"ช่วงก่อนเข้าพรรษาผมเห็นกระแส #พักตับ เต็มเฟซเลยอะครับ ไม่ว่าจะเพลงพักตับ เพจ a girl พักตับ (แต่ดูแล้วอยากกินตับ) หรือหมอแล็บแพนด้าก็พักตับ คือพักตับกันทั่วบ้านทั่วเมือง อย่างผมเป็นคนชอบกินตับ เอ้ย กินเหล้า เห็นแล้วยังรู้สึกว่า “เห้ย GU ต้องพักด้วยใช่ไหม” แม่มโคตรรู้สึกกดดันจากสังคมเลยว่ะ ถ้าไม่ยอมพักตับจะกลายเป็นคนแย่เลยมั้ยวะ ช่วงเข้าพรรษา เลยพักตับแม่มเลย ผมลองทำมาแล้ว 4 สัปดาห์ เลยอยากลองรีวิวให้เพื่อนๆ ว่าได้พักตับแล้วนะเว้ย ลองเป็นคนดีแล้วนะ แม้จะแค่ 4 สัปดาห์ แต่ก็เป็น 4 สัปดาห์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเราจริงๆ และถ้าพักตับนานไปกว่านี้ก็ทำไม่ได้ เพราะเพื่อนชวนไปดื่มเกือบทุกสัปดาห์ ไม่งั้นคงต้องหากิจกรรมอื่นทำแทน"

Week 1
เริ่มที่ผมลองลดเบียร์จาก 3 ขวดเหลือ 1 ขวดในสัปดาห์แรก เพราะเห็นข่าวคนแก่เลิกดื่มเลยลงแดงช็อคตาย แบบนี้ค่อยลดแล้วกันเนอะ ซื้อผลไม้กินตอนพักเที่ยง แล้วก็ออกกำลังกายด้วยการวิ่งรอบหมู่บ้านตอนเลิกงาน เมนูอาหารผมก็เลือกกินที่เขาบอกว่าบำรุงตับตามเว็บไซต์

มื้อเช้า : พยายามหาข้าวแกงปักษ์ใต้ครับ เพราะมีสมุนไพรอย่างขมิ้น สารที่ช่วยบำรุงตับ (จำเขามา) แล้วก็ความเผ็ดร้อนที่จะมาเบิร์นไขมัน และผักแนมที่มีให้กินเยอะ ถือว่าเป็นมื้อเช้าที่แสบดาก เอ้ย บำรุงสุขภาพสุดๆ

มื้อกลางวัน : เป็นอาหารตามสั่งบ้าง น้ำพริกปลาทู ต้มจืดบ้าง บางวันก็กินผัดบร็อคโคลี่ใส่หมู เห็นเขาบอกว่าบร็อคโคลี่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลด้วย กินมันเข้าไปครับ ส่วนรูปประกอบซื้อมาแบ่งกับเพื่อนในทีม

ช่วงบ่าย :  พยายามเลิกกินขนมอ้วนๆ ผงชูรสเยอะ เปลี่ยนเป็นกล้วยแล้วก็ผลไม้รถเข็นอะครับ จะเอาทั้งพักตับทั้งลดน้ำหนักเลย

มื้อเย็น : สุกี้น้ำ ลดน้ำมันไปอีกด้วยเมนูเบาๆ สุกี้น้ำหมู ผักเยอะชิบ วิญญาณหมูชัดๆ โอเคเลยตามที่ตั้งใจไว้ว่าอยากกินผักเยอะๆ บางวันก็กินบะหมี่น้ำ แต่ไม่ใส่น้ำมันเจียว พยายามลดเหล้าด้วย ลดน้ำหนักไปด้วย สองต่อเลย

เครื่องดื่ม : เป็นคนติดน้ำหวาน เคยน้ำหนักขึ้นมากเพราะดื่มน้ำอัดลม เลยลองเปลี่ยนมากินน้ำเก็กหล่อหญ้าหวานแทน น่าจะทดแทนความอยากหวานได้

Week 2
สัปดาห์นี้เลิกขาดกับเบียร์และเหล้า แม้จะมีคนชวนไปดื่มคราฟท์เบียร์ที่เกาะเกร็ด แต่ตั้งมั่นแล้ว เอาเด็กเชียร์เบียร์มาแลกก็ไม่ยอม รอบนี้จริงจังขึ้นกว่าเดิม เมนูอาจมีความคลีนเพราะสั่งร้านจากเฟซบุ๊คมากิน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ร้าน O-Cha) แพงใช้ได้ แพงกว่าข้าวปกติเท่าตัว แต่ไหนๆ ก็จะพักตับละ ยอมหน่อยก็ได้ 5 วัน 3 มื้อ รวมๆ แล้ว 1,300 บาท โอเค กินได้ แต่หิวอยู่ดี ต้องกินสองกล่อง  ส่วนการออกกำลังกายยังทำเหมือนเดิมคือวิ่งรอบหมู่บ้าน 40 นาที

มื้อเช้า : อาหารคลีนที่สั่งมา แหม่ พอคุมแคล คุมปริมาณแล้วหิวเหมือนกันนะ

มื้อกลางวัน : อาหารคลีนเหมือนเดิม ยังหิวจนต้องกินนมเพิ่มอีกกล่อง

ช่วงบ่าย : ขนมคลีนๆ แอปเปิ้ลเซเว่น สลัดทูน่าเซเว่น แต่ถ้าวันไหนเจอรถเข็นผลไม้ก็ซื้อมะม่วงกินแทน

มื้อเย็น :  แล้วก็อาหารคลีน กินมันไปตลอดห้าวันทำงาน  โดยรวมแล้วมันก็อร่อยดีแต่ไม่เคยอิ่มเลย หรือว่าเราอ้วน!!!

เครื่องดื่ม : ตอนเช้าแวะซื้อบุหรี่ที่เซเว่นตามปกติ ผมเหลือบไปเห็นขวดกระทิงแดง G3 ที่น้องอลิซเล่นโฆษณาบอกว่าช่วยบำรุงตับ ผมคิดว่าน้องเค้าคงไม่หลอก ด้วยหัวจิตหัวใจของน้องเค้าแล้ว ผมเชื่อว่าน้องอลิซไม่โกหกแน่ๆ อะครับเลยแวะซื้อมาดื่มสักหน่อยครับ รสชาติเหมือนน้ำสับปะรดผสมกระทิงแดง อร่อยดีครับ  

Week 3
สัปดาห์นี้ไม่ดื่มเลยสักขวดฮะ กินน้ำผลไม้ แต่สูบบุหรี่เยอะขึ้นแทน (ฮ่า อยากดื่มแต่ดื่มไม่ได้) ออกกำลังกายเหมือนเดิม พยายามนอนไว ไม่ขนงานมาทำต่อ หรือตีดอทจนดึก โสดอะครับไม่ต้องโทรคุยกะใคร สัปดาห์นี้เริ่มรู้สึกร่างกายสดชื่น ตื่นมาไม่งัวเงีย ไม่เบลอ

มื้อเช้า : ข้าวแกงทั่วไป แต่ก็พยายามเลือกเมนูที่มีผักเยอะ เพราะเริ่มขี้เกียจละครับ แล้วบางวันก็กินโจ๊กหมูใส่ไข่  ขอขิงเพิ่มจะได้เบิร์นหน่อย ส่วนอาหารคลีนก็แพงไป เลยไม่สั่งมาแล้วครับ

มื้อกลางวัน : ตามสั่ง เมนูน้ำมันน้อยๆ ผัดผัก เย็นตาโฟก็โอเค ลูกชิ้นปลาสั่งพิเศษเส้นน้อย ให้กลับไปกินคลีนไม่เอาแล้ว

ช่วงบ่าย : กล้วยครับ กล้วยเซเว่นอีกแล้ว ผลไม้รถเข็น

มื้อเย็น : สุกี้น้ำหมู ยังกินเหมือนเดิมทุกวัน เพราะดูเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในซอยแล้วครับ ผักยังเยอะเหมือนเดิม และหมูก็ยังเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร (ใช้รูปเดิมละกันนะครับ 55 ไม่อยากถ่ายใหม่ เพราะกินร้านเดิมทุกวัน คนขายน่ารักมาก เป็นคู่รักชาวเมียนม่า ที่เริ่มทำจากร้านเล็ก จนตอนนี้มี  5 โต๊ะแล้ว)

เครื่องดื่ม : น้ำผักผลไม้แยกกากยามเช้าเพื่อ Detox ขวดละ 35บาท ขวดนี้มีบีทรูท แครอท ขึ้นฉ่าย จากร้านหน้าเซเว่นที่เราแวะซื้อบุหรี่เป็นประจำ แล้วก็ซื้อกระทิงแดง G3 มาด้วย เพราะเมื่อคืนทำโอทีจนดึกเกือบตีสองเพราะดองงานมาหลายวัน(ฮ่า)

Week 4
เป็นคนดีมาหลายวันแล้ว อาทิตย์นี้ช่างหัวตับมันละครับ วันศุกร์เพื่อนชวนไปดื่มวันเกิด แต่หลังจากดื่มรู้สึกว่าเมาง่ายกว่าเก่า เพราะไม่ได้ดื่มมาสามสัปดาห์ ร่างกายยังไม่ชินอาจต้องกลับมาดื่มเหมือนเดิม เพื่อให้เมายากหน่อย (ล้อเล่น) ก้าวต่อไปคงลดบุหรี่ลงด้วย

มื้อเช้า : ข้าวแกงใต้เหมือนเดิม เพราะเดินผ่านทุกวัน ยังคงเน้นเครื่องเทศร้อนแรงไปเบิร์นต่อ

มื้อกลางวัน : ข้าวแกงเหมือนเดิม เพิ่มเติมมีปลาทอด วันอื่นก็อาหารตามสั่ง ข้าวแกง เย็นตาโฟ วนไปวนมา

ช่วงบ่าย : น้ำเต้าหู้ โทฟูซัง


มื้อเย็น : มาดื่มร้านประจำฉลองวันเกิดเพื่อน จำไม่ได้ว่ากินอะไรไปบ้าง แต่ว่าเยอะจริง ตั้งแต่กุ้งแช่น้ำปลา ซุปเปอร์ตีนไก่ ยำถั่วพลู ข้าวจานนึง เฟรนฟรายด์ เบียร์ก็หลายขวดอยู่ (อาหารสั่งร้านข้างๆ)  แล้วจบด้วยปาเต๊ะอะครับ กินจนลืมว่าเคยพักตับพักพุง

สรุป
ก็รู้สึกดีขึ้นนะครับ ที่หยุดดื่มไป 3 วีคกว่าๆ (วีคแรกไม่นับเพราะดื่มอยู่และวีคสุดท้ายที่ปาร์ตี้หนึ่งวัน)  ข้อดีคือนอนไวกว่าเดิม ช่วงแรกก็ลำบากหน่อยเพราะดื่มเป็นประจำ แถมเพื่อนชวนกินบ่อย แต่พอห้ามใจตัวเองได้ ก็มีความฟิน อยู่ในใจ เหมือนเราชนะกีฬาที่แข่งกับจิตใจและความเคยชินของตัวเอง ตื่นเช้ารู้สึกสดชื่นกว่าเดิม รู้สึกตัวเบา เพราะไม่ได้กินกับแกล้ม และออกกำลังกาย (ปกติขี้เกียจ)

ที่สำคัญ เงินเหลือเพราะประหยัดค่าเบียร์ เอาไปซื้ออาหารคลีนแทน T^T แล้วพอออกกำลังกายด้วย สุขภาพมันดีขึ้นไปหมด เอาเป็นว่าขอบคุณ สสส. ที่ทำแคมเปญพักตับนะครับ ไม่เหมือนจนเครียดกินเหล้า หรือให้เหล้าเท่ากับแช่ง เพราะงานตัวก่อนเห็นแล้วปวดตับ เลยแดรกประชดแม่ม ขอบคุณครับ <3