนึงที่ผมเห็นคือทุกๆคนช่วยกันเก็บขยะ และไม่มีขยะทิ้งบริเวณนั้นเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นผู้คนบางส่วนก็เริ่มถยอยกันกับบ้านครับ และผมก็ได้ไปดูทหารยิงปืนใหญ่ในบริเวณท้องสนามหลวงเสียงดังกึกกองทั่วบริเวณนั้นเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนตกเย็นและมึดผมก็ได้รอรับส่งเสด็จกลับพระบรมมหาราชวังครับ บรรยากาศชั่งเงียบเหงาเหลือเกิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จกลับ จากนั้นผมก็ได้ถ่ายภาพบริเวณโดยรอบครับจะเก็บไว้เป็นความทรงจำและไม่มีทางลบออกจากใจของผมและคนไทยทั้งประเทศได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วจากนั้นผมก็ได้เดินผ่านกระทรวงกลาโหมแล้วเจอภาพภาพนึงผมได้ยกมือขึ้นไหว้พร้อมน้ำตาคลอครับแล้วคิดในใจว่าขอให้พระองค์พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรคาลัยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อผมเดินทางกลับบ้านไปลงที่หัวลำโพงเพื่อจะต่อMRT สิ่งที่ผมเห็นคือคนจำนวนมากที่มาจากต่างหวัดเพื่อมาร่วมพระราชพิธีครับ ได้นอนรวมขบวนรถไฟในสถานีหัวลำโพงตรงนั้นจำนวนมากทำให้ผมรู้ได้เลยครับว่าทุกคนที่เป็นคนไทยมีพ่อองค์เดียวกันคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
สิ่งที่ผมเล่าตามจริงแล้วอาจมีมากกว่านี้ครับ และความรู้สึกบางอย่างซึ่งอธิบายเป็นตัวอักษรไม่ได้ครับ ผมเสียใจและเศร้ามากกับเรื่องที่คนไทยทุกคนไม่อยากจะให้เกิด ได้ยินหรือนึกคิดเลยครับ ผมนั่งพิมพ์ไปคิดไปและร้องไห้ไปด้วยความรู้สึกที่หดหู่ใจเป้นอย่างมากครับ บางคำที่พิมพ์ไปหากผิดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่