สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนนะคะ
เราอยากแชร์ประสบการณ์ อยากปรึกษา และขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคนิดนึงค่ะ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราไปหาหมอ เพราะมีอาการแบบว่า...ริดสีดวงค่ะ คือเรารู้ตัวเองและคนในบ้านก็รู้ว่าอาการแบบนี้เป็นริดสีนะหนู
มันมีอาการก่อนหน้ามาก่อนแล้ว ถ่ายเป็นเลือด มีติ่งออกมาตอนอึ๊ประมาณนี้ จนมีวันอังคารที่แล้วรู้สึกไม่ไหวละ ดันติ่งเข้าจะเจ็บไปหมด
เลือดก็ไหล ดันเหนื่อยมาก เลยลางานไปโรงพยาบาล จพย. แถวปิ่นเกล้า ใช้สิทธิประกันของบริษัท ไปคนเดียวเพราะบ้านอยู่ต่างจังหวัดงี้
วันนั้นหมอแผนกศัลยกรรมเป็นผู้ชาย อายุมากแล้วเห็นพยาบาลเรียกว่าอาจารย์ หมอก็ขอดูอาการโดยให้เรานอนงอตัวบนเตียงหันก้นออกมาให้หมอตรวจ
หมอก็สะกิดติ่งออกมา เขี่ยไปมา อันนี้ไม่เท่าไหร่ แต่มันพีคตรงที่เอากลับเหวยยย หมอดันเข้าไปไม่คิดว่านี่จะเจ็บบ้างไรบ้าง
...แน่นอนเลยอ่ะ เราร้องลั่นห้อง
"โอ้ย หมอคะ มันเจ็บค่ะ เบาๆได้มั้ย"
"เจ็บก็ต้องทน นี่ถ้าปล่อยไว้ให้มันคาข้างนอกแบบนี้ มันก็เจ็บ"
ระหว่างนี้พยาบาลก็ซับเลือด แม่เอ้ยย เลือดไหลแบบว่าไร้เรี่ยวแรงแล้วนะนิ
"ค่ะ งั้นแปปนะคะ ขอทำใจแปป" จากนั้นนี่ก็เอาหมอนมากอดมากัดเลยค่ะ ตัวเกร็งไปหมด หน้าตาแม่ลอยมาเลย ฮ้องห้ายย
ในที่สุดมันเข้าได้แล้ว แต่นี่หมดแรง พยาบาลก็ถามไหวมั้ย เอาวีลแชร์มั้ย หน้าซีดแล้ว หมอตบบ่าเบาๆ ปลอบใจมั้ง
"มันไม่ใช่ริดสีดวง" หมอแกก็ไปทำธุระที่โต๊ะ
เราก็หันไปถามพยาบาลว่า "เอ่าาา แล้วริดสีดวงเป็นไงคะ"
"ริดสีดวงจะมี 2 แบบค่ะ คือภายนอกกับภายใน"
หมอก็ให้แต่งตัว เราก็มานั่งข้างโต๊ะ แกก็หยิบกระดาษมาวาดรูปให้ดูแล้วบอกว่า
"มันเป็นติ่งเนื้อ ขั้วมันอยู่ข้างในต้องผ่าออก ผ่าออกแล้วก็ต้องเอาไปตรวจว่ามีเนื้อร้ายมั้ย
แต่โอกาสน้อย ไม่น่ามีอะไรนะ ถ้าใจแข็งมาผ่าพรุ่งนี้ งดอาหารหลังเที่ยงคืนพรุ่งนี้เจอกัน"
.............ใจเย็นสิหมอ รู้สึกห่อเหี่ยวละ ถามหมอว่า ค่ารักษามันเท่าไหร่ หมอก็ส่งให้ไปคุยกับฝ่ายประเมิน
