อิต. ปมคือทิฐิ, ปมยุ่งแห่งความคิดเห็นอันไร้เหตุผล
ตัวอย่างหัวข้อเรื่อง และประโยคที่มี คำว่า ทิฐิ
วินิจฉัยมี ๔ อย่างคือ ญาณ ตัณหา ทิฐิและวิตก.
ในวินิจฉัยเหล่านั้น พึงรู้วินิจฉัย อันเป็นความสุข
ครั้นรู้วินิจฉัย อันเป็นสุขแล้วพึงเพียรหาความสุข
ฉบับ มมร. ๑๓/๒๑๐/๑-๒
(อื่นๆ)
[14] ทิฏฐิ 3 (ความเห็น, ความเห็นผิด - view; false view)
1. อกิริยทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ, เห็นว่าการกระทำไม่มีผล - view of the inefficacy of action)
2. อเหตุกทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่มีเหตุ, เห็นว่าสิ่งทั้งหลายไม่มีเหตุปัจจัย - view of non-causality)
3. นัตถิกทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่มี, เห็นว่าไม่มีการกระทำหรือสภาวะที่จะกำหนดเอาเป็นหลักได้ - nihilistic view; nihilism)
M.I.404. ม.ม. 13/105/111.
เรื่องอำมาตย์ ๕ คน ๕ ทิฐิ
มีอำมาตย์ ๕ คน ทำการ
สั่งสอนอรรถและธรรม. บรรดาอำมาตย์ทั้ง ๕ คนนั้น
คนหนึ่งเป็นอเหตุกวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอเหตุกวาทีสั่งสอนมหาชนให้ถือเอาอย่างว่า สัตว์เหล่านี้เป็นผู้หมดจดในสงสาร.
คนหนึ่งเป็นอิสรกรณวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอิสรกรณวาที สั่งสอนมหาชนให้ถือเอาอย่างว่า โลกนี้ พระเจ้าเป็นผู้สร้าง.
คนหนึ่งเป็นปุพเพกตวาที - อำมาตย์ผู้เป็นปุพเพกตวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า ความสุขหรือความทุกข์ของสัตว์เหล่านี้ เมื่อจะเกิดขึ้นมา ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุที่ตนทำไว้ในปางก่อนนั่นแหละ.
คนหนึ่งเป็นอุจเฉทวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอุจเฉทวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า ขึ้นชื่อว่า บุคคลผู้จากโลกนี้ไปยังโลกหน้า ย่อมไม่มี โลกนี้ย่อมขาดสูญ
คนหนึ่งเป็นขัตตวิชชวาที - อำมาตย์ผู้เป็นขัตตวิชชวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า บุคคลควรฆ่ามารดาบิดาแล้ว มุ่งทำประโยชน์ของตนเองถ่ายเดียวเถิด.
อำมาตย์ทั้ง ๕ คนนั้น
ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้พิพากษาอรรถคดีแทนพระราชา แต่กลับพากันกินสินบนตัดสินความทำคนที่มิได้เป็นเจ้าของให้ได้เป็นเจ้าของ และทำคนที่เป็นเจ้าของไม่ให้ได้เป็นเจ้าของ.
บางส่วนจาก มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย
ทิฏฺิคณฺิ
ตัวอย่างหัวข้อเรื่อง และประโยคที่มี คำว่า ทิฐิ
วินิจฉัยมี ๔ อย่างคือ ญาณ ตัณหา ทิฐิและวิตก.
ในวินิจฉัยเหล่านั้น พึงรู้วินิจฉัย อันเป็นความสุข
ครั้นรู้วินิจฉัย อันเป็นสุขแล้วพึงเพียรหาความสุข
ฉบับ มมร. ๑๓/๒๑๐/๑-๒
(อื่นๆ)
[14] ทิฏฐิ 3 (ความเห็น, ความเห็นผิด - view; false view)
1. อกิริยทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ, เห็นว่าการกระทำไม่มีผล - view of the inefficacy of action)
2. อเหตุกทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่มีเหตุ, เห็นว่าสิ่งทั้งหลายไม่มีเหตุปัจจัย - view of non-causality)
3. นัตถิกทิฏฐิ (ความเห็นว่าไม่มี, เห็นว่าไม่มีการกระทำหรือสภาวะที่จะกำหนดเอาเป็นหลักได้ - nihilistic view; nihilism)
M.I.404. ม.ม. 13/105/111.
เรื่องอำมาตย์ ๕ คน ๕ ทิฐิ
มีอำมาตย์ ๕ คน ทำการ
สั่งสอนอรรถและธรรม. บรรดาอำมาตย์ทั้ง ๕ คนนั้น
คนหนึ่งเป็นอเหตุกวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอเหตุกวาทีสั่งสอนมหาชนให้ถือเอาอย่างว่า สัตว์เหล่านี้เป็นผู้หมดจดในสงสาร.
คนหนึ่งเป็นอิสรกรณวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอิสรกรณวาที สั่งสอนมหาชนให้ถือเอาอย่างว่า โลกนี้ พระเจ้าเป็นผู้สร้าง.
คนหนึ่งเป็นปุพเพกตวาที - อำมาตย์ผู้เป็นปุพเพกตวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า ความสุขหรือความทุกข์ของสัตว์เหล่านี้ เมื่อจะเกิดขึ้นมา ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุที่ตนทำไว้ในปางก่อนนั่นแหละ.
คนหนึ่งเป็นอุจเฉทวาที - อำมาตย์ผู้เป็นอุจเฉทวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า ขึ้นชื่อว่า บุคคลผู้จากโลกนี้ไปยังโลกหน้า ย่อมไม่มี โลกนี้ย่อมขาดสูญ
คนหนึ่งเป็นขัตตวิชชวาที - อำมาตย์ผู้เป็นขัตตวิชชวาที สั่งสอนให้มหาชนเอาอย่างว่า บุคคลควรฆ่ามารดาบิดาแล้ว มุ่งทำประโยชน์ของตนเองถ่ายเดียวเถิด.
อำมาตย์ทั้ง ๕ คนนั้น
ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้พิพากษาอรรถคดีแทนพระราชา แต่กลับพากันกินสินบนตัดสินความทำคนที่มิได้เป็นเจ้าของให้ได้เป็นเจ้าของ และทำคนที่เป็นเจ้าของไม่ให้ได้เป็นเจ้าของ.
บางส่วนจาก มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย