****[Bayern Munich]***[29.09.2016] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกม Atlético de Madrid 1-0 FC Bayern München]

****[Bayern Munich]***[29.09.2016] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกม Atlético de Madrid 1-0 FC Bayern München]



สวัสดี เพื่อนๆทุกคนนะค่ะ
นัดเมื่อคืนพี่เสือก็บุกไปแพ้แอต.มาดริด 1-0 จากเสือ11ตัวกลายเป็นสาก11ตัว 55555
ทำให้ตราหมีรั้งจ่าฝูงของกลุ่มบีจากการเก็บ 6 แต้มเต็ม ส่วนบาเยิร์น มิวนิคหล่นมารั้งอันดับ 2 มี 3 คะแนนเท่าเดิม
สำหรับตอนนี้ก็ตามมาดูภาพบรรยากาศหลังเกมกันด้านล่างเลยค่ะ
อ้อ!!ถ้าเพื่อนๆผ่านเข้าทู้มาแวะมาทักทายกันก่อนนะค่ะ..ใครมีภาพมีข่าวที่ประทับใจโพสได้แปะได้ตามสบายค่ะ...อมยิ้ม01


ขุนพลโลส โคลโชเนรอส เก็บชัยเหนือทีมดังจากแคว้นบาวาเรียนได้ในบิเซนเต้ กัลเดรอนสองซีซั่นติดต่อกัน โดยได้ปีกชาวเบลเยียมเป็นฮีโร่กดประตูโทน

ดีเอโก้ ซิเมโอเน กุนซือเจ้าบ้าน กลับมาใช้สองตัวหลักที่ได้พักในเกมลาลีกานัดล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งเฉือนชนะเดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา 1-0 อย่าง ซาอูล นิเกวซ กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนดาวดังในแนวรุกรายอื่นๆก็ยังอยู่กันครบครันทั้ง โกเก้, ยานนิค การ์ราสโก้ และ อองตวน กรีซมันน์

ด้านทีมเยือนของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็กลับมาส่งแกนหลักที่เป็นแค่สำรองในบุนเดสลีกาเกมก่อนเมื่อวันเสาร์ที่บุกเชือดฮัมบูร์ก 1-0 ลงเป็น 11 คนแรกตามคาด ได้แก่ เยโรม บัวเต็ง, อาร์ตูโร วิดัล และ ฟรองค์ ริเบรี ด้านแผฝเกมรุกก็ยังฝากความหวังไว้ที่ โธมัส มุลเลอร์ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคย



ออกสตาร์ตเกมมาเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น เป็นบาเยิร์นที่ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ ติอาโก้ อัลคันทารา งัดบอลเข้าเขตโทษให้ โธมัส มุลเลอร์ วอลเลย์ตามน้ำด้วยขวาเน้นๆ แต่ยังโดน แยน โอบลัค เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม


ถัดมานาทีที่ 18 แอตเลติโกมีโอกาสบ้าง จากจังหวะที่ ดีเอโก้ โกดิน ไหลบอลให้ การ์ราสโก้ กระชากแหวกแนวรับเสือใต้ก่อนจะซัดมุมแคบด้วยขวา แต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังยืนตำแหน่งดีล้มตัวปัดป้องไว้ได้เช่นกัน

จากนั้นนาทีที่ 21 ตราหมีได้โอกาสอีกครั้ง จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ โกเก้ เปิดไปโดน เลวานดอฟสกี้ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมเช็ดมาเสาสองให้ ตอร์เรส โขกจ่อๆไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามจิ้มตามซ้ำ แต่ก็เบาเกินไปตรงตัว นอยเออร์ รับสบาย

จนกระทั่งนาทีที่ 35 เจ้าบ้านก็สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ กรีซมันน์ ไหลทะลุช่องให้ การ์ราสโก้ เกี่ยวด้วยขวาแล้วลากไปซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งเรียดเช็ดโคนเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้รองแชมป์เก่าออกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้



ครึ่งหลังบาเยิร์นที่สกอร์ตามหลังอยู่ ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมรุกบุกเข้าใส่เพื่อหวังตีเสมอให้ได้โดยเร็ว และมีโอกาสใกล้เคียงที่สุด ในนาทีที่ 50 จากการประสานงานกันของสองตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยเป็น ริบเรี ที่ไหลเข้าริมกรอบเขตโทษให้ ดาวิด อลาบ้า ยิงถึ่งดีดไซด์ก้อยด้วยซ้ายข้างถนัด แต่ก็ยังโดน โอบลัค ทุบทิ้งออกหลังได้หวุดหวิด

จากนั้นเสือใต้ตัดสินใจแก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองจนครบโควตา 3 คน ได้แก่ อาร์เยน ร็อบเบน, มัตส์ ฮุมเมลส์ และ โยชัว คิมมิช ที่ถูกส่งลงมาแทน มุลเลอร์, บัวเต็ง และ ติอาโก้ ในนาทีที่ 59, 62 และ 66 ตามลำดับ

ถัดมานาทีที่ 67 แอตเลติโกมีลุ้นได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ การ์ราสโก้ เจ้าเก่าลองส่องไกลด้วยขวาจากระยะประมาณ 25 หลา แต่ยังโดน นอยเออร์ ล้มตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้แบบมีเสียว

ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 ตราหมีมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดัล ไปเจตนากระแทกใส่ ฟิลิเป้ หลุยส์ แบบชัดเจน แต่ กรีซมันน์ กลับรับหน้าที่สังหารส่งบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย




หลังจากนั้นแม้ว่าทีมเยือนจะพยายามบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับอันเหนียวแน่นของเจ้าบ้านได้เลย ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแอตเลติโก มาดริดที่เฉือนชนะไปด้วยสกอร์เดียวกับที่พบกันเมื่อฤดูกาลก่อน 1-0 ทำให้ตราหมีรั้งจ่าฝูงของกลุ่มบีจากการเก็บ 6 แต้มเต็ม ส่วนบาเยิร์น มิวนิคหล่นมารั้งอันดับ 2 มี 3 คะแนนเท่าเดิม




Photos and gifs aren’t mine, credit to the owners! หลิ่วตา
ขอบคุณข่าวจากเพจ www.goal.com   และภาพจากGetty Images
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่