พูดถึงร้านอาหารในพัทยา เราก็มักจะคิดถึงแต่ร้านอาหารซีฟู้ดเจ้าดังๆ ทั้งหลายใช่ไหมคะ แต่ไปพัทยาทริปนี้ พิณกับเพื่อนๆ อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ก็เลยตัดสินใจไปให้รางวัลตัวเอง (เป็นข้ออ้าง เพราะที่จริงแล้วไม่ได้มีโอกาสพิเศษอะไรเลย
) ในร้านอาหารหรู ของโรงแรมที่เค้าว่ากันว่าหรูมากกกกกกกในพัทยา
ร้านอาหารนี้มีชื่อว่า "Caprice" ตั้งอยู่ที่โรงแรม Royal Wing Suites and Spa ในเขตของ Royal Cliff Hotels Group บนเขาพระตำหนักตรงพัทยาใต้ ห่างจากตรง Walking Street ไปนิดเดียวเอง
เดินเข้าไปในบริเวณโรงแรมนี่บอกเลยว่า หรูมากกกก หรูจนแอบเขินไม่กล้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
เลยทีเดียว พอบอกพนักงานว่ามาทานอาหารค่ะ พนักงานก็พาลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่างสุด เราก็จะเจอกับห้องอาหารหรูริมสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นทะเลไกลๆ บรรยากาศดีมากๆ
อันนี้เป็นทางเดินไปสระว่ายน้ำค่ะ
(รูปที่เห็นมืดๆ นี่ถ่ายตอนจะกลับแล้วนะคะ สักสามทุ่มได้รอบข้างก็เลยมืดหมดแล้ว ตอนลงมาตอนแรกยังเขินอยู่ 5555+)
มีโซนให้เลือกว่าจะนั่งด้านนอกริมสระ หรือจะนั่งในห้องแอร์ด้านใน
ซึ่งอากาศแบบนี้ แน่นอนว่าเราก็เลือกนั่งด้านในสิคะ
พอเรามานั่งที่โต๊ะน้องพนักงานก็จะนำผ้าเย็นมาให้เช็ดไม้เช็ดมือ พร้อมด้วยเมนูของทางร้าน ซึ่งราคาเมนคอร์สของที่นี่เท่าที่จำได้คร่าวๆ ก็อยู่ประมาณ 700-900 บาท ซึ่งก็จัดว่าแพงอยู่
แต่!!!!
คุณคะ ที่นี่มีเซ็ทเมนูซึ่งจะปรับเปลี่ยนทุกๆ สัปดาห์ เป็น 5-course เซ็ทแบบหรูหรามากๆ ในราคาเพียง 999++ บาท/คน ซึ่งพอรวมตัว ++ แล้วก็อยู่ที่ 1175 บาทเท่านั้น (ถูกกว่าเวลาเราไปทานร้านอาหารหรือทานบุฟเฟต์บางครั้งซะอีก
)
ซึ่งคอร์สที่เค้าจัดมา ถ้าเราอยากปรับตรงไหนก็ปรับได้เลยนะคะ สามารถเลือกเป็นเมนูที่เราชอบ หรือให้เชฟแนะนำให้ได้เลย (เชฟที่นี่น่ารักมากกกก ยิ่งตอนยิ้มนะ...โอ๊ยยยย นี่จะละลาย
)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอบเอารูปเชฟมาจากเว็บโรงแรมนะคะ เขินจนไม่กล้าขอถ่ายรูป 55555555
[img]http://f.ptcdn.info/195/046/000/odzy3jn58Y0r1D0dCK7-o.jpg[/img]
พอเราสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะเอาขนมปังมาให้ พร้อมกับเนยสดแล้วก็ดิปสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติมันๆ ไม่หวานมาก แล้วก็ไม่เลี่ยน กินจนต้องขอดิปนี่เพิ่มอีกสองรอบ (จะอิ่มขนมปังก่อนอาหารไหมเนี่ย
จริงๆ มันมาเต็มตะกร้านะคะ แต่ที่เห็นแค่นี้คือกว่าจะถ่ายรูป ก็ดิปหมดไปสองรอบแล้วอะ)
Complimentary Bite ของวันนี้เป็นกุ้งในมะเขือเทศซัลซ่าค่ะ เปรี้ยวหวานลงตัว คิดถึงก็หิวขึ้นมาทันทีเลย (ไม่ทันได้ถ่ายรูปนะคะ ตอนนั้นยังไม่ทันคิดว่าจะรีวิว อิอิ)
อาหารจานแรกในเซ็ท คือ Prime Beef Tatarte แต่เราไม่ทานเนื้อ เชฟก็เลยแนะนำให้เปลี่ยนเป็น Salmon Tatarte แทน โดยจานนี้จะเสริฟมาคู่กับขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มในกำลังดี มีผักและพาเมซานชีสด้านบน (ลืมถ่ายรูปเช่นเดิม ขอโทษทีนะคะ)
จานที่สองเป็น Homemade Potato Gnocchi ในซอส Blue Cheese ตอนแรกเรากลัวว่ากลิ่นจะแรงจนทานไม่ได้ แต่พอมาเสริฟ มันนัวมากๆ ค่ะ รสหวานของมันฝรั่งเข้ากับกลิ่นหอมๆ และรสเค็มอ่อนๆ ของบลูชีสสุดๆ แล้วก็มีมะเขือเทศมาตัดให้ไม่เปรี้ยวเกินไป เราถึงขนาดเอาขนมปังมาปาดซอสทานจนเกลี้ยงจานเลยทีเดียว
อาหารจะมาพร้อมฝาครอบแบบนี้ค่ะ แล้วพนักงานก็จะเปิดฝานี้พร้อมกันทั้งโต๊ะ อลังการมากกกก
เพื่อนเราสั่งไวน์มาดื่มแก้สนึง ก็เลยแฮปมาถ่ายรูปซะเลย
จานที่สาม Pan-Seared White Snapper Fillet เนื้อปลาทอดจนหนังกรอบ แต่เนื้อในยังชุ่มฉ่ำ ปรุงรสมาแบบอร่อยมากจริงๆ ไม่ต้องโรยเกลือหรืออะไรเพิ่มเลย ราดซอสรสเปรี้ยวๆ ที่ทำจากหอยแมลงภู่ (มีเนื้อหอยใส่มาในจานด้วย) จานนี้เสริฟมากับมันฝรั่งอบ (ซึ่งเรากินมันฝรั่งไม่หมดค่ะ กินขนมปังเข้าไปหลายชิ้น)
จานที่สี่เป็นขนมหวาน Poached Pear in Red Wine เสริฟคู่กับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมด ลูกแพร์เชื่มมาไม่หวานมาก พอทานกับไอศกรีมวานิลลาหอมๆ แล้วฟินสุดๆ ไปเลย
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยชาหรือกาแฟแล้วแต่คุณจะเลือก เสริฟกับช็อกโกแลตสูตรพิเศษของโรงแรมรอยัล คลิฟ เราเลือกเป็น Peppermint Tea กินแล้วสดชื่น เป็นการปิดท้ายมื้อหรูๆ นี้อย่างสวยงาม
ค่าเสียหายของมื้อนี้ทั้งหมดอยู่ที่คนละ 999++ บาท เพื่อนเราสั่งไวน์ 1 แก้ว 140++ บาท รวม 3692.25 บาท
ดูเผินๆ มันก็สูงอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพอาหารและบริการ รวมไปถึงบรรยากาศในร้าน บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ จริงๆ
[CR] [CR] รีวิวห้องอาหาร Caprice พัทยา อร่อย บรรยากาศดี ฟินสุดๆ คุ้มสุดๆ
ร้านอาหารนี้มีชื่อว่า "Caprice" ตั้งอยู่ที่โรงแรม Royal Wing Suites and Spa ในเขตของ Royal Cliff Hotels Group บนเขาพระตำหนักตรงพัทยาใต้ ห่างจากตรง Walking Street ไปนิดเดียวเอง
เดินเข้าไปในบริเวณโรงแรมนี่บอกเลยว่า หรูมากกกก หรูจนแอบเขินไม่กล้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป เลยทีเดียว พอบอกพนักงานว่ามาทานอาหารค่ะ พนักงานก็พาลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่างสุด เราก็จะเจอกับห้องอาหารหรูริมสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นทะเลไกลๆ บรรยากาศดีมากๆ
อันนี้เป็นทางเดินไปสระว่ายน้ำค่ะ
(รูปที่เห็นมืดๆ นี่ถ่ายตอนจะกลับแล้วนะคะ สักสามทุ่มได้รอบข้างก็เลยมืดหมดแล้ว ตอนลงมาตอนแรกยังเขินอยู่ 5555+)
มีโซนให้เลือกว่าจะนั่งด้านนอกริมสระ หรือจะนั่งในห้องแอร์ด้านใน
ซึ่งอากาศแบบนี้ แน่นอนว่าเราก็เลือกนั่งด้านในสิคะ
พอเรามานั่งที่โต๊ะน้องพนักงานก็จะนำผ้าเย็นมาให้เช็ดไม้เช็ดมือ พร้อมด้วยเมนูของทางร้าน ซึ่งราคาเมนคอร์สของที่นี่เท่าที่จำได้คร่าวๆ ก็อยู่ประมาณ 700-900 บาท ซึ่งก็จัดว่าแพงอยู่
แต่!!!!
คุณคะ ที่นี่มีเซ็ทเมนูซึ่งจะปรับเปลี่ยนทุกๆ สัปดาห์ เป็น 5-course เซ็ทแบบหรูหรามากๆ ในราคาเพียง 999++ บาท/คน ซึ่งพอรวมตัว ++ แล้วก็อยู่ที่ 1175 บาทเท่านั้น (ถูกกว่าเวลาเราไปทานร้านอาหารหรือทานบุฟเฟต์บางครั้งซะอีก )
ซึ่งคอร์สที่เค้าจัดมา ถ้าเราอยากปรับตรงไหนก็ปรับได้เลยนะคะ สามารถเลือกเป็นเมนูที่เราชอบ หรือให้เชฟแนะนำให้ได้เลย (เชฟที่นี่น่ารักมากกกก ยิ่งตอนยิ้มนะ...โอ๊ยยยย นี่จะละลาย )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ /img]
พอเราสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะเอาขนมปังมาให้ พร้อมกับเนยสดแล้วก็ดิปสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติมันๆ ไม่หวานมาก แล้วก็ไม่เลี่ยน กินจนต้องขอดิปนี่เพิ่มอีกสองรอบ (จะอิ่มขนมปังก่อนอาหารไหมเนี่ย จริงๆ มันมาเต็มตะกร้านะคะ แต่ที่เห็นแค่นี้คือกว่าจะถ่ายรูป ก็ดิปหมดไปสองรอบแล้วอะ)
Complimentary Bite ของวันนี้เป็นกุ้งในมะเขือเทศซัลซ่าค่ะ เปรี้ยวหวานลงตัว คิดถึงก็หิวขึ้นมาทันทีเลย (ไม่ทันได้ถ่ายรูปนะคะ ตอนนั้นยังไม่ทันคิดว่าจะรีวิว อิอิ)
อาหารจานแรกในเซ็ท คือ Prime Beef Tatarte แต่เราไม่ทานเนื้อ เชฟก็เลยแนะนำให้เปลี่ยนเป็น Salmon Tatarte แทน โดยจานนี้จะเสริฟมาคู่กับขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มในกำลังดี มีผักและพาเมซานชีสด้านบน (ลืมถ่ายรูปเช่นเดิม ขอโทษทีนะคะ)
จานที่สองเป็น Homemade Potato Gnocchi ในซอส Blue Cheese ตอนแรกเรากลัวว่ากลิ่นจะแรงจนทานไม่ได้ แต่พอมาเสริฟ มันนัวมากๆ ค่ะ รสหวานของมันฝรั่งเข้ากับกลิ่นหอมๆ และรสเค็มอ่อนๆ ของบลูชีสสุดๆ แล้วก็มีมะเขือเทศมาตัดให้ไม่เปรี้ยวเกินไป เราถึงขนาดเอาขนมปังมาปาดซอสทานจนเกลี้ยงจานเลยทีเดียว
อาหารจะมาพร้อมฝาครอบแบบนี้ค่ะ แล้วพนักงานก็จะเปิดฝานี้พร้อมกันทั้งโต๊ะ อลังการมากกกก
เพื่อนเราสั่งไวน์มาดื่มแก้สนึง ก็เลยแฮปมาถ่ายรูปซะเลย
จานที่สาม Pan-Seared White Snapper Fillet เนื้อปลาทอดจนหนังกรอบ แต่เนื้อในยังชุ่มฉ่ำ ปรุงรสมาแบบอร่อยมากจริงๆ ไม่ต้องโรยเกลือหรืออะไรเพิ่มเลย ราดซอสรสเปรี้ยวๆ ที่ทำจากหอยแมลงภู่ (มีเนื้อหอยใส่มาในจานด้วย) จานนี้เสริฟมากับมันฝรั่งอบ (ซึ่งเรากินมันฝรั่งไม่หมดค่ะ กินขนมปังเข้าไปหลายชิ้น)
จานที่สี่เป็นขนมหวาน Poached Pear in Red Wine เสริฟคู่กับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมด ลูกแพร์เชื่มมาไม่หวานมาก พอทานกับไอศกรีมวานิลลาหอมๆ แล้วฟินสุดๆ ไปเลย
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยชาหรือกาแฟแล้วแต่คุณจะเลือก เสริฟกับช็อกโกแลตสูตรพิเศษของโรงแรมรอยัล คลิฟ เราเลือกเป็น Peppermint Tea กินแล้วสดชื่น เป็นการปิดท้ายมื้อหรูๆ นี้อย่างสวยงาม
ค่าเสียหายของมื้อนี้ทั้งหมดอยู่ที่คนละ 999++ บาท เพื่อนเราสั่งไวน์ 1 แก้ว 140++ บาท รวม 3692.25 บาท
ดูเผินๆ มันก็สูงอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพอาหารและบริการ รวมไปถึงบรรยากาศในร้าน บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ จริงๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น