สวัสดีค่ะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความของเรา
ในทุกวันๆ มีเหตุการณ์การต่างๆเกิดขึ้นมากมายกับชีวิตของพวกเราทุกคน หากแต่ผู้อ่านมีความสุขกับสิ่งที่พบ หรือสิ่งที่ทำแล้ว เราขออวยพรให้ผู้อ่านมีความสุขมากขึ้นไปอีกและแบ่งปันความสุขนั้นกับคนอื่นต่อไป และ ผู้อ่านจะได้ความสุขนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก ขอบคุณที่คุณจะเป็นอีกหนึ่งความสุขที่ทำให้ทุกๆวันมีพลังงานที่มีความสุขเพิ่มขึ้น และ กระจายพลังงานความสุขนี้ออกไป และคุณก็จะดึงดูดคนที่มีความสุขเข้ามาหาคุณเพื่อขึ้นไปอีก(ลองสังเกตุอารมณ์ของตัวเองนะคะ ว่าเวลาที่เรามีความสุข..เราก็จะดึงสิ่งที่มีความสุขมาเพิ่มจริงไหม)
เทคนิค: สำหรับข้อนี้ เมื่อเรามีความสุขเราก็ยิ้ม ร่างกายเราก็จะตอบสนอง สิ่งที่แสดงออกมา ก็เป็นพลังที่ส่งความสุขออกมาจากสายตา ใบหน้า รอยยิ้ม และท่าทาง และ คุณก็จะดึงคนแบบเดียวกันเข้ามาหาคุณเรื่อยๆๆๆ
วันนี้คุณเป็นคนที่มีความสุขที่สุด
(พูดกับตัวเองทุกวันๆและคุณจะเป็นอย่างที่คุณพูดกับตัวเอง)
.........แต่........
หากผู้อ่าน....ท่านที่กำลังพบ ("ปัญหา")
ไม่ว่า..ปัญหาด้านความสัมพันธ์..
ปัญหาด้านการงาน ปัญหากับเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน
ปัญหาด้านการเงิน เป็นหนี้ เงินไม่พอใช้ คนยืมเงินแล้วไม่คืน
ปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคร้าย เข้าโรงพยาบาลบ่อย
ปัญหาด้านความสัมพันธ์ หย่าร้าง ทะเราะกับแฟน ทะเราะกับสามี
ฯลฯ
(เมื่อก่อนเราก็เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "ปัญหา" แต่ตอนนี้ เราเรียกมันว่า "ข้อมูล")
คำที่เขียนด้านบน เมื่อผู้อ่าน ได้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร.......
ถ้าอ่านแล้วรู้สึกไม่ดี ไม่มีความสุขเลย อยากจะไปจากตรงนั้น อยากจะลาออกจากความเป็นตัวของตัวเอง พลังที่ได้รับ เป็นพลังที่เป็นทุกข์เหลือเกิน ไม่มีใครมาเป็นฉันไม่มีทางรู้หรอก นั้นแสดงว่า เราได้อนุญาตให้ คำนั้น หรือ การกระทำเหล่านั้น เข้ามาในสมอง เข้ามาในความรู้สึก เข้ามาในจิตเราเรียบร้อยแล้ว ผลเป็นอย่างไร ทุกคนคงตอบในใจตัวเองได้ดี
แต่เรารู้สึกไปแล้วนี้.....จัดการมันอย่างไร....
