เมื่อฉัน....ได้ทำงานที่ไม่ชอบ
เมื่อฉัน....ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่โอเค
และเมื่อฉัน...เจอหัวหน้าที่ไม่ถูกชะตา
เมื่อสามอย่างนี้มาอยู่รวมกัน ชีวิตของฉันจึงเปลี่ยนไป
ยอมรับค่ะ การทำงานที่สถานที่นี้ตอนแรก พยายามคิดตลอด เราอาจปรับตัวไม่ค่อยได้ งานยังไม่ลงตัว แต่เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู้ปีที่สาม ความพยายามทั้งหมดเหมือนจะเริ่มน้อยลง ใจเริ่มไม่สู้ การมองโลกในแง่ดีย่อมเปลี่ยนไป ยอมรับค่ะช่วงแรกการทำงานเข้ากับใครไม่ได้เลย แต่พยายามปรับตัวหาพี่ๆ เพราะเราเข้าใหม่ แต่พี่ก็ยังเหมือนเดิมตลอดสามปี อย่างแรกที่เจอ เวลาทำงานผิดพลาด จะมีแค่เราคนเดียวค่ะ พอผิดพลาดบอกหัวหน้าเลย โดยไม่มีการเตือนค่ะ เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเริ่มหาความผิดพลาด พยายามแก้ไข และจะเป้นกับเราเพียงคนเดียว กับคนอื่นจะบอกกระซิบหรือ ช่วยกันก่อน แต่กับเราคือ ไม่มีเลยสักครั้ง และหัวหน้าเราอารมร์ร้ายมากค่ะ คือ ถ้าอารมณ์ไม่ดีแต่เช้าก็จะลงกับทุกคนค่ะ ซึ่งทำให้เราไม่ชอบ เรารู้สึกเหมือนเค้าไม่แยกแยะค่ะ เช่น ทะเลาะกับคนงาน แม่บ้าน ก็จะลงที่คนทำงานแบบเราๆตลอด และจะชอบยกย่องลูกตัวเองค่ะ คือลูกนางจบปอโทค่ะ แต่แบบยังขอเงินนางใช้ คือนางพูดแบบภาคภูมิใจค่ะ เช่น เวลาซื้อของอะไรก็ตาม นางจะออกเงินให้ลูกตลอดค่ะ แบบนี้นางเรียกความภูมิใจค่ะ และลูกนางจบปอโทค่ะ แต่หางานทำไม่ได้ ก็ต้องให้สามีนางฝากเข้าทำงานค่ะ นางก็เอามาเล่าว่าสามีนางใหญ่นะ เอาลูกเข้าทำงานได้ คือความสู้สึกเราจบปอโท เราควรพยายามหางานเองมั้ยคะ ไม่ใช่จบแล้ว ขอฝากเลย เพราะนางเคยเล่าที่ทำงานสามีนางก็เม้าค่ะเด็กฝากเด็กเว้น แต่นางด้อนแคร์ค่ะ แต่การที่นางได้เป็นหัวหน้า นางไม่อยากเป็นนะคะ คือเบื้องบนบังคับค่ะ อันนี้คือ นางเล่าให้เราฟัง ว่าไม่อยากเป็นมาก แต่ก็จะให้เอาใครเป็นหัวหน้าสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องคนของเราเองค่ะ นางเลยยอมเป็น แต่จากที่พี่ๆร่วมงานเล่ามาเป้ฯเสียงเดียวกัน คือ นางค่ะอยากเป็นมาก ตอนสมัครหัวหน้ารอบแรก นางไม่ได้ เพราะพี่ๆเค้าแบนนางค่ะ ไม่อยากให้เป็น นางเลยโดนเป็นตำแหน่งรักษาการเกือบปี ช่วงนั้น นางโกดมากค่ะ ว่าใครไม่ได้นางเป็น จนสืบรู้ค่ะ แล้วก้พยายามกลั่นแกล้งคนที่ทำให้นางไม่ได้เป็นตลอด