เมื่อวันที่ 9 พ.ย.59 ที่ผ่านมาเราพาแม่เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๕๙ ที่ผ่านมา
สำหรับคนต่างจังหวัด การเดินทางมาอาจจะไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่แต่ถ้าตั้งใจแล้วก็ไม่มีอะไรที่มาเป็นอุปสรรคแน่นอน ... บ้านเราอยู่จังหวัดราชบุรีนี่เอง นั่งรถมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง แต่เราคิดว่าอาจไม่สะดวกสำหรับแม่แน่ ๆ เลยหาเช่าห้องพักแบบรายวันให้แกซะหน่อยจะดีกว่า เอาไว้อาบน้ำ หรือ นอนพักซัก 2-3 ชั่วโมงก่อนไปเข้าแถวที่สนามหลวงก็ยังดี อีกอย่างสัมภาระต่าง ๆ ที่เอามาจะได้ไม่ต้องแบกไปด้วย
[แนะนำ] นะคะสำหรับคนที่อยากจะหาห้องพักถูก ๆ และดีในระดับที่พอนอนพักชั่วคราวได้ แนะนำ "สิทธิ เกสต์เฮ้าส์" อยู่ในซอยรามบุตรี คือเดินออกมาจากซอยเราจะเจอฝั่งสนามหลวงเลยนะคะ วิ่งข้ามถนนตรงตีนสะพานพระปิ่นเกล้า ก็คือสนามหลวงเลย สะดวกมาก
จริง ๆ พี่เราบอกว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเปิดให้คนไทยพักนะ เพราะแทบนี้ฝรั่งจะพักซะส่วนใหญ่ // ถือว่าโชคดีทีเดียว
ราคาตามนี้เลยค่ะ 1 ห้องจำกัด 2 คน ของเราเลือกแบบห้องแอร์ค่ะ 400 บาท (ราคาไม่แพง แถมได้ห้องแอร์ด้วย)
**ก่อนที่เราจะพาแม่มาเข้าแถว เราได้มาดูเส้นทางก่อนหน้านี้กับพี่ชายแล้วว่าเข้าแถวตรงไหน จุดลงทะเบียนอยู่ตรงไหน ต้องเดินมาตรงไหน ** เรียกง่าย ๆ คือไปดูเชิงก่อน ... บรรยากาศโดยรอบตอนนั้นก็ประมาณเกือบ 3 ทุ่มแล้วแต่บรรยากาศโดยรอบสนามหลวงของวันที่ 8 พ.ย. ก็ยังคงครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาทั้งไปและกลับ บางคณะก็ยังไม่ได้เข้าไปในพระราชวังก็มี บางคณะก็กำลังเดินทางกลับกันก็มี .. บรรยากาศต่าง ๆ โดยรอบมันทำให้ชื้นใจอย่างบอกไม่ถูก
รถเมย์ฟรีค่ะ
ผู้คนเดินทางมาไม่ขาดสาย ภาพวันที่ 8 พ.ย.59
คณะนี้น่าจะเดินทางกลับ
มอไซร์ฟรี ทำความดีเพื่อพ่อ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ใช้บริการค่ะ เพราะแม่เราเริ่มเดินไม่ไหวแล้ว
นางดีใจค่ะ แบบว่าแม่เดินไม่ไหวแล้ว พากลับที่พักพรุ่งนี้คือวันจริงที่ต้องลุยสนาม
ตี 4 เราพาแม่เดินข้ามถนนตรงตีนสะพานพระปิ่นเกล้า รถน้อยมากแต่ใช่ว่าจะไม่มีรถวิ่งผ่านนะคะ เพราะช่วงเวลานี้คนเริ่มทยอยกันมาเข้าแถวแล้วค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องรีบเดินเพื่อไปถามเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้หางแถวอยู่ตรงไหน สิ่งแรกที่คิดขึ้นได้คือเมื่อวานที่ไปดูเชิงมาไม่มีประโยชน์เลย เพราะแถววันนี้เปลี่ยนอีกแล้ว โชคดีที่เห็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าเราเลยรีบพาแม่ไปต่อคิว คือเดินไปแบบ งง ๆ เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่าหางแถวคือตรงไหน 55 ซักพักหาหางแถวเจอก็ยืนรอเลยค่ะ ไม่ถึง 5 นาทีหางแถวยาวมาก เราฟังที่เจ้าหน้าที่ประกาศคือตอนนี้หางแถวอยู่เต้นที่ 48 แล้ว (เร็วมาก)
แม่เราตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงนะคะ จะมีซุ้มบริการผู้ที่เดินทางมาเข้าแถวตลอดทาง อย่างเช่น กาแฟ ปาท่องโก๋ ไข้ต้ม ข้าวหน้าปลาทอด ขนม น้ำ ต่าง ๆ ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพวกเราค่ะ
ส่วนเรื่องการเข้าแถว เราต้องเดินอย่างมีสตินิดนึงนะคะ เพราะบางช่วงแถวจะห่างมากเพราะคนยืนรับของแจกฟรีอยู่ แต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยยืนดูแลและบริการเราตลอดเส้นทางที่เราเข้าแถวเลยค่ะ แถวจะเป็นประมาณนี้ค่ะ ตอนแรก 4 มา 2 มา 3 มา 4 แบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วแต่จุดที่เจ้าหน้าที่บอก
บรรยากาศตอนตี 4 กว่า ๆ ค่ะ
พอแถวเริ่มเขยิบขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจก็เริ่มชื้นค่ะ ทุกคนต่างใจจดใจจ่อในการที่จะได้เข้าไป แม้อากาศจะร้อนแต่ทุกคนโดยรอบก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมาให้ได้ยินเลย ทุกคนยิ้มแย้ม และเข้าแถวอย่างเรียบร้อย
ตอนแรกเราคิดว่าเรามาเช้าแล้ว แต่จริง ๆ มีคนที่มารอเช้ากว่านั้นมาก ซักพักผู้คนในเต้นก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในพระราชวัง ซึ่งแน่นอนแถวที่เราเข้าอยู่ก็เขยิบตามขึ้นไปด้วย แต่เราไม่ได้ต้องรอที่เก้าอี้แล้ว เดินตามเข้าไปในพระราชวังเหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกอะไรๆๆมันไวไปหมดเลย เร็วมาก
แถวที่เรายืนอยู่เคลื่อนตัวเข้าไปในพระราชวังอย่างเร็ว
ตอนนี้เราอยู่ในพระราชวังแล้วนะคะ ณ เวลา 5.15 นาที
>>หลังจากภาพนี้แล้ว จะไม่สามารถถ่ายรูปได้แล้วนะคะ ทางเจ้าหน้าที่จะขอความกรุณาให้ปิดเครื่อง ปิดเสียงโทรศัพท์ และห้ามถ่ายรูปใดๆๆทั้งสิ้นเพราะอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังแล้ว
เราจะเดินผ่านประตูพิมานไชยศรี
ขออนุญาตนำมารูปจาก FB.วสันต์ วณิชชากร มาให้ชมนะคะ
ขออนุญาตนำมารูปจาก FB.วสันต์ วณิชชากร มาให้ชมนะคะ
พอเข้าไปด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เจ้าหน้าที่จะแจกถุงดำไว้ให้เราใส่ถุงเท้าและรองเท้านะคะ เพื่อหิ้วไปด้านในพระที่นั่งด้วย
เราทุกคนจะต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไปกราบพระบรมศพค่ะ บรรยากาศ ณ ตอนนั้น เงียบกริบแบบสุด ๆ เลย เราเข้าไปยืนเข้าแถวรอขึ้นไปด้านบนพระที่นั่ง เวลา 06.00 น. มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม แค่ได้ยินเสียงปี่พาทย์แล้วหัวใจแทบสลาย มันบอกไม่ถูกถึงความรู้สึกในตอนนั้นเลย มันเงียบจนบอกไม่ถูก
ออกจากวัง ประมาณ 06:30 น.
ทางออกประตูเทวาภิรมย์ ทางเจ้าหน้าที่ของพระราชวังจะจัดซุ้มแจกข้าวเปลือก นมกล่อง น้ำขวด และรูปหน้าพระบรมศพเพื่อเป็นที่ระลึกค่ะ
รูปหน้าพระบรมศพ
ข้าวเปลืกของพ่อ
ส่วนนี่จะเป็นซุ้มจากนอกวังนะคะ มาแจกเหมือนกัน
การแต่งกาย
ขอแนะนำ
ถ้าสะดวกมาวันธรรมดาได้ก็จะดีนะคะ เพราะคนจะไม่เยอะเท่าวันเสาร์-วันอาทิตย์
การเดินทาง
“ขสมก.” จัดรถเมล์ฟรีบริการประชาชนที่เดินทางร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ระหว่าง 14-16 ต.ค. 2559 ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.ในสายที่ผ่านบริเวณวัดพระแก้ว สนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง ด้านการรถไฟฯ จัดเพิ่มตู้โดยสารพ่วงในขบวนรถไฟฟรี รถไฟเชิงพาณิชย์ และเพิ่มขบวนรถฟรีเสริมเที่ยวพิเศษสายชานเมือง-ทางไกลอีก 18 ขบวน ตั้งแต่ 14 ต.ค. รองรับการเดินทางได้เพิ่มจากปกติอีกวันละ 1.5-2 หมื่นคนต่อวัน
ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
