พิธีกรรมจำอวด(ผี) Prank!!!!! 'ด้วยรักและกลืนกิน' 2

สวัสดีครับ ทุกท่านหายไปหลายวัน ผมเก็บข้อมูลและเกลางาน หวังว่าจะไม่ลืมแก๊งจำอวดนะครับ

   



อันนี้ลิงค์ตอนที่ผ่านมา
  http://ppantip.com/topic/35603751  ด้วยรักและกลืนกิน ตอนต้น

   อันนี้บทที่ผ่านมา  รอยยิ้มของโมนา
http://ppantip.com/topic/35561207  ภาคท้าย (บทสรุป)
  http://ppantip.com/topic/35515715  ภาคกลาง
  http://ppantip.com/topic/35481854  ภาคต้น (นำเรื่อง)


  ปล. ผมเปลี่ยนจาก เรื่องสั้นเป็นนิยายนะครับ เพื่อไม่ให้ผู้อ่านสับสน งานเรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้นร้อยกันไปเป็นตอนๆ

  ภาพประกอบต่างๆ จากอินเตอร์เน็ทครับ


         
  ต่อจากความเดิมครับ



    รถตู้ขนาดเจ็ดที่นั่งเคลื่อนออกจากบริษัทวีดีโชว์ได้ไม่นาน แจ็คก็ส่งข้อความมาขอโทษที่ผิดนัด เขาแนบรูปการ์ตูนแมวนั่งร้องไห้มาด้วย  ผมตอบกลับด้วยคำพูดแสบๆ คันๆ และบอกเขาว่าเรื่องการถ่ายคลิปล้อกันเล่นอย่างที่เคยพูดคุยกันขอให้พักไว้ก่อน เมื่อผมกลับจากการเข้าร่วมกิจกรรมของวีดีโชว์ค่อยหารือกันอีกครั้ง หลังจบบทสนทนา เขาได้ส่งข้อความหนึ่งซึ่งรบกวนจิตใจผม

    ‘ระวังหลังไม่ยังไม่พอ ระวังข้างหน้า และบนหัวเอ็งด้วยไอ้จันทร์ ยายวาเลนไทน์และบริษัทเน่าหนอนนั่น มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่บัดซบ คนดีๆ เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรอก เด็กหัวอ่อนอย่างเอ็งชอบแส่ไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวได้นอนจับไข้หัวโกร๋นไปตลอดชีวิตแน่’

    ผมลบข้อความแจ็คหลังจากอ่านจบ ตอนแรกตั้งใจปิดมือถือ กลัวเขาส่งข้อความบ้าๆ เข้ามาอีก แต่สุดท้ายผมเลือกเปิดเครื่องทิ้งไว้  และแจ็คก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่ตอนนั้น เพราะสัญญาณมือถือผมขาดหายโทรเข้าโทรออกไม่ได้

    กลิ่นหอมในรถที่ผมสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวขึ้นรถ ไต่ระดับความเข้มข้นจนกลายเป็นฉุนจัด ผมไม่รู้ว่าคนอื่นผิดมีปฏิกิริยาอย่างไร หากผมคอแห้ง ใจสั่น มือเท้าเย็นจัด และตามด้วยอาการง่วงงุนจนหาวติดกันหลายครั้ง

    ขณะที่นั่งคอพับคออ่อน และตกอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ศีรษะผมก็เผลอไปซุกกับไหล่คนที่นั่งฝั่งขวา  

    “ระวังหน่อย” เสียงจากสาวซอยผมสั้นใบหน้ารูปไข่เอ่ยอย่างหงุดหงิด

    ผมยิ้มเจื่อน และค้อมศีรษะให้เธอ พอเห็นอีกฝ่ายหน้าแดง ผมก็อมยิ้ม

    “มองหน้าหาเรื่องเหรอ” คราวนี้เสียงเธอเข้มกว่าเดิม ดวงตากลมโตใต้แพขนตางอนเบิกกว้าง ทั้งที่ทำตาดุใส่แต่ผมกลับชอบ เธอเป็นทอมบอยหน้าหวาน มีลักยิ้มข้างแก้มซ้ายแสนน่ารัก

      แม่บ้านที่ตอนนี้ผมรู้ว่าชื่อสมพร ซึ่งนั่งเบียดชิดผมอีกฝั่ง แสร้งทำเป็นกระแอมไอห้ามทัพ

    “แหม...ถ้าคนฝั่งนู้นเขาจักจี้ไม่ชอบให้ซุกซบ  คุณจันทร์หันมาทางนี้เลยค่ะ ป้ายอมพลีร่างกายให้หนุ่มๆ เสมอ” สมพรว่าพร้อมแอ่นอกอวบใหญ่เชื้อเชิญ

    “โอ้ ไม่รบกวนดีกว่า” ตอบแล้วผมก็เอี้ยวตัวบิดคล้ายความเมื่อยขบ จังหวะนั้นผมเห็นการเคลื่อนไหวทางหางตา

    หนุ่มเคราแพะอายุคงมากกว่าผมสัก4-5ปี ส่งยิ้มให้ ก่อนจะกล่าวว่า “มานั่งข้างหลังไหมน้อง ทิ้งป้าสมพรกับเหยี่ยวไว้นั่นดีแล้ว  ข้างหลังมีเบียร์เหลืออีกหลายกระป๋อง”

    ผมทวนชื่อสาวทอมบอยหน้าหวานในใจ ‘เหยี่ยว’ ดูเหมาะกับเธอ แฝงด้วยความน่าค้นหา ดูอันตราย หากซ่อนความมีเสน่ห์เอาไว้

    “ว่าไงน้อง พับเบาะแล้วปีนข้ามมาเลย ที่ยังว่าง” คราวนี้เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมเลยได้กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มที่

    ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ พลางหันไปสำรวจผู้โดยสารแถวหลัง ซึ่งมีอยู่แค่สองคน คือหนุ่มเคราแพะ และสาวอ้วนผมดัดเป็นลอน เธอแต่งหน้าจัดขับให้เครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มเด่นสะดุดตา

    “ตามใจนะ แต่บอกไว้ก่อน ถูกหลอกให้มาอยู่บนรถคันเดียวกันแบบนี้ อย่าคิดว่าอยู่ตัวคนเดียวแล้วจะรอด”  

    หนุ่มเคราแพะทิ้งปริศนาให้ผมขบคิด ผมมองหน้าเขาพลางพินิจทั้งคำพูด และโครงหน้าที่คุ้นตา

    หัวสมองผมประมวลผลอย่างเร็วรีบ ใบหน้าแบบนี้คล้ายใครบางคนที่ผมเคยเห็น ทว่าเมื่อต้องคิดในเวลาจำกัด ผมกลับมืดแปดด้าน

     พอผมหันหน้ากลับมา สมพรก็ยิ้มแฉ่งรอรับ เธอเสนอขนมในตลับพลาสติกขาวขุ่นให้ผมรับประทาน

    “อย่าไปสนใจพี่ทอมเก้านิ้วเลยคุณจันทร์ เมาที่ไรพูดจาไม่เข้าหูตลอด เอ้านี่ ลองชิมคุกกี้บราวนี่ของป้าดีกว่า รส หวานกำลังดี เนื้อข้างในก็ฉ่ำมาก”

    “ขอบคุณครับ แต่ผมอิ่มแล้ว” เสียงผมฟังไม่รื่นหู และคนข้างหลังคงสังเกตว่าผมไม่ถนอมน้ำใจสมพร เลยเอ่ยว่า

    “ป้าๆ เอามาข้างหลังนี่ พวกหนูหิวไส้จะขาดแล้ว” สาวอ้วนน้ำหนักเฉียดเก้าสิบกิโลกรัมร้องบอก

    “ของพื้นๆ อย่างนี้ คุณจะกินหรือ” สมพรอิดออด เธอมีท่าทีหวงคุกกี้ขึ้นมา

    “หนูกินได้หมดละ ถ้าไม่ใช่ขี้ กับเนื้อคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เธอว่าพร้อมหัวเราะเสียงน่าเกลียด โดยมีหนุ่มเคราแพะร่วมประสานเสียง

    “เอ๊ะ ทำไมพูดอย่างนั้นละคะ ป้าเสียหายหมด” แม่บ้านหน้าคางคกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำลายแตกฟองฟอยตรงมุมปากเธอ

    “ก็เรื่องมันมีมูล หรือป้าจะเถียงว่าไม่ได้เป็นคนทำอาหารอุบาทว์ให้คุณวาเลนไทน์เอาไปแจกแฟนเก่า และคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้า บอกตามตรงบ้านหนูก็เคยได้หัวงูทอดกับต้มอึ่งอ่างหม้อใหญ่”

    ได้ยินแบบนั้น สมพรก็เนื้อเต้น เธอจ้องสาวอ้วนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

    “ผีเจาะปากมาพูดแท้ๆ เดี๋ยวเถอะ ป้าจะจับเชือดคอหอย และโยนลงในกระทะยักษ์  จะตุ๋นเป็นพะโล้เนื้อเปื่อยเสียเลย” สมพรว่าพร้อมแสดงสีหน้าเป็นจริงเป็นจัง คนในรถตู้พากันเงียบ  ต่างอึ้งกับเมนูสยองขวัญ

    “อุ๊ย...ทำไมมองป้ากันอย่างนั้นละจ๊ะ แค่ขู่เล่นๆ  ใครจะกล้าทำอย่างนั้นกับพวกคุณ คนสำคัญทั้งนั้น”

    “ให้มันจริงเถอะป้า  แล้วที่มากับเขาเนี่ย ใครเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการละ” สาวอ้วนพูดจบก็ยกเบียร์ในกระป๋องซดอึกใหญ่

    “แหม ป้าเป็นแม่บ้านคู่ใจคุณวาเลนไทน์ คุณเขาอยู่ไหนป้าก็ต้องไปรับใช้ที่นั่น พวกคุณก็รู้ว่าคติพจน์ของป้าคือสร้างความสุขให้ทุกคนด้วยอาหาร และคนที่ได้กินต้องจำไปจนวันตาย” สมพรยังหยอดมุกตลกร้ายให้ทุกคนต้องพรั่นพรึง

    ผมเป่าลมพรูใหญ่ออกจากริมฝีปาก พลางมองไปทางสาวทอมบอย ยามนี้เธอดึงหมวกดึงลงปิดใบหน้า

    “เหยี่ยว” ผมทวนชื่อเธออีกครั้ง ก่อนจะฉุกคิดได้ว่า ผู้โดยสารในรถคันนี้รู้จักกันมาก่อน!!

    ผมย้อนคิดถึงความรู้สึกอึดอัดในตอนขึ้นรถ คงเป็นเพราะว่าพวกเขาประหลาดใจที่ได้มาพบกันโดยไม่ได้นัดหมาย!!

    รถตู้แล่นต่อไปเรื่อยๆ จุดหมายอยู่ห่างจากนี้ราวหนึ่งชั่วโมงเศษ แต่จิตใจผมเริ่มสับสน เสียงเล็กๆ ในอกกู่ก้อง บอกให้ผมหันหลังกลับ แล้วละทิ้งความฝันลงเสีย ยามนี้หางตาข้างขวาเขม่นอย่างแรง และผมมีลางสังหรณ์ว่า หนทางข้างหน้าอาจมีเรื่องเลวร้ายรออยู่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่