บ่อยครั้งที่ผมเดินทาง
บางทีกว่าจะถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ ท้องก็ร้องหิวขึ้นมาก่อนทุกที และทุกครั้งก็หนีไม่พ้นร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตามปั๊ม เหตุผลเพราะกินง่าย กินได้ ชัวร์ดีว่าคุ้นลิ้นแน่นอน
นึกเสียดายอยู่หลายครั้งว่า สองข้างทางที่นั่งหรือขับรถในเมืองไทยนั้น มีป้ายร้านอาหารเต็มไปหมดเลย แต่ที่เราไม่แวะจอดกินกันคือ “อร่อยรึเปล่า(ว่ะ)?” ใครเจอคำถามนี้ตอบยากมากครับ เพราะเขาคนตอบก็ย่อมไม่เคยกิน เพราะเพิ่งเห็นร้านพวกนี้ครั้งแรกกันทั้งนั้น 555
แต่ถ้าใครเดินทางมากับผม ร้านอาหารสองข้างทางใหม่ๆ ไม่เคยกินแบบนี่แหละคือเป้าหมาย เพราะเขาจะมีรสมืออร่อยๆ แบบ Local อยู่เฉพาะตัว มีความเป็นท้องถิ่น มีการบริการที่จริงใจแบบบ้านๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางอย่างเราๆ เป็นที่สุดครับ
“ครัวพฤกษา@ท่ายาง” เป็นร้านอาหารล่าสุดที่ทำให้ผมรู้สึกดีๆ แบบข้างต้น (กรุณามองบน 555) มันเริ่มจากสัญชาตญาณและนิสัยส่วนตัวครับ คือทุกครั้งที่ขับรถผ่าน 4 แยกไฟแดงตามจังหวัดหรือตัวอำเภอต่างๆ จะมีชุมชน ผู้คน ตลาด ของขายเพียบเลย ผมจะชะลอคันเร่งทันที เพื่อดูว่าเขาขายอะไร...กินอะไร...มีป้ายอะไรน่าสนใจบ้าง? เหมือนกับครั้งนี้ที่ขับผ่านแยก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สายตาแหลมคมดุจเหยี่ยวของผม (แต่สั้นและเอียงด้วย 555) ก็มองเห็นเหมือนป้ายบอกทางหลวงสีขาวเด่นๆ เขียนว่า “ครัวพฤกษา@ท่ายาง” ชี้เลี้ยวซ้ายเข้าไปซอยไม่กี่ร้อยเมตร แบบนี้ต้องลองครับ เผื่อเป็นร้านปักหมุดใหม่เวลาผ่านไปมาก่อนถึงชะอำและหัวหิน
เหมือนกินข้าวบ้านเพื่อน เหมือนนั่งกินโต๊ะม้าหินอ่อนอยู่ในสวนริมรั้วบ้าน...เป็นอารมณ์แรกที่รู้สึกกับร้านนี้จริงๆ แต่สำหรับผมนับเป็นข้อดีนะ ที่เราสามารถเข้าถึงวิถีชาวบ้านที่แห่งนั้นได้จริงๆ กินแบบเขาก็ฟินดีนะครับ ดังนั้นเวลาไปสั่งอาหารตามร้านต่างจังหวัด ผมจะตามใจพ่อครัวและแม่ครัวเลย อยากนำเสนอเมนูอะไร จัดมาได้เลย (ยกเว้นเนื้อวัวกับเค้กกล้วยหอม 555) และนี่คือเมนูแรกครับ “เขมรลาว AEC”
แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว พอมาเสิร์ฟตรงหน้าก็ยิ่งทึ่งเข้าไปอีก เพราะในจานใหญ่ๆ นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ด้านหนึ่งจะเป็นหน่อไม้ชิ้นเล็กๆ ผัดรวมกับเนื้อไก่และเครื่องปรุงรสจนกรอบ สีเหลืองทองน่ากิน มีรสชาติออกหวาน ส่วนอีกด้านจะเป็นการยำที่ Featuring หลากหลายมาก มีทั้งหมูแผ่น กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง หอมแดง พริกแดง พร้อมกับมีคะน้าใบใหญ่ๆ เรียงซ้อนกันเป็นตั้งอย่างสวยงาม เดาได้เลยว่า ผมต้องเอาสองด้านนี้มาใส่ในใบคะน้าแล้วห่อ คล้ายๆ กินเมี่ยงคำครับ รสชาตินั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน กินสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องมีน้ำจิ้มแต่ถึงใจ ครบรสเปรี้ยว หวาน มัน เผ็ด เอาเข้าปากหลายคำเพลินๆ จนนึกได้ว่า...อะไรคือเขมร? อะไรคือลาว? คำตอบนี้ได้รับการเฉลยจาก “พี่แจง - เจ้าของร้านครัวพฤกษา@ท่ายาง” ว่าเขมรคือฝั่งที่เป็นหน่อไม้รสหวานๆ ส่วนฝั่งลาวคือการยำหลายอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเติมคำว่า AEC ให้เข้ากับยุคสมัยสักหน่อย ที่สำคัญผมเพิ่งรู้ว่าเมนูนี้เป็นอาหารโบราณ ชาววังนิยมทำกัน แต่ปัจจุบันหากินยากมากครับ คล้ายๆ “ม้าฮ่อ” ที่เป็นค็อกเทลสไตล์ไทยแลนด์ ผมเคยมีโอกาสกินที่สวนทูนอิน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จากฝีมือของป้าติ๋ม คู่ชีวิตของอาว์รงษ์ วงค์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งวงการวรรณกรรม ว่างๆ ต้องกลับไปกินอีกรอบให้ได้
มาต่อกันที่จานสอง “หมูลุยดง” แค่ได้ยินชื่อก็จี๊ดแล้วครับ แล้วก็จี๊ดจัดจ้านอย่างที่คาดจริงๆ เพราะพ่อครัวจะนำเนื้อหมูไม่ติดมันไปลวกให้สุกพอดีๆ แบบเนื้อนุ่มๆ แล้วคลุกเคล้าเครื่องน้ำยำเต็บสูบให้เข้าเนื้อทุกชิ้น ก่อนเสิร์ฟราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดอีกรอบ โรยด้วยกระเทียมฝานชิ้นสวยๆ เหมาะกับตนชอบกินเผ็ดยิ่งนัก ส่วนชื่อเท่ห์ๆ ได้มาก็เพราะทุกอย่างนี้อยู่บนผักกระเฉด เหมือนการที่เนื้อหมูลุยดงหรือลุยป่าเข้าไปเก็บกระเฉด จนได้จานนี้ออกมาเสิร์ฟพวกเรา...ครีเอทไม่ใช่เล่นนะครับ
ตามประสาคนกินไม่เยอะ แค่สองจานนี้ผมก็อิ่มแล้ว แต่พี่แจงบอกว่า ขอให้ลองอีก 2 เมนู เป็นแพ็คคู่ตระกูลซี่โครงหมู นั่นคือ “ซี่โครงหมูผัดใบยี่หร่าและซี่โครงหมูอบสับปะรด” แล้วจะติดใจ...ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจานที่อยู่ตรงหน้าคือซี่โครงหมูจริงๆ เพราะทุกชิ้นทุกสับจนละเอียด คล้ายกับหมูสับมากๆ พอได้เอาเข้าปากเท่านั้น รสชาติกลมกล่อมและจัดจ้าน เสียงกรุบกรอบจากกระูดูกอ่อนหมูทำให้เมนูพิเศษขึ้นมาได้อย่างประหลาด แนะนำว่าให้กินคู่กับซี่โครงหมูอบสับปะรด เพื่อลดความเผ็ดร้อนด้วยความหวานละมุนลิ้นของซี่โครงหมูชิ้นกำลังดี ท่ามกลางพร็อพพริกหยวกหลากสีสัน และสับปะรดผลโตที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ทำให้เจริญอาหารอยากกินไปด้วยทั้งลูกจริงๆ 555 แต่พ่อครัวที่นี่กระซิบบอกว่า ถ้าเป็นลูกค้าฝรั่งจะชอบเมนูนี้มากๆ และจะเก็บผลสับปะรดกลับไปด้วยทุกครั้ง
