เงานั้นไซร้สำคัญไฉน??

เห็นใครๆก็พูดถึงแต่เงา

ประโยชน์ของเงาที่เห็นๆก็มีบังแดดบังแสงให้ลดความร้อนแรงลงไป ทำให้พื้นดินชุ่มชื้นเพราะน้ำระเหยน้อย ทำให้ตัวตนที่มองไม่เห็นฯลฯ

พูดถึงประโยชน์เบื้องต้นไปแล้วก็มาว่าอีกเรื่องที่เป็นเรื่องของเงา ธรรมดาของเงาย่อมต้องตรงข้ามกับต้นแบบหรือสิ่งที่ทำให้เกิดมันขึ้นมาในทิศตรงข้ามอย่างแสงหรือวัตถุที่มาบัง จะสั้นยาวอะไรยังไงก็อยู่ที่มุมแสงตกกระทบและฉากหลังที่เงาปรากฎ ยิ่งแสงอยู่ไกลหรือสว่างน้อยมากเท่าไหร่เงายิ่งมัวไม่เด่นชัดหากฉากหลังอยู่ไกลแต่หากแสงอยู่ใกล้ๆหรือมีความสว่างมากยิ่งเห็นชัดเมื่อฉากหลังอยู่ใกล้ จะว่าไปพูดเรื่องก็ลืมไปว่ามีเงาสองแบบเงามืดกับเงามัวที่คล้ายกันแต่ต่างกันที่มีแสงกระเจิงหรือเข้าไปปนไหม
*ขออภัยที่อธิบายได้แบบมึนๆเนื่องจากลืมๆไปแล้วว่าหลักการของเงาตามวิทย์และศิลป์มีปัจจัยและหลักการเกิดแบบใดอะไรบ้างจึงอาจสื่อออกมาได้ผิดเพี้ยนหากผิดพลาดไปต้องขออภัยมา ณ เบื้องต้นและขอขอบคุณ(ถ้ามี)สมาชิกท่านใดก็ตามที่นำข้อมูลมาประกอบให้ถูกต้อง

ในทางการเมืองก็เช่นกันแต่โดยมากแล้วเงามักจะใช้ไปในทางที่ไม่ดีในทำนองที่มันวับๆแวมๆมืดๆมัวหรือสิ่งที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นหรือรับรู้ บ้างก็ถูกใช้แทนคนที่พยายามจะทำตามเลียนแบบแต่อาจดีไม่เท่าเช่นตามที่ว่าวัดรอยเท้าหรือตามติดเป็นเงาตามตัวอะไรแบบนี้ ดังนั้นจึงกลายเป็นสิ่งที่คนโดยมากสื่อไปในทางแย่ๆโดยปริยาย

คำถาม...
ถ้ารัฐบาลต้องมีฝ่ายค้านและฝ่ายค้านต้องตามติดผลงานรัฐบาลอะไรที่เห็นว่าแย่ก็ต้องทักท้วงผ่านทางสภาหรือการแสดงความเห็นใดๆไม่ว่าจะโดยส่วนตัว ตามมติพรรค เป็นทางการหรือไม่ก็ตามแต่แล้วมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมี"รัฐบาลเงา" "ครม.เงา"อะไรทำนองนี้ขึ้นมาซ้ำซ้อนให้เกิดความสับสนต่อประชาชนเพิ่มขึ้นมาอีกและมีความเหมาะสมหรือชอบธรรมหรือไม่ที่จะกระทำและเป็นความอุกอาจหรือไม่ที่จะกระทำ??

ถ้าตามความเห็นโดยส่วนตัวมันอาจจะดูดีและได้ผลสูงสุดจริงตามยุทธศาสตร์กลวิธีการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการทำงาน แต่การทำแบบนี้ก็ก่อให้เกิดความสงสัยต่อประชาชนเช่นกันถึงผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงตามจริงและเกิดความกังขาได้เช่นกันว่าเป็นความพยายามแทรงแซงการทำหน้าที่หรือการพยายามเทียบเคียงการทำงานเพื่อรองรับทดแทนกรณีรัฐบาลหลักที่มาจากประชาชนเลือกจริงๆนั้นอยู่ต่อไม่ได้หรือหายไปอย่างมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ และยิ่งในสภาวะที่การเมืองมีความไม่สงบเรียบร้อยหรือไม่นิ่งตามที่ควรจะเป็นและมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทรกแซงจากมือมือที่มองไม่เห็นหรือมือที่สามแล้วยิ่งก่อให้เกิดความหวาดระแวงมากขึ้นต่อสภาวะความมั่นคงที่จะส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศและความเชื่อมั่นต่างๆทั้งจากภาคเอกชน ประชาชนหรือในสายตาต่างประเทศที่อาจมาแทรกแซงได้(ไม่ว่าทางดีหรือร้าย) ซึ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดีตามแนวคิดเจตนารมณ์เดิม

เชิญพูดคุยกันครับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากทิศทางกลยุทธของพรรคประชาธิปัติที่จะก่อตั้งขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อนหลังจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชาชนนี่ล่ะชนะเลือกตั้งแล้วเห็นมีการพูดอยู่แต่จำไม่ได้ว่าใครหรือพรรคไหนกล่าวไว้บ้างเพราะเลือนลางหายไปกับกาลเวลาและมีเรื่องพวกม็อปหรือน้ำท่วมนี่ล่ะมาแทรก

++งดรับจดหมายน้อยครับกลมสุดท้ายแล้ว++
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่