เมื่อวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคไปในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้โดยเสด็จด้วย
ผมกับแม่เองก็ได้ไปจับจองพื้นที่บริเวณวัดระฆังโฆสิตารามเพื่อจะชมขบวนเรือดังกล่าว ผู้คนมากันมืดฟ้ามัวดิน จนกระทั่งมีการจัดระเบียบแถว ลงชื่ออะไรต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป รอให้ถึงเวลารวมตัว ซึ่งเมื่อวานในช่วงก่อนพิธีจะเริ่มนั้น อากาศร้อนมาก ๆ แดดเปรี้ยงสุด ๆ ต่างจากวันซ้อมเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคมที่ผ่านมาที่เรียกได้ว่าพายุกระหน่ำ
ในที่สุดก็ถึงเวลาเสด็จ มีเรืออื่น ๆ นำมาก่อน และเรือพระที่นั่งลำแรกที่ผ่านมาคือเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ซึ่งเป็นเรือที่ประดิษฐานผ้าพระกฐินที่จะนำไปถวาย ณ วัดอรุณฯ
ไฮไลท์สำคัญคงหนีไม่พ้นเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งลำสำคัญ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีประทับบนเรือลำนี้
ต่อจากนั้นจึงเป็นเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์ประทับบนเรือพระที่นั่งลำนี้
เรือพระที่นั่งลำสุดท้ายที่ปรากฏคือเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง
เมื่อขบวนผ่านไป ท้องฟ้าก็มืดครึ้มทันที
ขอลาไปด้วยภาพพระปรางค์วัดอรุณในมุมที่ซูมจากวัดระฆังครับ
ความงามแห่งสยามประเทศ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ๒๕๖๗
โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้โดยเสด็จด้วย
ผมกับแม่เองก็ได้ไปจับจองพื้นที่บริเวณวัดระฆังโฆสิตารามเพื่อจะชมขบวนเรือดังกล่าว ผู้คนมากันมืดฟ้ามัวดิน จนกระทั่งมีการจัดระเบียบแถว ลงชื่ออะไรต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป รอให้ถึงเวลารวมตัว ซึ่งเมื่อวานในช่วงก่อนพิธีจะเริ่มนั้น อากาศร้อนมาก ๆ แดดเปรี้ยงสุด ๆ ต่างจากวันซ้อมเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคมที่ผ่านมาที่เรียกได้ว่าพายุกระหน่ำ