พาแม่ไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อวันที่ ๙พ.ย.๒๕๕๙
สำหรับคนต่างจังหวัด การเดินทางมาอาจจะไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่แต่ถ้าตั้งใจแล้วก็ไม่มีอะไรที่มาเป็นอุปสรรคแน่นอน ... บ้านเราอยู่จังหวัดราชบุรีนี่เอง นั่งรถมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง แต่เราคิดว่าอาจไม่สะดวกสำหรับแม่แน่ ๆ เลยหาเช่าห้องพักแบบรายวันให้แกซะหน่อยจะดีกว่า เอาไว้อาบน้ำ หรือ นอนพักซัก 2-3 ชั่วโมงก่อนไปเข้าแถวที่สนามหลวงก็ยังดี อีกอย่างสัมภาระต่าง ๆ ที่เอามาจะได้ไม่ต้องแบกไปด้วย
[แนะนำ] นะคะสำหรับคนที่อยากจะหาห้องพักถูก ๆ และดีในระดับที่พอนอนพักชั่วคราวได้ แนะนำ "สิทธิ เกสต์เฮ้าส์" อยู่ในซอยรามบุตรี คือเดินออกมาจากซอยเราจะเจอฝั่งสนามหลวงเลยนะคะ วิ่งข้ามถนนตรงตีนสะพานพระปิ่นเกล้า ก็คือสนามหลวงเลย สะดวกมาก
จริง ๆ พี่เราบอกว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเปิดให้คนไทยพักนะ เพราะแทบนี้ฝรั่งจะพักซะส่วนใหญ่ // ถือว่าโชคดีทีเดียว
ราคาตามนี้เลยค่ะ 1 ห้องจำกัด 2 คน ของเราเลือกแบบห้องแอร์ค่ะ 400 บาท (ราคาไม่แพง แถมได้ห้องแอร์ด้วย)
**ก่อนที่เราจะพาแม่มาเข้าแถว เราได้มาดูเส้นทางก่อนหน้านี้กับพี่ชายแล้วว่าเข้าแถวตรงไหน จุดลงทะเบียนอยู่ตรงไหน ต้องเดินมาตรงไหน ** เรียกง่าย ๆ คือไปดูเชิงก่อน ... บรรยากาศโดยรอบตอนนั้นก็ประมาณเกือบ 3 ทุ่มแล้วแต่บรรยากาศโดยรอบสนามหลวงของวันที่ 8 พ.ย. ก็ยังคงครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาทั้งไปและกลับ บางคณะก็ยังไม่ได้เข้าไปในพระราชวังก็มี บางคณะก็กำลังเดินทางกลับกันก็มี .. บรรยากาศต่าง ๆ โดยรอบมันทำให้ชื้นใจอย่างบอกไม่ถูก
รถเมย์ฟรีค่ะ
ผู้คนเดินทางมาไม่ขาดสาย ภาพวันที่ 8 พ.ย.59
คณะนี้น่าจะเดินทางกลับ
มอไซร์ฟรี ทำความดีเพื่อพ่อ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ใช้บริการค่ะ เพราะแม่เราเริ่มเดินไม่ไหวแล้ว
นางดีใจค่ะ แบบว่าแม่เดินไม่ไหวแล้ว พากลับที่พักพรุ่งนี้คือวันจริงที่ต้องลุยสนาม
ตี 4 เราพาแม่เดินข้ามถนนตรงตีนสะพานพระปิ่นเกล้า รถน้อยมากแต่ใช่ว่าจะไม่มีรถวิ่งผ่านนะคะ เพราะช่วงเวลานี้คนเริ่มทยอยกันมาเข้าแถวแล้วค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องรีบเดินเพื่อไปถามเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้หางแถวอยู่ตรงไหน สิ่งแรกที่คิดขึ้นได้คือเมื่อวานที่ไปดูเชิงมาไม่มีประโยชน์เลย เพราะแถววันนี้เปลี่ยนอีกแล้ว โชคดีที่เห็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าเราเลยรีบพาแม่ไปต่อคิว คือเดินไปแบบ งง ๆ เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่าหางแถวคือตรงไหน 55 ซักพักหาหางแถวเจอก็ยืนรอเลยค่ะ ไม่ถึง 5 นาทีหางแถวยาวมาก เราฟังที่เจ้าหน้าที่ประกาศคือตอนนี้หางแถวอยู่เต้นที่ 48 แล้ว (เร็วมาก)
แม่เราตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงนะคะ จะมีซุ้มบริการผู้ที่เดินทางมาเข้าแถวตลอดทาง อย่างเช่น กาแฟ ปาท่องโก๋ ไข้ต้ม ข้าวหน้าปลาทอด ขนม น้ำ ต่าง ๆ ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพวกเราค่ะ
