ถอยออกมาให้นิวรณ์กินก่อน
การบรรลุธรรมขั้นใดๆ นั่นคือจุดสูงสุดที่จิตคิดได้-ปลงตก ในระดับของธรรมนั้นๆ
เช่นว่า ฉันคิดได้แล้วว่ากินเหล้าไม่ดีนะ เสียการเสียงาน ฉันจะเลิกกินเหล้าตั้งแต่วันนี้
การบรรลุธรรมในแต่ละระดับขั้นก็เฉกเช่นเดียวกันครับ คือจิต "ต้องปลง" และจดจำ จิตจึงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งนั้นอีก
เรียกอีกอย่างว่า "อบรมจิต" เพื่อให้"เบื่อ" ในสิ่งนั้นๆ เป็นลำดับขั้นไป
ศัพท์อย่างเป็นทางการ ก็ โสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์
ส่วนที่บอกว่าให้นิวรณ์กิน คือผล จะได้รู้ว่าที่เราฝึกมาแล้วทั้งหมด มโน หรือไม่มโน
นิวรณ์มีข้อดีคือ เมื่อหันกลับมามอง คนที่ยังฝึกไม่สำเร็จจะพูดกับตัวเองว่า "เอ ช่วงนั้น in กับธรรมมะมากๆ" ทำไมตอนนี้เราไม่ใช่
นิวรณ์กินไม่ได้ ก็แต่พระอรหันต์แล้วเท่านั้น
เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว รบกวนพี่ๆที่มีสภาวะธรรมสูงๆ ติเตียนด้วยครับ
ต้องให้นิวรณ์กินก่อน
การบรรลุธรรมขั้นใดๆ นั่นคือจุดสูงสุดที่จิตคิดได้-ปลงตก ในระดับของธรรมนั้นๆ
เช่นว่า ฉันคิดได้แล้วว่ากินเหล้าไม่ดีนะ เสียการเสียงาน ฉันจะเลิกกินเหล้าตั้งแต่วันนี้
การบรรลุธรรมในแต่ละระดับขั้นก็เฉกเช่นเดียวกันครับ คือจิต "ต้องปลง" และจดจำ จิตจึงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งนั้นอีก
เรียกอีกอย่างว่า "อบรมจิต" เพื่อให้"เบื่อ" ในสิ่งนั้นๆ เป็นลำดับขั้นไป
ศัพท์อย่างเป็นทางการ ก็ โสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์
ส่วนที่บอกว่าให้นิวรณ์กิน คือผล จะได้รู้ว่าที่เราฝึกมาแล้วทั้งหมด มโน หรือไม่มโน
นิวรณ์มีข้อดีคือ เมื่อหันกลับมามอง คนที่ยังฝึกไม่สำเร็จจะพูดกับตัวเองว่า "เอ ช่วงนั้น in กับธรรมมะมากๆ" ทำไมตอนนี้เราไม่ใช่
นิวรณ์กินไม่ได้ ก็แต่พระอรหันต์แล้วเท่านั้น
เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว รบกวนพี่ๆที่มีสภาวะธรรมสูงๆ ติเตียนด้วยครับ