บอกได้คำเดียวว่าอิ่มมากๆ ระหว่างรอย่อยก็นั่งมองรายชื่ออาหารบนเมนูแล้ว มีอีกหลายรายการที่น่ากินและน่าอร่อย ราคาแต่ละอย่างก็ไม่แพง เรียกได้ว่าสบายกระเป๋ามากๆ กินเสร็จรับรองว่ามีเงินเที่ยวทะเลชะอำและหัวหินต่อแบบฟินๆ เลย เอาเป็นว่าแวะเติมพลังให้ท้องที่ร้านนี้...ไม่ผิดหวังแน่นอน
--งั้นปักหมุดความอร่อยสไตล์ Local Food ที่ครัวพฤกษา@ท่ายาง...ทุกครั้งที่เดินทางได้เลยครับ
ครัวพฤกษา@ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เลย 4 แยกท่ายาง (ขาล่อง) ประมาณ 1 กม.
เลี้ยวซ้ายตามป้ายประมาณ 500 เมตร
เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
รับจัดงานเลี้ยงทุกประเภท
ฟรี! ห้องแอร์และห้องคาราโอเกะ
ฟรี! เดัก เมื่อจัดงานวันเกิด
ฟรี! กล่องรูปหัวใจ เมื่อจัดงานแต่งงาน
Tel : 081-830-7336
Fb : ครัวพฤกษาท่ายาง
ลด 10% ทันที! เมื่ออ่านจากรีวิวนี้
หนุ่ม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
[SR] ครัวพฤกษา@ท่ายาง...ปักหมุดความอร่อยสไตล์ Local Food By หนุ่ม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
บ่อยครั้งที่ผมเดินทาง
บางทีกว่าจะถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ ท้องก็ร้องหิวขึ้นมาก่อนทุกที และทุกครั้งก็หนีไม่พ้นร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตามปั๊ม เหตุผลเพราะกินง่าย กินได้ ชัวร์ดีว่าคุ้นลิ้นแน่นอน
นึกเสียดายอยู่หลายครั้งว่า สองข้างทางที่นั่งหรือขับรถในเมืองไทยนั้น มีป้ายร้านอาหารเต็มไปหมดเลย แต่ที่เราไม่แวะจอดกินกันคือ “อร่อยรึเปล่า(ว่ะ)?” ใครเจอคำถามนี้ตอบยากมากครับ เพราะเขาคนตอบก็ย่อมไม่เคยกิน เพราะเพิ่งเห็นร้านพวกนี้ครั้งแรกกันทั้งนั้น 555
แต่ถ้าใครเดินทางมากับผม ร้านอาหารสองข้างทางใหม่ๆ ไม่เคยกินแบบนี่แหละคือเป้าหมาย เพราะเขาจะมีรสมืออร่อยๆ แบบ Local อยู่เฉพาะตัว มีความเป็นท้องถิ่น มีการบริการที่จริงใจแบบบ้านๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางอย่างเราๆ เป็นที่สุดครับ
“ครัวพฤกษา@ท่ายาง” เป็นร้านอาหารล่าสุดที่ทำให้ผมรู้สึกดีๆ แบบข้างต้น (กรุณามองบน 555) มันเริ่มจากสัญชาตญาณและนิสัยส่วนตัวครับ คือทุกครั้งที่ขับรถผ่าน 4 แยกไฟแดงตามจังหวัดหรือตัวอำเภอต่างๆ จะมีชุมชน ผู้คน ตลาด ของขายเพียบเลย ผมจะชะลอคันเร่งทันที เพื่อดูว่าเขาขายอะไร...กินอะไร...มีป้ายอะไรน่าสนใจบ้าง? เหมือนกับครั้งนี้ที่ขับผ่านแยก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สายตาแหลมคมดุจเหยี่ยวของผม (แต่สั้นและเอียงด้วย 555) ก็มองเห็นเหมือนป้ายบอกทางหลวงสีขาวเด่นๆ เขียนว่า “ครัวพฤกษา@ท่ายาง” ชี้เลี้ยวซ้ายเข้าไปซอยไม่กี่ร้อยเมตร แบบนี้ต้องลองครับ เผื่อเป็นร้านปักหมุดใหม่เวลาผ่านไปมาก่อนถึงชะอำและหัวหิน
เหมือนกินข้าวบ้านเพื่อน เหมือนนั่งกินโต๊ะม้าหินอ่อนอยู่ในสวนริมรั้วบ้าน...เป็นอารมณ์แรกที่รู้สึกกับร้านนี้จริงๆ แต่สำหรับผมนับเป็นข้อดีนะ ที่เราสามารถเข้าถึงวิถีชาวบ้านที่แห่งนั้นได้จริงๆ กินแบบเขาก็ฟินดีนะครับ ดังนั้นเวลาไปสั่งอาหารตามร้านต่างจังหวัด ผมจะตามใจพ่อครัวและแม่ครัวเลย อยากนำเสนอเมนูอะไร จัดมาได้เลย (ยกเว้นเนื้อวัวกับเค้กกล้วยหอม 555) และนี่คือเมนูแรกครับ “เขมรลาว AEC”
แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว พอมาเสิร์ฟตรงหน้าก็ยิ่งทึ่งเข้าไปอีก เพราะในจานใหญ่ๆ นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ด้านหนึ่งจะเป็นหน่อไม้ชิ้นเล็กๆ ผัดรวมกับเนื้อไก่และเครื่องปรุงรสจนกรอบ สีเหลืองทองน่ากิน มีรสชาติออกหวาน ส่วนอีกด้านจะเป็นการยำที่ Featuring หลากหลายมาก มีทั้งหมูแผ่น กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง หอมแดง พริกแดง พร้อมกับมีคะน้าใบใหญ่ๆ เรียงซ้อนกันเป็นตั้งอย่างสวยงาม เดาได้เลยว่า ผมต้องเอาสองด้านนี้มาใส่ในใบคะน้าแล้วห่อ คล้ายๆ กินเมี่ยงคำครับ รสชาตินั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน กินสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องมีน้ำจิ้มแต่ถึงใจ ครบรสเปรี้ยว หวาน มัน เผ็ด เอาเข้าปากหลายคำเพลินๆ จนนึกได้ว่า...อะไรคือเขมร? อะไรคือลาว? คำตอบนี้ได้รับการเฉลยจาก “พี่แจง - เจ้าของร้านครัวพฤกษา@ท่ายาง” ว่าเขมรคือฝั่งที่เป็นหน่อไม้รสหวานๆ ส่วนฝั่งลาวคือการยำหลายอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเติมคำว่า AEC ให้เข้ากับยุคสมัยสักหน่อย ที่สำคัญผมเพิ่งรู้ว่าเมนูนี้เป็นอาหารโบราณ ชาววังนิยมทำกัน แต่ปัจจุบันหากินยากมากครับ คล้ายๆ “ม้าฮ่อ” ที่เป็นค็อกเทลสไตล์ไทยแลนด์ ผมเคยมีโอกาสกินที่สวนทูนอิน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จากฝีมือของป้าติ๋ม คู่ชีวิตของอาว์รงษ์ วงค์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งวงการวรรณกรรม ว่างๆ ต้องกลับไปกินอีกรอบให้ได้
