วัดป่าภูหายหลง
หมู่ 11 บ้านซับสำราญ ต.วังกะทะ
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
-------------------------------------
พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) เจ้าอาวาส
วัดป่าภูหายหลง เป็นวัดในปฏิปทา หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
ประวัติวัดป่าภูหายหลง : เมื่อประมาณ 60-70 ปีที่แล้ว สภาพภูมิประเทศแถบวัดป่าภูหายหลงแห่งนี้ ซี่งประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 3 แห่งคือ หมู่บ้านซับสำราญ หมู่บ้านเขากอย และหมู่บ้านเพิ่มสมบัติ มีลักษณะเป็นเทือกเขาและป่าทึบ การคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่ง ทำให้โอกาสในการทำบุญของชาวบ้านลดน้อยลงตามไปด้วยเนื่องจากวัดที่มีอยู่ในละแวกนั้นก็อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งห่างไกลกันมาก นานๆ ครั้งจึงจะมีพระธุดงค์ที่แสวงหาความวิเวกมาโปรดชาวบ้านพอให้ได้ปิติในผลบุญบ้าง
ต่อมาได้มีพระรูปหนึ่งเดินธุดงค์ผ่านมา ชื่อ พระอาจารย์หลง (ไม่ทราบฉายา) ชาวบ้านเกิดความศรัทธายิ่งและอยากให้ท่านเป็นหลักของจิตใจ จึงได้อาราธนาพระอาจารย์หลงให้ท่านจำพรรษาที่ภูเขากอย (บางคนก็เรียกว่าภูเขาหลงเนื่องจากเป็นชื่อที่ปรากฏในแผนที่ทหาร) โดยชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเสนาสนะเป็นที่พักสงฆ์ และทำทางขี้นลงเขาให้พระภิกษุเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจ โดยตั้งชื่อวัดว่า วัดภูเขากอย เมื่อปี พ.ศ.2482
ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านได้ผลัดเวียนกันขึ้นมาดูแลวัดและอุปัฐากพระภิกษุสงฆ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การพัฒนาก็มีมากขึ้นตามไปด้วยทั้งการพัฒนาวัดและการพัฒนาทางด้านจิตใจของชาวบ้านเนื่องจากพากันขึ้นมาบำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2506 นิคมสร้างตนเองลำตะคอง กรมประชาสงเคราะห์ได้เข้ามาจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนเพื่อทำการเกษตร แต่เนื่องจากวัดภูเขากอยได้ตั้งขึ้นมาก่อนและด้วยพื้นที่ของภูเขามีความลาดชันสูง ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ทางนิคมสร้างตนเองจึงได้เว้นพื้นที่ของภูเขากอยทั้งหมดให้กับทางวัดได้ใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ ดูแลรักษา และพัฒนาให้เกิดสาธารณะประโยชน์กับ 3 หมู่บ้าน
ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2542 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดป่าภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร ได้มีโอกาสมาพำนักที่วัดแห่งนี้ ซึ่งสภาพตอนนั้นเป็นทุ่งหญ้าคา มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นประปราย เสนาสนะมีเพียงกุฏิและศาลาหลังเล็กๆ ไม่มีพระประจำวัดนานแล้ว ชาวบ้านนำโดยผู้ใหญ่ประหัส ทองจันเอกจึงได้อาราธนาพระอาจารย์ประพันธ์ให้เป็นหลักศาสนาและศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน
พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล จึงได้ตั้งชื่อวัดขึ้นมาใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง อันมีความหมายว่า เป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง นั่นหมายถึงพุทธบริษัท 4 ที่มาปฏิบัติธรรมจะมองโลกตามความเป็นจริง ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา โลภะ (โลภ) โทสะ (โกรธ) โมหะ (หลง) หลุดพ้นจากความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตน (ความหลงในอัตตา) ก้าวข้ามล่วงพ้นทะเลหลง มุ่งตรงสู่พระนิพพานต่อไป
ที่มา >>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1680
