วันนี้เราตั้งใจจะไปไหว้พระที่วัดป่าภูหายหลง ได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ยังไม่เคยไปอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเราเอง เพราะเราอยู่แถวปากช่อง วัดนี้อยู่บนเขาทางไปวังน้ำเขียว อยู่บริเวณวังกระทะ
ที่มา : พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล ได้เปลี่ยนชื่อวัดขึ้นมาใหม่จากวัดภูเขากอย เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง อันมีความหมายว่า เป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง นั่นหมายถึงพุทธบริษัท 4 ที่มาปฏิบัติธรรมจะมองโลกตามความเป็นจริง ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา โลภะ (โลภ) โทสะ (โกรธ) โมหะ (หลง) หลุดพ้นจากความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตน (ความหลงในอัตตา) ก้าวข้ามล่วงพ้นทะเลหลง มุ่งตรงสู่พระนิพพาน และวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดในสายสำนักปฏิบัติธรรมกรรมฐานหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ( ขออนุญาติคัดลอกบทความที่เป็นประโยชน์บางส่วนมา เพื่อทราบที่มาของชื่อนะคะ จากงานสารสนเทศท้องถิ่นนครราชสีมา ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี )
... แม้ว่าฝนจะตกพร่ำๆ แต่ด้วยแรงศรัทธา เราก้อไม่ย่อท้อ เผื่อว่าฝนจะหยุดเมื่อเราไปถึง เริ่มออกเดินทางเลยดีกว่า...........
ภาพถนนหนทางข้างหน้า บนถนธนะรัชต์ มุ่งสู่เขาใหญ่
ผ่านร้านต่างๆนาๆ น่าแวะ ...
มีม้าให้ขี่ด้วยนะ รอบละ 300 บาท ไว้ว่างๆจะมาลองนะ เจ้าม้าน้อย
อันนี้ โรงแรมชาโตว์ เดอ เขาใหญ่ ...แอบเหมือน บ้านทรายทอง หน่อยนะ
ถึง Toscana ทีไร ต้องแวะจอดถ่ายรูปทุกที เพราะเค้ามักจะมีอะไรมาให้เห็นใหม่ๆเรื่อยเลย คราวนี้ มีหอเอนปิซ่า เพิ่มขึ้นมาด้วย แหม! อีกหน่อยคงยก นครวาติกัน มาไว้ที่นี่ด้วยเลยนะคะ
หอเอน ... นิ๊ดนึง เอนไม่มากคะ
เริ่มเห็นวัดจากไกลๆแล้วคะ อยู่บนเขา สวยจัง
เริ่มเลี้ยวตามทางเข้ามา
มีป้ายบอกชัดเจน ... แต่ถนนขรุขระ เป็นหลุม เป็นบ่อ เข้ากระแส เดี๋ยวมีคนมานั่งอาบน้ำที่บ่อตามถนน.. อิอิ
[CR] ไปไหว้พระกันที่วัดป่าภูหายหลง แล้วแวะโบสถ์วัดบุญราศี นิโคลาสบุญเกิด ปากช่อง เขาใหญ่
ที่มา : พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล ได้เปลี่ยนชื่อวัดขึ้นมาใหม่จากวัดภูเขากอย เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง อันมีความหมายว่า เป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง นั่นหมายถึงพุทธบริษัท 4 ที่มาปฏิบัติธรรมจะมองโลกตามความเป็นจริง ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา โลภะ (โลภ) โทสะ (โกรธ) โมหะ (หลง) หลุดพ้นจากความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตน (ความหลงในอัตตา) ก้าวข้ามล่วงพ้นทะเลหลง มุ่งตรงสู่พระนิพพาน และวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดในสายสำนักปฏิบัติธรรมกรรมฐานหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ( ขออนุญาติคัดลอกบทความที่เป็นประโยชน์บางส่วนมา เพื่อทราบที่มาของชื่อนะคะ จากงานสารสนเทศท้องถิ่นนครราชสีมา ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี )
... แม้ว่าฝนจะตกพร่ำๆ แต่ด้วยแรงศรัทธา เราก้อไม่ย่อท้อ เผื่อว่าฝนจะหยุดเมื่อเราไปถึง เริ่มออกเดินทางเลยดีกว่า...........
ภาพถนนหนทางข้างหน้า บนถนธนะรัชต์ มุ่งสู่เขาใหญ่
ผ่านร้านต่างๆนาๆ น่าแวะ ...
มีม้าให้ขี่ด้วยนะ รอบละ 300 บาท ไว้ว่างๆจะมาลองนะ เจ้าม้าน้อย
อันนี้ โรงแรมชาโตว์ เดอ เขาใหญ่ ...แอบเหมือน บ้านทรายทอง หน่อยนะ
ถึง Toscana ทีไร ต้องแวะจอดถ่ายรูปทุกที เพราะเค้ามักจะมีอะไรมาให้เห็นใหม่ๆเรื่อยเลย คราวนี้ มีหอเอนปิซ่า เพิ่มขึ้นมาด้วย แหม! อีกหน่อยคงยก นครวาติกัน มาไว้ที่นี่ด้วยเลยนะคะ
หอเอน ... นิ๊ดนึง เอนไม่มากคะ
เริ่มเห็นวัดจากไกลๆแล้วคะ อยู่บนเขา สวยจัง
เริ่มเลี้ยวตามทางเข้ามา
มีป้ายบอกชัดเจน ... แต่ถนนขรุขระ เป็นหลุม เป็นบ่อ เข้ากระแส เดี๋ยวมีคนมานั่งอาบน้ำที่บ่อตามถนน.. อิอิ