มาต่อกันที่จานสอง “หมูลุยดง” แค่ได้ยินชื่อก็จี๊ดแล้วครับ แล้วก็จี๊ดจัดจ้านอย่างที่คาดจริงๆ เพราะพ่อครัวจะนำเนื้อหมูไม่ติดมันไปลวกให้สุกพอดีๆ แบบเนื้อนุ่มๆ แล้วคลุกเคล้าเครื่องน้ำยำเต็บสูบให้เข้าเนื้อทุกชิ้น ก่อนเสิร์ฟราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดอีกรอบ โรยด้วยกระเทียมฝานชิ้นสวยๆ เหมาะกับตนชอบกินเผ็ดยิ่งนัก ส่วนชื่อเท่ห์ๆ ได้มาก็เพราะทุกอย่างนี้อยู่บนผักกระเฉด เหมือนการที่เนื้อหมูลุยดงหรือลุยป่าเข้าไปเก็บกระเฉด จนได้จานนี้ออกมาเสิร์ฟพวกเรา...ครีเอทไม่ใช่เล่นนะครับ
ตามประสาคนกินไม่เยอะ แค่สองจานนี้ผมก็อิ่มแล้ว แต่พี่แจงบอกว่า ขอให้ลองอีก 2 เมนู เป็นแพ็คคู่ตระกูลซี่โครงหมู นั่นคือ “ซี่โครงหมูผัดใบยี่หร่าและซี่โครงหมูอบสับปะรด” แล้วจะติดใจ...ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจานที่อยู่ตรงหน้าคือซี่โครงหมูจริงๆ เพราะทุกชิ้นทุกสับจนละเอียด คล้ายกับหมูสับมากๆ พอได้เอาเข้าปากเท่านั้น รสชาติกลมกล่อมและจัดจ้าน เสียงกรุบกรอบจากกระูดูกอ่อนหมูทำให้เมนูพิเศษขึ้นมาได้อย่างประหลาด แนะนำว่าให้กินคู่กับซี่โครงหมูอบสับปะรด เพื่อลดความเผ็ดร้อนด้วยความหวานละมุนลิ้นของซี่โครงหมูชิ้นกำลังดี ท่ามกลางพร็อพพริกหยวกหลากสีสัน และสับปะรดผลโตที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ทำให้เจริญอาหารอยากกินไปด้วยทั้งลูกจริงๆ 555 แต่พ่อครัวที่นี่กระซิบบอกว่า ถ้าเป็นลูกค้าฝรั่งจะชอบเมนูนี้มากๆ และจะเก็บผลสับปะรดกลับไปด้วยทุกครั้ง
บอกได้คำเดียวว่าอิ่มมากๆ ระหว่างรอย่อยก็นั่งมองรายชื่ออาหารบนเมนูแล้ว มีอีกหลายรายการที่น่ากินและน่าอร่อย ราคาแต่ละอย่างก็ไม่แพง เรียกได้ว่าสบายกระเป๋ามากๆ กินเสร็จรับรองว่ามีเงินเที่ยวทะเลชะอำและหัวหินต่อแบบฟินๆ เลย เอาเป็นว่าแวะเติมพลังให้ท้องที่ร้านนี้...ไม่ผิดหวังแน่นอน
--งั้นปักหมุดความอร่อยสไตล์ Local Food ที่ครัวพฤกษา@ท่ายาง...ทุกครั้งที่เดินทางได้เลยครับ
ครัวพฤกษา@ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เลย 4 แยกท่ายาง (ขาล่อง) ประมาณ 1 กม.
เลี้ยวซ้ายตามป้ายประมาณ 500 เมตร
เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
รับจัดงานเลี้ยงทุกประเภท
ฟรี! ห้องแอร์และห้องคาราโอเกะ
ฟรี! เดัก เมื่อจัดงานวันเกิด
ฟรี! กล่องรูปหัวใจ เมื่อจัดงานแต่งงาน
Tel : 081-830-7336
Fb : ครัวพฤกษาท่ายาง
ลด 10% ทันที! เมื่ออ่านจากรีวิวนี้
หนุ่ม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014