วัดป่าภูหายหลง
หมู่ 11 บ้านซับสำราญ ต.วังกะทะ
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
-------------------------------------
พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) เจ้าอาวาส
วัดป่าภูหายหลง เป็นวัดในปฏิปทา หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
ประวัติวัดป่าภูหายหลง : เมื่อประมาณ 60-70 ปีที่แล้ว สภาพภูมิประเทศแถบวัดป่าภูหายหลงแห่งนี้ ซี่งประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 3 แห่งคือ หมู่บ้านซับสำราญ หมู่บ้านเขากอย และหมู่บ้านเพิ่มสมบัติ มีลักษณะเป็นเทือกเขาและป่าทึบ การคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่ง ทำให้โอกาสในการทำบุญของชาวบ้านลดน้อยลงตามไปด้วยเนื่องจากวัดที่มีอยู่ในละแวกนั้นก็อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งห่างไกลกันมาก นานๆ ครั้งจึงจะมีพระธุดงค์ที่แสวงหาความวิเวกมาโปรดชาวบ้านพอให้ได้ปิติในผลบุญบ้าง
ต่อมาได้มีพระรูปหนึ่งเดินธุดงค์ผ่านมา ชื่อ พระอาจารย์หลง (ไม่ทราบฉายา) ชาวบ้านเกิดความศรัทธายิ่งและอยากให้ท่านเป็นหลักของจิตใจ จึงได้อาราธนาพระอาจารย์หลงให้ท่านจำพรรษาที่ภูเขากอย (บางคนก็เรียกว่าภูเขาหลงเนื่องจากเป็นชื่อที่ปรากฏในแผนที่ทหาร) โดยชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเสนาสนะเป็นที่พักสงฆ์ และทำทางขี้นลงเขาให้พระภิกษุเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจ โดยตั้งชื่อวัดว่า วัดภูเขากอย เมื่อปี พ.ศ.2482
ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านได้ผลัดเวียนกันขึ้นมาดูแลวัดและอุปัฐากพระภิกษุสงฆ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การพัฒนาก็มีมากขึ้นตามไปด้วยทั้งการพัฒนาวัดและการพัฒนาทางด้านจิตใจของชาวบ้านเนื่องจากพากันขึ้นมาบำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2506 นิคมสร้างตนเองลำตะคอง กรมประชาสงเคราะห์ได้เข้ามาจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนเพื่อทำการเกษตร แต่เนื่องจากวัดภูเขากอยได้ตั้งขึ้นมาก่อนและด้วยพื้นที่ของภูเขามีความลาดชันสูง ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ทางนิคมสร้างตนเองจึงได้เว้นพื้นที่ของภูเขากอยทั้งหมดให้กับทางวัดได้ใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ ดูแลรักษา และพัฒนาให้เกิดสาธารณะประโยชน์กับ 3 หมู่บ้าน
ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2542 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดป่าภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร ได้มีโอกาสมาพำนักที่วัดแห่งนี้ ซึ่งสภาพตอนนั้นเป็นทุ่งหญ้าคา มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นประปราย เสนาสนะมีเพียงกุฏิและศาลาหลังเล็กๆ ไม่มีพระประจำวัดนานแล้ว ชาวบ้านนำโดยผู้ใหญ่ประหัส ทองจันเอกจึงได้อาราธนาพระอาจารย์ประพันธ์ให้เป็นหลักศาสนาและศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน
พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล จึงได้ตั้งชื่อวัดขึ้นมาใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง อันมีความหมายว่า เป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง นั่นหมายถึงพุทธบริษัท 4 ที่มาปฏิบัติธรรมจะมองโลกตามความเป็นจริง ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา โลภะ (โลภ) โทสะ (โกรธ) โมหะ (หลง) หลุดพ้นจากความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตน (ความหลงในอัตตา) ก้าวข้ามล่วงพ้นทะเลหลง มุ่งตรงสู่พระนิพพานต่อไป
ที่มา >> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้