มาดูว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น คุณรู้สึกอะไร จับให้ได้ก่อนนะว่าเรารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
หนึ่ง..มีความสุข..หรือไม่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้ามีความสุข.. แล้วทำงัย เพิ่มพลังให้สิ่งเหล่านี้เลยค่ะ จะยิ้ม จะร้องเพลง จะเต้น จะดีใจ จะโทรหาใครฯลฯ
สอง..ถ้ามันอึดอัด ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ ร้องไห้ ทำยังงัยดีเลือกค่ะ จะเพิ่มพลังให้มันดีมั้ย หรือจะหยุดมันดี หรือจะอนุญาตให้มันมามีผลกับสมองและความรู้สึกของเรา
ตัดสินใจยังงัย....ดี
ตัวเรา....นี่แหละมีผลกับตัวเรา 100% เราคิดกับตัวเราอย่างัย....เราก็จะเป็นแบบที่เราคิดแน่นอน(ลองทำดู)
คนอื่น...มีผลกับความคิดเราแค่ 7% น้อยนิดเหลือเกิน สบายมาก เพราะคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น มันไม่สำคัญ
นอกเสียจากเราจะอนุญาตให้เค้าเข้ามาในสมองเรา 100% นั้นแหละ เราจะเริ่มวิ่งตามคนอื่น ผู้เขียนวิ่งตามเค้ามาหลายสิบปีค่ะ เข้าใจดีเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นไปซะหมดทุกอย่าง พอเค้าทำอะไรให้เราไม่สบายใจ ก็มานั่งคิดวิตกกังวลสารพัด ทำไมเค้าไม่เห็นจริงใจเหมือนที่เราทำกับเค้าเลย ร้องไห้ค่า แรงโน้มถ่วงของน้ำทำงานที่ใต้ตาทันที ใส่พลังให้มันเต็มที่สมใจเลยค่ะ
ของแถมที่ได้ตามมาคือ....
หนึ่ง..ด้านร่างกาย หน้าตาหมองคล้ำ บุคลิกภาพเปลี่ยนไปรับประทานมากขึ้น ไม่ดูแลร่างกายของตัวเอง หน้าแก่เร็วกว่าอายุ สมในจริงๆๆๆ อายุจริง ยี่สิบห้า คนอายุ สี่สิบยกมือไหว้ สวยๆๆค่ะ เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามคนอื่น
สอง..ด้านอารมณ์ ที่แสดงออกมา ไม่เคยคิดที่จะกำจัดหรือหยุดมัน ดันไปเพิ่มพลังให้มันอีก คิดดูค่ะผู้อ่าน ใส่อารมณ์กับทุกอย่าง ความสัมพันธ์รอบตัวเป็นยังงัย. สมกับที่เพิ่มพลังให้กับมันเลยค่ะ พ่อแม่พี่น้อง ส่ายหน้า บ่น กร่น ด่า โอ้ววววว. ไปทำงานเพื่อนร่วมงานเห็นหน้า เห็นอารมณ์ เห็นพลังงานที่ส่งออกมาแล้ว ก็ไม่อยากเข้าใกล้ล่ะ จะโทรหาแต่ละครั้งก็คิดแล้วคิดอีก
สาม..ความสัมพันธ์ แน่นอนไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่ไม่มีความสุข คนที่มีแต่เรื่องลบๆ ว่ากล่าว นินทา คนอื่น แน่นอน เผลอๆ คนที่รักกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เค้าจะไปจากเราเฉยๆ โดยไม่มีเหตุผลก็มี
ฉะนั้น จะไปวิ่งตามหรือรอกำลังใจจากใครที่ไหน หลับตา...ค่ะ หลับตาและฟังเสียงหัวใจ ตัวเอง ฟังเสียงสมองตัวเอง(เปิดเพลงคลาสสิคตามไปด้วย) เราฟังเสียงคนอื่น คนรอบตัวเรามานาน
..เริ่ม..ค่ะ ฟังเสียงคนที่อยู่ข้างในตัวเรา.....คือ ตัวเอง....ยิ้มใหญ่ๆๆๆๆ และบอกกับตัวเองว่า "ฉันคือคนที่มีความสุขที่สุด"
กำลังใจจาก...ใครคนหนึ่งที่ชื่อว่า...ตัวเอง.....
(ความคิดเรา...มีผลกับเรา 100%)
ขอบคุณอาจารย์ และ ผู้รู้ด้านจิตวิทยา ทุกคน
ขอบคุณ Pantip ที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำตามความฝันของเรา
กำลังใจจาก...ใครคนหนึ่งที่ชื่อว่า...ตัวเอง.....