ส่วนเรื่องการเข้าแถว เราต้องเดินอย่างมีสตินิดนึงนะคะ เพราะบางช่วงแถวจะห่างมากเพราะคนยืนรับของแจกฟรีอยู่ แต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยยืนดูแลและบริการเราตลอดเส้นทางที่เราเข้าแถวเลยค่ะ แถวจะเป็นประมาณนี้ค่ะ ตอนแรก 4 มา 2 มา 3 มา 4 แบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วแต่จุดที่เจ้าหน้าที่บอก
บรรยากาศตอนตี 4 กว่า ๆ ค่ะ
พอแถวเริ่มเขยิบขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจก็เริ่มชื้นค่ะ ทุกคนต่างใจจดใจจ่อในการที่จะได้เข้าไป แม้อากาศจะร้อนแต่ทุกคนโดยรอบก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมาให้ได้ยินเลย ทุกคนยิ้มแย้ม และเข้าแถวอย่างเรียบร้อย
ตอนแรกเราคิดว่าเรามาเช้าแล้ว แต่จริง ๆ มีคนที่มารอเช้ากว่านั้นมาก ซักพักผู้คนในเต้นก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในพระราชวัง ซึ่งแน่นอนแถวที่เราเข้าอยู่ก็เขยิบตามขึ้นไปด้วย แต่เราไม่ได้ต้องรอที่เก้าอี้แล้ว เดินตามเข้าไปในพระราชวังเหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกอะไรๆๆมันไวไปหมดเลย เร็วมาก
แถวที่เรายืนอยู่เคลื่อนตัวเข้าไปในพระราชวังอย่างเร็ว
ตอนนี้เราอยู่ในพระราชวังแล้วนะคะ ณ เวลา 5.15 นาที
>>หลังจากภาพนี้แล้ว จะไม่สามารถถ่ายรูปได้แล้วนะคะ ทางเจ้าหน้าที่จะขอความกรุณาให้ปิดเครื่อง ปิดเสียงโทรศัพท์ และห้ามถ่ายรูปใดๆๆทั้งสิ้นเพราะอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังแล้ว
เราจะเดินผ่านประตูพิมานไชยศรี
ขออนุญาตนำมารูปจาก FB.วสันต์ วณิชชากร มาให้ชมนะคะ
ขออนุญาตนำมารูปจาก FB.วสันต์ วณิชชากร มาให้ชมนะคะ
พอเข้าไปด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เจ้าหน้าที่จะแจกถุงดำไว้ให้เราใส่ถุงเท้าและรองเท้านะคะ เพื่อหิ้วไปด้านในพระที่นั่งด้วย
เราทุกคนจะต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไปกราบพระบรมศพค่ะ บรรยากาศ ณ ตอนนั้น เงียบกริบแบบสุด ๆ เลย เราเข้าไปยืนเข้าแถวรอขึ้นไปด้านบนพระที่นั่ง เวลา 06.00 น. มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม แค่ได้ยินเสียงปี่พาทย์แล้วหัวใจแทบสลาย มันบอกไม่ถูกถึงความรู้สึกในตอนนั้นเลย มันเงียบจนบอกไม่ถูก
ออกจากวัง ประมาณ 06:30 น.
ทางออกประตูเทวาภิรมย์ ทางเจ้าหน้าที่ของพระราชวังจะจัดซุ้มแจกข้าวเปลือก นมกล่อง น้ำขวด และรูปหน้าพระบรมศพเพื่อเป็นที่ระลึกค่ะ
รูปหน้าพระบรมศพ
ข้าวเปลืกของพ่อ
ส่วนนี่จะเป็นซุ้มจากนอกวังนะคะ มาแจกเหมือนกัน
การแต่งกาย
ขอแนะนำ
ถ้าสะดวกมาวันธรรมดาได้ก็จะดีนะคะ เพราะคนจะไม่เยอะเท่าวันเสาร์-วันอาทิตย์
การเดินทาง
“ขสมก.” จัดรถเมล์ฟรีบริการประชาชนที่เดินทางร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ระหว่าง 14-16 ต.ค. 2559 ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.ในสายที่ผ่านบริเวณวัดพระแก้ว สนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง ด้านการรถไฟฯ จัดเพิ่มตู้โดยสารพ่วงในขบวนรถไฟฟรี รถไฟเชิงพาณิชย์ และเพิ่มขบวนรถฟรีเสริมเที่ยวพิเศษสายชานเมือง-ทางไกลอีก 18 ขบวน ตั้งแต่ 14 ต.ค. รองรับการเดินทางได้เพิ่มจากปกติอีกวันละ 1.5-2 หมื่นคนต่อวัน
ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