"ค่าผ่าตัด 25,000 ค่ะ นี่ยังไม่รวมค่าห้องและอื่นๆนะ ถ้ารวมแล้วก็ประมาณ 40,000 บวกลบ 20%"
"เอ่อ หนูขอถามที่บ้านก่อนค่ะ" คุยกับป้ากับแม่ก็ร้องไห้ เป็นอารมณ์แบบเราไม่มีใครมาด้วยอ่ะ อะไรเนี่ยนี่เราเจออะไรเนี่ย
ป้าอยากให้เรามาผ่าที่บ้านต่างจังหวัดหรือโรงพยาบาลอื่น เช่น พญาไท เพราะป้าเคยผ่ามดลูกที่นี่
จากนั้นก็ให้คุยกับญาติที่เป็นพยาบาล น้าเค้าบอกว่าให้ไปตรวจที่อื่นก่อน อย่าเพิ่งตัดสินใจ เพราะหมอบางที่มีแววนักธุรกิจ
ก็เลยบอกกับพยาบาลกับคนประเมินว่า "ไปผ่าที่ต่างจังหวัดค่ะ ว่าแต่มียามั้ยคะ"
"ไม่มียาให้นะคะ ที่บ้านมียาแก้ปวดมั้ย ถ้าปวดก็กิน ที่นี่แพงค่ะ"
... แล้วเรากลับห้องอย่างหมดสภาพ อารมณ์แบบดิ่งลงขั้นสุด คุยกับที่บ้าน กับพี่ที่ทำงาน เค้าให้คำปรึกษาว่าถ้าผ่าหรืออะไรจริงๆ
ลองไปประกันสังคมมั้ยเรามีประกันสังคม โรงพยาบาลราชวิถีอยู่ ก็เลยเออไปดีกว่าแต่ขอพักก้นวันนึง เจ็บเด้อ
วันพฤหัสมาโรงพยาบาลกับแม่แต่เช้า กว่าจะถึงคิวก็บ่ายแล้ว พอได้เข้าห้องปุ๊บ หมอเป็นผู้ชายคนนี้หนุ่มหน่อย เตรียมใจมาอย่างดีกะต้องเจ็บอีกแน่ๆ แต่ไม่เลยเหวย บอกอาการหมอ หมอบอกว่าน่าจะเป็นริดสีดวง ขอดูหน่อย เราก็ขึ้นเตียงตามสูตร หมอก็แค่เอานิ้วมาจิ้มเบาๆ แล้วถามว่าตรงนี้ใช่มั้ย
"เป็นริดสีดวงนะ จะผ่าก้ได้ไม่ผ่าก้ได้ แต่ว่าไม่ต้องหรอก เดี๋ยวให้ยาแล้วกัน หายช้าหน่อยนะ แล้วเดี๋ยวอีก 2 อาทิตย์มาดู"
แล้วหมอก็ใส่ยาให้
อ้าวคือไร สรุปเราเป็นอะไร หรือต้องไปอีกโรงพยาบาล นับคะแนนเสียงข้างมาก แต่เราเชื่อใจหมอราชวิถีนะ เพราะอาการตอนนี้ที่กินยามาจะครบอาทิตย์ มันโอเคเลย
เล่าให้ที่บ้านฟังที่บ้านโมโหมาก โมโหโรงพยาบาลแรกขั้นสุด เราก็โมโหนะ โมโหที่แบบเจ็บอ่ะ เจ็บก้นก็ต้องทนเดินคนเดียวงี้
เลยมีคำถามขอปรึกษาหรืออะไรก็ได้ ถ้าเกิดมีกรณีนี้เกิดขึ้นเราจะรับมือยังไง เราควรจะตัดสินใจยังไง
หรือว่ามันไม่ผิดที่หมอจะคาดเดาอะไรที่ขั้นรุนแรงไว้ก่อน เผื่อจะสกัดกั้นทันงี้หรอ
ขอบคุณนะคะ เรื่องมันยาวเต็มไปด้วยอารมณ์พลุกพล่านฟุ้งเฟ้อ ไม่ได้แต่ง เรื่องจริงพันเปอร์เด้อ