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความของเรา
ในทุกวันๆ มีเหตุการณ์การต่างๆเกิดขึ้นมากมายกับชีวิตของพวกเราทุกคน หากแต่ผู้อ่านมีความสุขกับสิ่งที่พบ หรือสิ่งที่ทำแล้ว เราขออวยพรให้ผู้อ่านมีความสุขมากขึ้นไปอีกและแบ่งปันความสุขนั้นกับคนอื่นต่อไป และ ผู้อ่านจะได้ความสุขนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก ขอบคุณที่คุณจะเป็นอีกหนึ่งความสุขที่ทำให้ทุกๆวันมีพลังงานที่มีความสุขเพิ่มขึ้น และ กระจายพลังงานความสุขนี้ออกไป และคุณก็จะดึงดูดคนที่มีความสุขเข้ามาหาคุณเพื่อขึ้นไปอีก(ลองสังเกตุอารมณ์ของตัวเองนะคะ ว่าเวลาที่เรามีความสุข..เราก็จะดึงสิ่งที่มีความสุขมาเพิ่มจริงไหม)
เทคนิค: สำหรับข้อนี้ เมื่อเรามีความสุขเราก็ยิ้ม ร่างกายเราก็จะตอบสนอง สิ่งที่แสดงออกมา ก็เป็นพลังที่ส่งความสุขออกมาจากสายตา ใบหน้า รอยยิ้ม และท่าทาง และ คุณก็จะดึงคนแบบเดียวกันเข้ามาหาคุณเรื่อยๆๆๆ
วันนี้คุณเป็นคนที่มีความสุขที่สุด
(พูดกับตัวเองทุกวันๆและคุณจะเป็นอย่างที่คุณพูดกับตัวเอง)
.........แต่........
หากผู้อ่าน....ท่านที่กำลังพบ ("ปัญหา")
ไม่ว่า..ปัญหาด้านความสัมพันธ์..
ปัญหาด้านการงาน ปัญหากับเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน
ปัญหาด้านการเงิน เป็นหนี้ เงินไม่พอใช้ คนยืมเงินแล้วไม่คืน
ปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคร้าย เข้าโรงพยาบาลบ่อย
ปัญหาด้านความสัมพันธ์ หย่าร้าง ทะเราะกับแฟน ทะเราะกับสามี
ฯลฯ
(เมื่อก่อนเราก็เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "ปัญหา" แต่ตอนนี้ เราเรียกมันว่า "ข้อมูล")
คำที่เขียนด้านบน เมื่อผู้อ่าน ได้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร.......
ถ้าอ่านแล้วรู้สึกไม่ดี ไม่มีความสุขเลย อยากจะไปจากตรงนั้น อยากจะลาออกจากความเป็นตัวของตัวเอง พลังที่ได้รับ เป็นพลังที่เป็นทุกข์เหลือเกิน ไม่มีใครมาเป็นฉันไม่มีทางรู้หรอก นั้นแสดงว่า เราได้อนุญาตให้ คำนั้น หรือ การกระทำเหล่านั้น เข้ามาในสมอง เข้ามาในความรู้สึก เข้ามาในจิตเราเรียบร้อยแล้ว ผลเป็นอย่างไร ทุกคนคงตอบในใจตัวเองได้ดี
แต่เรารู้สึกไปแล้วนี้.....จัดการมันอย่างไร....