จนกระทั่งเบื้องบน ลงมาคุยค่ะ ว่าให้ยอมรับเป็นหัวหน้าซะ ไม่อยากมีปัญหาวงในกว่านี้ นั้นแหละค่ะ เค้าถึงต้องยอมแบบฝืนใจกัน และพอนางได้ขึ้นเป็นหัวหน้า นางก็เปี่ยนไปค่ะ นางบ้าอำนาจ เวลาเรียกตัวเองก็จะเรียกว่า ''ฉันคือหัวหน้าพวกเธอนะ'' ต้องฟังฉันสิ และนางเป็นคนไม่เ่ก่งไรเลยค่ะ แม้แต่คอมพิวเตอร์เบสิค นางก็ต้องง้อเสมียนค่ะ คือ ไม่มีไม่ได้ค่ะ แล้วก้จะง้อตลอดการทำงาน แบบ เสมียนหายไปทำธุระส่วนตัวนานๆโดยไม่บอกก็ไม่โดนค่ะ เล่นไลน์ คุยโทรศัพท์ ตอนทำงาน นางไม่เคยว่าค่ะ โดนอ้างเหตุผลว่า พี่มีงานให้เค้าทำอีกเยอะ ให้เค้าพักหน่อย คือเวลางานนะคะ ขณะที่ทุกคนทำอย่างหนัก แต่กลับปล่อยปละละเลย คนที่ตนต้องใช้เค้าทำงานค่ะ และชอบเสนอตัวต่อเบื้องบนค่ะ อันนี้คือทุกคนเอือมระอา เพราะอะไรหรอคะ ก็เพราะรับอย่างเดียวไงคะ รับมากองให้ลูกน้องทำค่ะ พอเสร็จก็ไปเอาหน้ากับเบื้องคนค่ะ ทุกคนต่างไม่กล้าพูดค่ะ เพราะเกรงใจความเป็นหัวหน้า เค้าสั่งิะไรก็ต้องทำๆไปค่ะ และความเสนอหน้าของนางยังไม่จบค่ะ นางจะชอบหาเวลางานแวะเวียนไปเลียแข้งเลียขาเบื้องบนบ่อยๆค่ะ แบบชนิดที่ไม่มีงานก็ไป รู้โดยการได้ยิงนางโทชวนหัวหน้าคนอื่นๆ อารมณ์ ''ขึ้นไปเจอเบื้องบนหน่อยละกัน'' และนางจะมีลูกรักค่ะ ลูกที่รักคือ ใชล้ได้ไม่บ่น และเลียขาแข้งนาง พวกนี้ก็แสบใช่ย่อยค่ะ แต่ก็แอบสงสารพวกนางเพราะเวลารับงานนางมา ลูกรักต้องเสนอตัวสิคะ ก็รักนี่คะ รักมากกกกกก และเข้าสโลแกน ทำไปบ่นไปค่ะ เพราะก็ไม่ได้อยากทำ แค่ความจำเป็นค่ะ ส่วนพวกลูกไม่รัก อย่างเราๆก้ก้มหน้าโดนด่าเรื่องจุกจิก และรับเคราะห์แทน ลูกรัก เวลาลูกรักทำงานพลาด นางรู้ดีแก่ใจ แต่ก็เรามาลงกับเราค่ะ บางครั้งถ้าหลักฐานการทำผิดชัดเจนมาก เราก้ไม่ยอมนะคะ งัดออกมาใช้ค่ะ นางก้จะเงิบ เหวอ และขอโทดแบบไม่เต็มใจค่ะ และเราเจอแบบนี้สามสี่รอบค่ะ คนอื่นที่เจอไม่กล้าพูดไร ก้มหน้าก้มตารับไป และเคยมีพี่บอกเราค่ะ ผิดไม่ผิด เราก็ต้องรีบไป ให้เรื่ีองจบๆไปค่ะ (สังคมนี้อยู่ยากไปไหมคะ) และเมื่อเราลุกขึ้นสู้ ทุกคนกลับมองเราก้าวร้าวค่ะ หาว่าเราไม่เคารพรุ่นพี่ค่ะ คือเราก็ต้องปกป้องตัวเองมั้ย มาทำเป็นคนดีรับแทนคนอื่นตลอดมันไม่ได้ค่ะ และที่สำคัญถ้าเกิดความเข้าใจผิดจริง กลับขอโทดเรา จะเสแสร้งพูดดีกับเราค่ะ คือเรารู้สึกไม่ได้มั้ย ตบหลังลูบหลัง หัวหน้าเราเป็นคนแบบนั้นแหละค่ะ .
- ปล.1 เราคิดลาออกหลายรอบมากค่ะ แต่เราจะทนอีกสองปี หัวหน้าเราจะออกค่ะ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น หวังว่าอะไรที่เจอคงไม่เลวร้ายกว่านี้
-- ปล2 .เราเป็นน้องใหม่สุดในที่ทำงาน ยอมรับค่ะ ว่า เวลางานพลาด ย่อมนึกถึงเรา แต่หัวหน้าไม่ถามค่ะ เล็งมาที่เราตลอด และชอบด่าว่าเรากลางที่ทำงานไม่เคยเรียกคุย แต่พอขอโทดแล้วล่ำก็ ลองนึกนะคะ
ว่าเดินผ่านกัน พูดคำว่า ขอโทด ออกมาลอยๆ คือ ไม่มีความรุ้สึกผิดที่ทำเราอับอาย ความน่าเชื่อถือก็เสียไปค่ะ
- ปล.3 ทุกคนอาจมองว่าเรามองโลกแง่ร้าย แต่ถ้าเจอเหมือนเรา แล้วลองดูค่ะ จะทนไหวมั้ย?
เพิ่มเติม นิดนึง ครั้งแรกที่เค้าประกาศว่าเราได้ทำงานที่นี่ เพื่อนที่มาร่วมกัน แต่แบ่งแผนกกัน ต่างพูดว่า เราสงสารเรามากค่ะ เพราะรู้ชื่อเสียงหัวหน้าดี แต่ตอนนั้นเราเฉยๆค่ะ เพราะยังไม่เจอของจริงจากหัวหน้า คือ เพื่อนเราใช้คำว่า เลวร้ายที่สุดที่เคยเจอมาก ในที่ไปฝึกงานมาค่ะ
เมื่อฉันเจอ...หัวหน้าที่ไม่ถูกชะตา ในการทำงานถึง 2 ปี
เมื่อฉัน....ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่โอเค
และเมื่อฉัน...เจอหัวหน้าที่ไม่ถูกชะตา
เมื่อสามอย่างนี้มาอยู่รวมกัน ชีวิตของฉันจึงเปลี่ยนไป
ยอมรับค่ะ การทำงานที่สถานที่นี้ตอนแรก พยายามคิดตลอด เราอาจปรับตัวไม่ค่อยได้ งานยังไม่ลงตัว แต่เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู้ปีที่สาม ความพยายามทั้งหมดเหมือนจะเริ่มน้อยลง ใจเริ่มไม่สู้ การมองโลกในแง่ดีย่อมเปลี่ยนไป ยอมรับค่ะช่วงแรกการทำงานเข้ากับใครไม่ได้เลย แต่พยายามปรับตัวหาพี่ๆ เพราะเราเข้าใหม่ แต่พี่ก็ยังเหมือนเดิมตลอดสามปี อย่างแรกที่เจอ เวลาทำงานผิดพลาด จะมีแค่เราคนเดียวค่ะ พอผิดพลาดบอกหัวหน้าเลย โดยไม่มีการเตือนค่ะ เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเริ่มหาความผิดพลาด พยายามแก้ไข และจะเป้นกับเราเพียงคนเดียว กับคนอื่นจะบอกกระซิบหรือ ช่วยกันก่อน แต่กับเราคือ ไม่มีเลยสักครั้ง และหัวหน้าเราอารมร์ร้ายมากค่ะ คือ ถ้าอารมณ์ไม่ดีแต่เช้าก็จะลงกับทุกคนค่ะ ซึ่งทำให้เราไม่ชอบ เรารู้สึกเหมือนเค้าไม่แยกแยะค่ะ เช่น ทะเลาะกับคนงาน แม่บ้าน ก็จะลงที่คนทำงานแบบเราๆตลอด และจะชอบยกย่องลูกตัวเองค่ะ คือลูกนางจบปอโทค่ะ แต่แบบยังขอเงินนางใช้ คือนางพูดแบบภาคภูมิใจค่ะ เช่น เวลาซื้อของอะไรก็ตาม นางจะออกเงินให้ลูกตลอดค่ะ แบบนี้นางเรียกความภูมิใจค่ะ และลูกนางจบปอโทค่ะ แต่หางานทำไม่ได้ ก็ต้องให้สามีนางฝากเข้าทำงานค่ะ นางก็เอามาเล่าว่าสามีนางใหญ่นะ เอาลูกเข้าทำงานได้ คือความสู้สึกเราจบปอโท เราควรพยายามหางานเองมั้ยคะ ไม่ใช่จบแล้ว ขอฝากเลย เพราะนางเคยเล่าที่ทำงานสามีนางก็เม้าค่ะเด็กฝากเด็กเว้น แต่นางด้อนแคร์ค่ะ แต่การที่นางได้เป็นหัวหน้า นางไม่อยากเป็นนะคะ คือเบื้องบนบังคับค่ะ อันนี้คือ นางเล่าให้เราฟัง ว่าไม่อยากเป็นมาก แต่ก็จะให้เอาใครเป็นหัวหน้าสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องคนของเราเองค่ะ นางเลยยอมเป็น แต่จากที่พี่ๆร่วมงานเล่ามาเป้ฯเสียงเดียวกัน คือ นางค่ะอยากเป็นมาก ตอนสมัครหัวหน้ารอบแรก นางไม่ได้ เพราะพี่ๆเค้าแบนนางค่ะ ไม่อยากให้เป็น นางเลยโดนเป็นตำแหน่งรักษาการเกือบปี ช่วงนั้น นางโกดมากค่ะ ว่าใครไม่ได้นางเป็น จนสืบรู้ค่ะ แล้วก้พยายามกลั่นแกล้งคนที่ทำให้นางไม่ได้เป็นตลอด จนกระทั่งเบื้องบน ลงมาคุยค่ะ ว่าให้ยอมรับเป็นหัวหน้าซะ ไม่อยากมีปัญหาวงในกว่านี้ นั้นแหละค่ะ เค้าถึงต้องยอมแบบฝืนใจกัน และพอนางได้ขึ้นเป็นหัวหน้า นางก็เปี่ยนไปค่ะ นางบ้าอำนาจ เวลาเรียกตัวเองก็จะเรียกว่า ''ฉันคือหัวหน้าพวกเธอนะ'' ต้องฟังฉันสิ และนางเป็นคนไม่เ่ก่งไรเลยค่ะ แม้แต่คอมพิวเตอร์เบสิค นางก็ต้องง้อเสมียนค่ะ คือ ไม่มีไม่ได้ค่ะ แล้วก้จะง้อตลอดการทำงาน แบบ เสมียนหายไปทำธุระส่วนตัวนานๆโดยไม่บอกก็ไม่โดนค่ะ เล่นไลน์ คุยโทรศัพท์ ตอนทำงาน นางไม่เคยว่าค่ะ โดนอ้างเหตุผลว่า พี่มีงานให้เค้าทำอีกเยอะ ให้เค้าพักหน่อย คือเวลางานนะคะ ขณะที่ทุกคนทำอย่างหนัก แต่กลับปล่อยปละละเลย คนที่ตนต้องใช้เค้าทำงานค่ะ และชอบเสนอตัวต่อเบื้องบนค่ะ อันนี้คือทุกคนเอือมระอา เพราะอะไรหรอคะ ก็เพราะรับอย่างเดียวไงคะ รับมากองให้ลูกน้องทำค่ะ พอเสร็จก็ไปเอาหน้ากับเบื้องคนค่ะ ทุกคนต่างไม่กล้าพูดค่ะ เพราะเกรงใจความเป็นหัวหน้า เค้าสั่งิะไรก็ต้องทำๆไปค่ะ และความเสนอหน้าของนางยังไม่จบค่ะ นางจะชอบหาเวลางานแวะเวียนไปเลียแข้งเลียขาเบื้องบนบ่อยๆค่ะ แบบชนิดที่ไม่มีงานก็ไป รู้โดยการได้ยิงนางโทชวนหัวหน้าคนอื่นๆ อารมณ์ ''ขึ้นไปเจอเบื้องบนหน่อยละกัน'' และนางจะมีลูกรักค่ะ ลูกที่รักคือ ใชล้ได้ไม่บ่น และเลียขาแข้งนาง พวกนี้ก็แสบใช่ย่อยค่ะ แต่ก็แอบสงสารพวกนางเพราะเวลารับงานนางมา ลูกรักต้องเสนอตัวสิคะ ก็รักนี่คะ รักมากกกกกก และเข้าสโลแกน ทำไปบ่นไปค่ะ เพราะก็ไม่ได้อยากทำ แค่ความจำเป็นค่ะ ส่วนพวกลูกไม่รัก อย่างเราๆก้ก้มหน้าโดนด่าเรื่องจุกจิก และรับเคราะห์แทน ลูกรัก เวลาลูกรักทำงานพลาด นางรู้ดีแก่ใจ แต่ก็เรามาลงกับเราค่ะ บางครั้งถ้าหลักฐานการทำผิดชัดเจนมาก เราก้ไม่ยอมนะคะ งัดออกมาใช้ค่ะ นางก้จะเงิบ เหวอ และขอโทดแบบไม่เต็มใจค่ะ และเราเจอแบบนี้สามสี่รอบค่ะ คนอื่นที่เจอไม่กล้าพูดไร ก้มหน้าก้มตารับไป และเคยมีพี่บอกเราค่ะ ผิดไม่ผิด เราก็ต้องรีบไป ให้เรื่ีองจบๆไปค่ะ (สังคมนี้อยู่ยากไปไหมคะ) และเมื่อเราลุกขึ้นสู้ ทุกคนกลับมองเราก้าวร้าวค่ะ หาว่าเราไม่เคารพรุ่นพี่ค่ะ คือเราก็ต้องปกป้องตัวเองมั้ย มาทำเป็นคนดีรับแทนคนอื่นตลอดมันไม่ได้ค่ะ และที่สำคัญถ้าเกิดความเข้าใจผิดจริง กลับขอโทดเรา จะเสแสร้งพูดดีกับเราค่ะ คือเรารู้สึกไม่ได้มั้ย ตบหลังลูบหลัง หัวหน้าเราเป็นคนแบบนั้นแหละค่ะ .
- ปล.1 เราคิดลาออกหลายรอบมากค่ะ แต่เราจะทนอีกสองปี หัวหน้าเราจะออกค่ะ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น หวังว่าอะไรที่เจอคงไม่เลวร้ายกว่านี้
-- ปล2 .เราเป็นน้องใหม่สุดในที่ทำงาน ยอมรับค่ะ ว่า เวลางานพลาด ย่อมนึกถึงเรา แต่หัวหน้าไม่ถามค่ะ เล็งมาที่เราตลอด และชอบด่าว่าเรากลางที่ทำงานไม่เคยเรียกคุย แต่พอขอโทดแล้วล่ำก็ ลองนึกนะคะ
ว่าเดินผ่านกัน พูดคำว่า ขอโทด ออกมาลอยๆ คือ ไม่มีความรุ้สึกผิดที่ทำเราอับอาย ความน่าเชื่อถือก็เสียไปค่ะ
- ปล.3 ทุกคนอาจมองว่าเรามองโลกแง่ร้าย แต่ถ้าเจอเหมือนเรา แล้วลองดูค่ะ จะทนไหวมั้ย?
เพิ่มเติม นิดนึง ครั้งแรกที่เค้าประกาศว่าเราได้ทำงานที่นี่ เพื่อนที่มาร่วมกัน แต่แบ่งแผนกกัน ต่างพูดว่า เราสงสารเรามากค่ะ เพราะรู้ชื่อเสียงหัวหน้าดี แต่ตอนนั้นเราเฉยๆค่ะ เพราะยังไม่เจอของจริงจากหัวหน้า คือ เพื่อนเราใช้คำว่า เลวร้ายที่สุดที่เคยเจอมาก ในที่ไปฝึกงานมาค่ะ