แชร์ประสบการณ์ + ขอคำปรึกษา เมื่อหมอวินิจฉัยว่าเราเป็นติ่งเนื้อที่รูทวาร ต้องผ่านะยูววว
เราอยากแชร์ประสบการณ์ อยากปรึกษา และขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคนิดนึงค่ะ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราไปหาหมอ เพราะมีอาการแบบว่า...ริดสีดวงค่ะ คือเรารู้ตัวเองและคนในบ้านก็รู้ว่าอาการแบบนี้เป็นริดสีนะหนู
มันมีอาการก่อนหน้ามาก่อนแล้ว ถ่ายเป็นเลือด มีติ่งออกมาตอนอึ๊ประมาณนี้ จนมีวันอังคารที่แล้วรู้สึกไม่ไหวละ ดันติ่งเข้าจะเจ็บไปหมด
เลือดก็ไหล ดันเหนื่อยมาก เลยลางานไปโรงพยาบาล จพย. แถวปิ่นเกล้า ใช้สิทธิประกันของบริษัท ไปคนเดียวเพราะบ้านอยู่ต่างจังหวัดงี้
วันนั้นหมอแผนกศัลยกรรมเป็นผู้ชาย อายุมากแล้วเห็นพยาบาลเรียกว่าอาจารย์ หมอก็ขอดูอาการโดยให้เรานอนงอตัวบนเตียงหันก้นออกมาให้หมอตรวจ
หมอก็สะกิดติ่งออกมา เขี่ยไปมา อันนี้ไม่เท่าไหร่ แต่มันพีคตรงที่เอากลับเหวยยย หมอดันเข้าไปไม่คิดว่านี่จะเจ็บบ้างไรบ้าง
...แน่นอนเลยอ่ะ เราร้องลั่นห้อง
"โอ้ย หมอคะ มันเจ็บค่ะ เบาๆได้มั้ย"
"เจ็บก็ต้องทน นี่ถ้าปล่อยไว้ให้มันคาข้างนอกแบบนี้ มันก็เจ็บ"
ระหว่างนี้พยาบาลก็ซับเลือด แม่เอ้ยย เลือดไหลแบบว่าไร้เรี่ยวแรงแล้วนะนิ
"ค่ะ งั้นแปปนะคะ ขอทำใจแปป" จากนั้นนี่ก็เอาหมอนมากอดมากัดเลยค่ะ ตัวเกร็งไปหมด หน้าตาแม่ลอยมาเลย ฮ้องห้ายย
ในที่สุดมันเข้าได้แล้ว แต่นี่หมดแรง พยาบาลก็ถามไหวมั้ย เอาวีลแชร์มั้ย หน้าซีดแล้ว หมอตบบ่าเบาๆ ปลอบใจมั้ง
"มันไม่ใช่ริดสีดวง" หมอแกก็ไปทำธุระที่โต๊ะ
เราก็หันไปถามพยาบาลว่า "เอ่าาา แล้วริดสีดวงเป็นไงคะ"
"ริดสีดวงจะมี 2 แบบค่ะ คือภายนอกกับภายใน"
หมอก็ให้แต่งตัว เราก็มานั่งข้างโต๊ะ แกก็หยิบกระดาษมาวาดรูปให้ดูแล้วบอกว่า
"มันเป็นติ่งเนื้อ ขั้วมันอยู่ข้างในต้องผ่าออก ผ่าออกแล้วก็ต้องเอาไปตรวจว่ามีเนื้อร้ายมั้ย
แต่โอกาสน้อย ไม่น่ามีอะไรนะ ถ้าใจแข็งมาผ่าพรุ่งนี้ งดอาหารหลังเที่ยงคืนพรุ่งนี้เจอกัน"
.............ใจเย็นสิหมอ รู้สึกห่อเหี่ยวละ ถามหมอว่า ค่ารักษามันเท่าไหร่ หมอก็ส่งให้ไปคุยกับฝ่ายประเมิน
"ค่าผ่าตัด 25,000 ค่ะ นี่ยังไม่รวมค่าห้องและอื่นๆนะ ถ้ารวมแล้วก็ประมาณ 40,000 บวกลบ 20%"
"เอ่อ หนูขอถามที่บ้านก่อนค่ะ" คุยกับป้ากับแม่ก็ร้องไห้ เป็นอารมณ์แบบเราไม่มีใครมาด้วยอ่ะ อะไรเนี่ยนี่เราเจออะไรเนี่ย
ป้าอยากให้เรามาผ่าที่บ้านต่างจังหวัดหรือโรงพยาบาลอื่น เช่น พญาไท เพราะป้าเคยผ่ามดลูกที่นี่
จากนั้นก็ให้คุยกับญาติที่เป็นพยาบาล น้าเค้าบอกว่าให้ไปตรวจที่อื่นก่อน อย่าเพิ่งตัดสินใจ เพราะหมอบางที่มีแววนักธุรกิจ
ก็เลยบอกกับพยาบาลกับคนประเมินว่า "ไปผ่าที่ต่างจังหวัดค่ะ ว่าแต่มียามั้ยคะ"
"ไม่มียาให้นะคะ ที่บ้านมียาแก้ปวดมั้ย ถ้าปวดก็กิน ที่นี่แพงค่ะ"
... แล้วเรากลับห้องอย่างหมดสภาพ อารมณ์แบบดิ่งลงขั้นสุด คุยกับที่บ้าน กับพี่ที่ทำงาน เค้าให้คำปรึกษาว่าถ้าผ่าหรืออะไรจริงๆ
ลองไปประกันสังคมมั้ยเรามีประกันสังคม โรงพยาบาลราชวิถีอยู่ ก็เลยเออไปดีกว่าแต่ขอพักก้นวันนึง เจ็บเด้อ
วันพฤหัสมาโรงพยาบาลกับแม่แต่เช้า กว่าจะถึงคิวก็บ่ายแล้ว พอได้เข้าห้องปุ๊บ หมอเป็นผู้ชายคนนี้หนุ่มหน่อย เตรียมใจมาอย่างดีกะต้องเจ็บอีกแน่ๆ แต่ไม่เลยเหวย บอกอาการหมอ หมอบอกว่าน่าจะเป็นริดสีดวง ขอดูหน่อย เราก็ขึ้นเตียงตามสูตร หมอก็แค่เอานิ้วมาจิ้มเบาๆ แล้วถามว่าตรงนี้ใช่มั้ย
"เป็นริดสีดวงนะ จะผ่าก้ได้ไม่ผ่าก้ได้ แต่ว่าไม่ต้องหรอก เดี๋ยวให้ยาแล้วกัน หายช้าหน่อยนะ แล้วเดี๋ยวอีก 2 อาทิตย์มาดู"
แล้วหมอก็ใส่ยาให้
อ้าวคือไร สรุปเราเป็นอะไร หรือต้องไปอีกโรงพยาบาล นับคะแนนเสียงข้างมาก แต่เราเชื่อใจหมอราชวิถีนะ เพราะอาการตอนนี้ที่กินยามาจะครบอาทิตย์ มันโอเคเลย
เล่าให้ที่บ้านฟังที่บ้านโมโหมาก โมโหโรงพยาบาลแรกขั้นสุด เราก็โมโหนะ โมโหที่แบบเจ็บอ่ะ เจ็บก้นก็ต้องทนเดินคนเดียวงี้
เลยมีคำถามขอปรึกษาหรืออะไรก็ได้ ถ้าเกิดมีกรณีนี้เกิดขึ้นเราจะรับมือยังไง เราควรจะตัดสินใจยังไง
หรือว่ามันไม่ผิดที่หมอจะคาดเดาอะไรที่ขั้นรุนแรงไว้ก่อน เผื่อจะสกัดกั้นทันงี้หรอ
ขอบคุณนะคะ เรื่องมันยาวเต็มไปด้วยอารมณ์พลุกพล่านฟุ้งเฟ้อ ไม่ได้แต่ง เรื่องจริงพันเปอร์เด้อ