มาดูว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น คุณรู้สึกอะไร จับให้ได้ก่อนนะว่าเรารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
หนึ่ง..มีความสุข..หรือไม่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้ามีความสุข.. แล้วทำงัย เพิ่มพลังให้สิ่งเหล่านี้เลยค่ะ จะยิ้ม จะร้องเพลง จะเต้น จะดีใจ จะโทรหาใครฯลฯ
สอง..ถ้ามันอึดอัด ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ ร้องไห้ ทำยังงัยดีเลือกค่ะ จะเพิ่มพลังให้มันดีมั้ย หรือจะหยุดมันดี หรือจะอนุญาตให้มันมามีผลกับสมองและความรู้สึกของเรา
ตัดสินใจยังงัย....ดี
ตัวเรา....นี่แหละมีผลกับตัวเรา 100% เราคิดกับตัวเราอย่างัย....เราก็จะเป็นแบบที่เราคิดแน่นอน(ลองทำดู)
คนอื่น...มีผลกับความคิดเราแค่ 7% น้อยนิดเหลือเกิน สบายมาก เพราะคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น มันไม่สำคัญ
นอกเสียจากเราจะอนุญาตให้เค้าเข้ามาในสมองเรา 100% นั้นแหละ เราจะเริ่มวิ่งตามคนอื่น ผู้เขียนวิ่งตามเค้ามาหลายสิบปีค่ะ เข้าใจดีเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นไปซะหมดทุกอย่าง พอเค้าทำอะไรให้เราไม่สบายใจ ก็มานั่งคิดวิตกกังวลสารพัด ทำไมเค้าไม่เห็นจริงใจเหมือนที่เราทำกับเค้าเลย ร้องไห้ค่า แรงโน้มถ่วงของน้ำทำงานที่ใต้ตาทันที ใส่พลังให้มันเต็มที่สมใจเลยค่ะ
ของแถมที่ได้ตามมาคือ....
หนึ่ง..ด้านร่างกาย หน้าตาหมองคล้ำ บุคลิกภาพเปลี่ยนไปรับประทานมากขึ้น ไม่ดูแลร่างกายของตัวเอง หน้าแก่เร็วกว่าอายุ สมในจริงๆๆๆ อายุจริง ยี่สิบห้า คนอายุ สี่สิบยกมือไหว้ สวยๆๆค่ะ เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามคนอื่น
สอง..ด้านอารมณ์ ที่แสดงออกมา ไม่เคยคิดที่จะกำจัดหรือหยุดมัน ดันไปเพิ่มพลังให้มันอีก คิดดูค่ะผู้อ่าน ใส่อารมณ์กับทุกอย่าง ความสัมพันธ์รอบตัวเป็นยังงัย. สมกับที่เพิ่มพลังให้กับมันเลยค่ะ พ่อแม่พี่น้อง ส่ายหน้า บ่น กร่น ด่า โอ้ววววว. ไปทำงานเพื่อนร่วมงานเห็นหน้า เห็นอารมณ์ เห็นพลังงานที่ส่งออกมาแล้ว ก็ไม่อยากเข้าใกล้ล่ะ จะโทรหาแต่ละครั้งก็คิดแล้วคิดอีก
สาม..ความสัมพันธ์ แน่นอนไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่ไม่มีความสุข คนที่มีแต่เรื่องลบๆ ว่ากล่าว นินทา คนอื่น แน่นอน เผลอๆ คนที่รักกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เค้าจะไปจากเราเฉยๆ โดยไม่มีเหตุผลก็มี
ฉะนั้น จะไปวิ่งตามหรือรอกำลังใจจากใครที่ไหน หลับตา...ค่ะ หลับตาและฟังเสียงหัวใจ ตัวเอง ฟังเสียงสมองตัวเอง(เปิดเพลงคลาสสิคตามไปด้วย) เราฟังเสียงคนอื่น คนรอบตัวเรามานาน
..เริ่ม..ค่ะ ฟังเสียงคนที่อยู่ข้างในตัวเรา.....คือ ตัวเอง....ยิ้มใหญ่ๆๆๆๆ และบอกกับตัวเองว่า "ฉันคือคนที่มีความสุขที่สุด"
กำลังใจจาก...ใครคนหนึ่งที่ชื่อว่า...ตัวเอง.....
(ความคิดเรา...มีผลกับเรา 100%)
ขอบคุณอาจารย์ และ ผู้รู้ด้านจิตวิทยา ทุกคน
ขอบคุณ Pantip ที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำตามความฝันของเรา